ตามองเห็นชายถือมีดกระโจนเข้ามา พิจารณาถึงพลังงานสองส่วนที่ขัดแย้งไม่หยุดภายในร่างกายตนเอง เพื่อไม่ให้เพิ่มความขัดแย้งให้กันและกัน เย่เทียนจึงทำได้เพียงพลางสู้พลางถอย รู้สึกเสียใจครู่หนึ่ง รู้แต่แรกว่าผลลัพธ์จะเป็นแบบนี้ น่าจะพาตี๋ต้าจื้อเข้ามาด้วยกัน
เขามองออกว่า ชายถือมีดตรงหน้าคนนี้คงเพิ่งเข้าสู่แดนระดับดินได้ไม่นานมากนัก นี่สำหรับตี๋ต้าจื้อที่กำลังอยู่ระดับดำสูงสุดแล้ว ย่อมเป็นคู่ต่อสู้ฝึกฝนอย่างดีมากแบบไม่ต้องสงสัย เชื่อว่าผ่านการสู้รบกับชายถือมีด ต้าตี๋จื้อยิ่งเข้าสู่แดนระดับดินได้เร็วขึ้น
ไม่ว่าจะพูดอย่างไร ในใจเย่เทียนยังคงหลงอยู่ในความคิดมากมาย แต่การกระทำกลับไม่ประมาทสักนิด ถึงแม้เขาจะไม่กล้าใช้การชี่ทิพย์สักเท่าไร แต่ทักษะเตะต่อยของเขายังไม่เลวพอกัน
การโจมตีแทบจะทุกครั้งของชายถือมีด เย่เทียนมักจะสามารถหลบออกมาในนาทีอันตรายล่อแหลมได้ เฉียดผ่านกับคมมีดดุเดือดนั้นได้แบบอันตรายมาก
ชายถือมีดยิ่งสู้ก็ยิ่งโกรธ ทนไม่ไหวพึมพำเสียงดังว่า “ทำไมแกถึงเป็นแบบนี้? เป็นผู้ชายก็อย่าหลบสิ มาสู้กับฉันแบบสง่าสักตั้ง!”
เย่เทียนแบมือสองข้างออก ทำลักษณะจำใจอย่างมาก “ไม่เอาสิ! ฉันบอกกับนายแล้วว่าเป่ายิ้งฉุบตัดสินแพ้ชนะนายก็ไม่เต็มใจ พวกเราไม่มีความแค้นต่อกัน นั่งลงปรึกษาหารือกันดีๆ ไม่ได้เหรอ?”
ชายถือมีดโกรธจนหน้าแดง ร้องคำรามว่า “แกแม่งรอฉันไว้นะ ฉันจะจับแกมาตีให้บวมจนกลายเป็นหัวหมูเลย!”
ระหว่างที่พูด เขาก็ไม่ได้หยุด ยังกระทืบเท้า ทันใดนั้นพื้นดินปรากฏรอยเท้าออกมา แวบเดียวแฉลบผ่านไปด้านหน้าของเย่เทียน ภายใต้การสาดส่องของแสงจันทร์สลัว คมมีดในมือเปล่งประกายแสงเย็นเฉียบแหลมคม ฟันไปทางเย่เทียนอย่างไม่หวาดหวั่น
เย่เทียนอดตกใจไม่ได้เลย กลับนึกไม่ถึงว่าพลังระเบิดของชายถือมีดจะแรงขนาดนี้ เวลานี้ไม่สนใจแล้วว่าจะกระเซอะกระเซิงอย่างไร รีบกลิ้งฉับไวหลบออกมาทันที
ชายถือมีดมองจนในใจหัวเราะเยาะไม่หยุด ถือมีดวิ่งเข้ามาอีกครั้งดุจเสือดุร้าย เดิมทีไม่ให้โอกาสเย่เทียนได้หายใจ
คมมีดอันดุร้ายแวบผ่าน สายตามองเห็นว่ากำลังจะตกลงบนตัวของเย่เทียน แต่ในเวลานี้เอง ไม่เห็นความตื่นตระหนกของเย่เทียนสักนิด ขยับเท้าสักหน่อย ไถลออกด้านข้างอย่างประหลาดสักสองสามก้าว
“หือ?”
ฉากนี้ทำให้ชายถือมีดอดตะลึงในใจไม่ได้ เขามีความมั่นใจเต็มที่ต่อการโจมตีเมื่อสักครู่นั้น กลับนึกไม่ถึงว่าจะปรากฏอุบัติเหตุขนาดนี้
ถึงพูดเช่นนี้ การตอบสนองของเขาก็ไม่ช้า ขณะเดียวยังแอบด่าเย่เทียนปลิ้นปล้อนในใจ หมุนพลิกข้อมือต่อเนื่อง จากที่ฟาดฟันก่อนหน้านี้เปลี่ยนเป็นกวาดล้าง
ตามองเห็นคมมีดโจมตีมาอีกครั้ง เย่เทียนไม่ได้ตื่นตกใจแต่อย่างใด แม้กระทั่งมุมปากวาดเส้นรัศมีวงกลมเรียบๆ ขึ้นแล้ว มือขวามีเหรียญอันหนึ่งเพิ่มมาอย่างน่าประหลาด งอนิ้วแล้วดีดไปทีหนึ่งฉับพลัน
เคล้ง!
