“คุณเป็นผู้หญิงของผม ตอนนี้ใช่ และจะเป็นตลอดไป!”
ข้างๆหูได้ยินคำมั่นสัญญาที่จริงจังของเย่เทียน แต่หลู่ซีซานกลับอดไม่ได้ที่หัวเราะออกมา และแสร้งทำท่าทางที่ดุร้าย พูดด้วยรอยยิ้ม “เป็นยังไง? ฉันทำให้ตกใจใช่ไหม?
เย่เทียนอมยิ้ม ส่ายหัวแล้วพูดว่า “ใช่ ใช่ ใช่! เมื่อกี้ใครให้คุณดุขนาดนั้นล่ะ คุณทำให้ฉันตกใจจริงๆ”
หลังจากพูดคุยกันไม่กี่คำ ความอึดอัดใจก็หายไปหมดสิ้น แทนที่ด้วยบรรยากาศอันอบอุ่น
ในใจเย่เทียนรู้ดีว่า ผู้หญิงที่ชื่อหลู่ซีซานคนนี้ ต่อไปจะกลายเป็นคนสำคัญที่สุดในชีวิตของเขา!
นี่คือการตัดสินใจของเขา และยิ่งเป็นคำมั่นสัญญาของเขาที่มีต่อหลู่ซีซาน!
“เอาเถอะ คุณน่าจะยังมีธุระที่ต้องทำ? อย่าเสียเวลาอยู่ตรงนี้เลย รีบไปเถอะ!”
ในระหว่างพูด หลู่ซีซานลุกขึ้นยืน ก้าวไปดึงเย่เทียนแล้วเดินไปที่ประตู เย่เทียนส่ายหัวด้วยรอยยิ้มที่ขมขื่นและจนปัญญา เขารู้ว่าหลู่ซีซานไม่อยากมีเศร้าใจอีกก็เลยไล่เขาออกไป แต่เขากลับไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี ดังนั้นจึงถูกผู้หญิงผลักออกจากประตูไป
หลู่ซีซานมองดูเย่เทียนขึ้นรถและขับหายไปจากสายตา ถึงได้ดึงสติกลับมา มุมปากเผยรอยยิ้มที่น่าประทับใจ แต่ในรอยยิ้มที่มีความขมขื่นนี้ ใครๆก็สามารถดูออก
บางทีเย่เทียนอาจไม่ได้หลอกเธอ หรือบางทีเย่เทียนอาจจะพูดโกหก แต่ตัวเธอเอง ก็ได้ตัดสินใจแล้วว่า จะไปจากเมืองจินนี้!
เธอหันกลับมา ดวงตาที่สวยงามคู่นั้นมองดูบ้านพักที่อยู่ตรงหน้าด้วยความรู้สึกอาลัยอาวรณ์ จากนั้นไม่กี่นาทีสีหน้าที่แน่วแน่ก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้า หยิบโทรศัพท์มือถือออกจากกระเป๋า และกดโทรหมายเลขที่เธอไม่ได้โทรมานานมากแล้ว
“คุณอารอง ให้คนมารับฉันกลับเถอะ!”
หลังจากพูดจบ เธอก็วางสาย แหงนหน้ามองท้องฟ้าเป็นมุมสี่สิบห้าองศา แสงนั้นทำให้รู้สึกแสบตามาก เธออดไม่ได้ที่จะหลั่งน้ำตาหยดใสๆออกมาจากหางตา
“เย่เทียน ต่อจากนี้ไปพวกเราก็เป็นแค่คนแปลกหน้า ต่างลืมกันและกันเถอะ!”
.....
อันที่จริง สถานที่ที่หลู่ซีซานอาศัยอยู่นั้นอยู่ห่างจากบ้านของตระกูลเย่ไม่ไกลนัก หากเย่เทียนขับรถด้วยความเร็วเต็มที่ เขาจะสามารถไปถึงได้ภายในเวลาไม่ถึงสิบห้านาที
แต่ เย่เทียนไม่ได้เลือกที่จะกลับไป แม้ถึงตอนนี้ เขาก็ยังไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับคุณย่าเย่ยังไง
ถึงแม้จะเจอกัน เขาก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี ยิ่งไม่รู้ว่าควรใช้ท่าทีแบบไหนไปเผชิญหน้า
หรือว่า จะพูดอย่างตรงไปตรงมาว่าตัวเองไม่เคยปล่อยวางเรื่องราวที่เกิดขึ้นในปีนั้น?
สำหรับคุณย่าเย่แล้ว ไม่มีข้อสงสัยเป็นเรื่องที่โหดร้ายเกินไป เมื่อพิจารณาถึงสุขภาพร่างกายของคุณย่าเย่ เย่เทียนคิดว่าไม่เจอเป็นคำตอบที่ดีที่สุดละ
เดิมทีเย่เทียนคิดอยากโทรไปหาเฉินหวั่นชิง คิดไม่ถึงว่าทันทีที่เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาหยวนเข่อเหวยก็โทรมาหา ดังนั้นเขาจึงต้องรีบไปหาหยวนเข่อเหวยก่อน
ก็ใช้เวลาเพียงสิบนาที เย่เทียนก็มาถึงสถานที่นัดหมาย ทันทีที่เขาหยุดรถ อาคารที่อยู่อาศัยที่อยู่ข้างๆก็เปิดออก มีหลายคนเดินออกมาจากด้านใน ผู้นำที่น่าหวาดกลัวคนนั้นก็คือหยวนเข่อเหวย
เย่เทียนแสดงสีหน้าตกตะลึงทันที คิดไม่ถึงว่าสถานที่ที่เบื้องบนจัดให้หยวนเข่อเหวยจะเป็นที่นี่ คนที่ร้ายกาจกลับไปอยู่ในสถานที่ไม่เด่นดัง!
ไม่ว่ายังไง ดวงตาสีเข้มของเย่เทียนหรี่ลงเล็กน้อย สายตาเหลือบมองไปที่ผู้นำหยวนเข่อเหวย จากนั้นก็มองไปหกคนที่ติดตามเขาทันที
ดูจากท่าทางการเคลื่อนไหวของพวกเขาแล้ว เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเป็นบุคลากรที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี ในตัวพวกเขาเย่เทียนสามารถรู้สึกได้ถึงความอันตราย เกรงว่าน่าจะมีชื่อเสียงได้ฝึกฝนและมีประสบการณ์ในการสู้รบสงคราม!
กลุ่มพวกเขามีแปดคน แบ่งออกเป็นรถสองคัน เป้าหมายตรงไปที่ห้องปฏิบัติการทดลองของตระกูลเย่ที่เฉินหวั่นชิงอยู่
ในระหว่างทาง ต่างไม่มีใครเอ่ยปากพูด แม้แต่เย่เทียนก็หลับตาทำสมาธิรวบรวมพลัง ในความเป็นจริงเขากำลังปรับสภาพร่างกายของตัวเองอย่างเงียบๆ เพื่อป้องกันเสว่อิ่งที่อาจปรากฏขึ้นในวันนี้
“ภารกิจของพวกเราในวันนี้จะบอกว่าง่ายก็ง่าย จะว่ายากมันก็ยาก”
อยู่ในรถ หยวนเข่อเหวยเตือนทุกคนผ่านหูฟัง “แม้ว่าพวกเราแค่ต้องการส่งสารพันธุกรรมไปยังเขตทหารนอกเมืองก็พอ แต่ถนนสายนี้จะต้องเต็มไปด้วยความวิตกกังวล ไม่รู้ว่าจะมีคนขัดขวางเท่าไหร่ ผมหวังว่าทุกคนจะมีความคิดที่จะสู้เต็มที่ไม่มีล่าถอย แม้ว่าต้องแลกด้วยชีวิต ก็ต้องคุ้มกันส่งสารพันธุกรรมไปให้ถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย! เข้าใจมั้ย?!”
ทุกคนต่างให้คำตอบที่แน่วแน่ ทำให้เย่เทียนรู้สึกประหลาดใจ และรู้สึกชื่นชมพวกเขาอย่างจริงใจ
พวกเขาล้วนแต่ยอมตายเพื่อชาติได้!
ไม่นานทุกคนก็มาถึงประตูห้องห้องปฏิบัติการ หยวนเข่อเหวยลงจากรถ แต่พบว่าเย่เทียนไม่ได้ขยับแม้แต่น้อย อดไม่ได้ที่จะถามว่า “คุณจะไม่ลงไปด้วยเหรอ?”
เย่เทียนเหลือบมองหลายคนที่ยืนอยู่ทางเข้าห้องปฏิบัติการ และยิ้มอย่างจนปัญญา "ช่างเถอะ! ผมไม่เข้าไปดีกว่า อยู่ที่นี่รับประกันว่าปลอดภัยรอบด้าน!”
ที่ทางเข้าอาคารห้องปฏิบัติการ เห็นได้ชัดว่ามีจี้เยียนหรัน เซวหมานจื่อ แม้แต่คุณย่าเย่ก็มาถึงแล้ว ยืนอยู่ตรงนั้นอย่างน่าประทับใจ เดิมทีเขาต้องการหลบพวกเขา แล้วจะเดินไปข้างหน้าทำไมล่ะ?
หยวนเข่อเหวยก็ไม่ได้สงสัย พยักหน้าและพาเปาโสงและคนอื่นๆอีกหกคนลงจากรถเดินตรงไปที่ประตูห้องปฏิบัติการ
สำหรับสารพันธุกรรม เบื้องบนให้ความสนใจไม่น้อย ความสำคัญสูงมาก เกือบทุกคนที่อยู่ในสถานที่นี้เป็นยอดฝีมือที่หนึ่งคนสามารถต่อสู้กับศัตรูเป็นร้อย
แต่ ไม่ว่าจะเป็นบริษัทนักฆ่า หรือจะเป็นเสว่อิ่งพวกมันล้วนไม่ใช่คนที่จะล่วงเกินได้ง่ายๆ วันนี้คงต้องมีการต่อสู้ระหว่างศึกมังกรปะทะพยัคฆ์แน่นอน……
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่
ฝากถึงทีมงาน เราชอบอ่านนิยายมานาน...อ่านทุกประเภทและนิยายจีน..จากปี2520..อ่านมาตลอดในเวปใหญ่ๆ ชอบที่ทีมงานในเวปที่ให้อ่านฟรี..ก็อยากสนับสนุนถ้ามีโอกาส..และเวปดังๆเขาเก็บแพง..สมัยก่่อนเคยอ่านนิยายทั้งไทยจีน ค่าเช่าเล่มละ3บาท...แต่เวปดังๆเขาคิดตอนละ3บาท บางเรื่องมีหลายพันตอนซึ่งเมื่อเทียบแล้วเป็นเงินหลายพันบาท ซึ่งแพงกว่าเช่ามาก...เพื่อให้เวปพัฒนาขึ้น มีนิยายให้อ่านมากๆเรื่อง...มีค่าอ่านเช่น10ตอน3บาทหรือแล้วแต่ทางทีมงานจะตั้งราคา ที่ไม่สูงมากอย่างเวปอื่นซึ่งทีมงานคงรู้..นำมาปรับปรุงเวปนี้ เพราะชอบการแปลแบบนี้...
55555โดนสะงั้น...
Goๆๆๆๆๆๆ...
สุดยอดๆๆๆๆ...
ต่อไปๆๆๆ...
ยอมรับว่าเล้าใจๆๆ...
ติดตามๆๆๆๆไปต่อ...
ไปต่อๆๆๆ...
ต่อๆๆไปเลย...
สุดยอด...