เหรียญโจมตีบนตัวมีดอย่างหนักในทันใด กระทบจนเกิดประกายไฟพร่าตาออกมา
ชั่วขณะนั้นชายถือมีดรู้สึกถึงพลังยิ่งใหญ่จากบนมีดกระจายไปทั้งตัว อดตกตะลึงไม่ได้ทันที ทว่าดันไม่มีการตอบสนองเข้ามา
ไม่รอให้เขามีปฏิกิริยามาอีก หางตากลับเหลือบเห็นเย่เทียนแนบตัวเข้ามาจากด้านข้าง ในลูกตาหมัดขนาดใหญ่นับวันยิ่งใหญ่ขึ้น
ปึง!
เสียงทุ้มดังขึ้นทีหนึ่ง ชายถือมีดตอบสนองมาไม่ทันโดยสิ้นเชิง หน้าอกโดนเย่เทียนต่อยอย่างหนักสักหมัด
“อะเหอะ?”
ชั่วขณะหนึ่งชายถือมีดอดไม่ไหวส่งเสียงพึมพำทุ้มๆ ออกมา ร่างกายใหญ่โตกระเด็นออกไปด้านหลังแบบควบคุมไม่อยู่ ราวกับว่าวที่สายเชือกขาด วาดเป็นเส้นโค้งที่งดงามออกมาเส้นหนึ่ง จากนั้นหล่นที่พื้นอย่างหนักอึ้ง
“โอ๊ย! เจ็บจะตายแล้ว!”
ชายถือมีดรีบเด้งตัวกลับหลังลุกขึ้นยืนทันที ลูบหน้าอกอยู่ด้วยท่าทางเจ็บทรมาน
ในขณะเดียวกัน การต่อสู้ของเจี่ยซือหวี่ทางนั้นก็เข้าสู่ระดับตึงเครียดดุเดือดแล้ว
ถึงแม้เจี่ยซือหวี่จะเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง แต่เธอกลับมีความสามารถไม่ธรรมดา อาศัยเสียงร้องประหลาดที่ฉลาดหลักแหลมนั้น ดึงดูดงูพิษรอบด้านเข้ามาโจมตีชายชุดถังจวงไม่หยุด
ชายชุดถังจวงสีหน้าเคร่งขรึม ถึงแม้งูพิษจะไม่ได้สร้างบาดแผลแท้จริงให้แก่เขา แต่จำนวนมากขนาดนี้ก็ทำให้เขาไม่มีทางเข้าใกล้เจี่ยซือหวี่ได้เลย
“คิดจริงเหรอว่าฉันไม่มีทางทำอะไรเธอได้? งั้นให้เธอได้รับรู้ฝีมือแท้จริงของฉันเถอะ!”
ชายชุดถังจวงตะโกนอย่างโมโหทันใด ขยับเท้าฉับไวต่อเนื่อง ทั้งตัวกลายเป็นพายุพัดแรงโดยปริยาย ทำให้งูพิษพวกนั้นเดิมทีไม่กล้าเข้าใกล้อีก
“พายุเรียบง่าย?”
เจี่ยซือหวี่ตะลึง อดร้องออกมาไม่ได้ “นายเป็นคนของตระกูลกัว?”
ชายชุดถังจวงพูดด้วยท่าทางหยิ่งยโส “ถือว่าเธอยังมีความรู้อยู่!”
เจี่ยซือหวี่ราวกับนึกอะไรขึ้นได้ ถามหยั่งเชิงดู “ตระกูลกัวหลายปีมานี้ก็มีคนเก่งมากมาย ดูจากการแต่งตัวของนาย นายน่าจะเป็นกัวหยวนลูกหลานรุ่นที่สิบเจ็ดของตระกูลกัวสินะ? ความสามารถอยู่ที่ระดับดำสูงสุด
เห็นว่าเจี่ยซือหวี่เปิดเผยสถานะออกมา กัวหยวนอดขมวดคิ้วขึ้นมาไม่ได้ จากนั้นตะโกนอย่างโมโหว่า “เธอยัยปีศาจร้าย เข้ามาครั้งนี้ต้องมีแผนร้ายที่บอกใครไม่ได้ซ่อนอยู่แน่ รอฉันจับเธอได้ก่อนจะสอบสวนให้ดีสักรอบ!”
“มาว่าฉันเป็นยัยปีศาจร้ายงั้นเหรอ? ถ้าไม่ให้บทเรียนนายสักหน่อยคงคิดว่าคนอย่างฉันรังแกง่ายมากสินะ?”
เจี่ยซือหวี่ก็โกรธแล้วเหมือนกัน ขยับมือต่อเนื่องราวกับร่ายรำ งูพิษพวกนั้นที่เดิมทีหวาดกลัวกันอยู่ก็เปลี่ยนไปตื่นเต้นขึ้นมา กระโจนเข้าไปหากัวหยวนกันหมด......
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่
ฝากถึงทีมงาน เราชอบอ่านนิยายมานาน...อ่านทุกประเภทและนิยายจีน..จากปี2520..อ่านมาตลอดในเวปใหญ่ๆ ชอบที่ทีมงานในเวปที่ให้อ่านฟรี..ก็อยากสนับสนุนถ้ามีโอกาส..และเวปดังๆเขาเก็บแพง..สมัยก่่อนเคยอ่านนิยายทั้งไทยจีน ค่าเช่าเล่มละ3บาท...แต่เวปดังๆเขาคิดตอนละ3บาท บางเรื่องมีหลายพันตอนซึ่งเมื่อเทียบแล้วเป็นเงินหลายพันบาท ซึ่งแพงกว่าเช่ามาก...เพื่อให้เวปพัฒนาขึ้น มีนิยายให้อ่านมากๆเรื่อง...มีค่าอ่านเช่น10ตอน3บาทหรือแล้วแต่ทางทีมงานจะตั้งราคา ที่ไม่สูงมากอย่างเวปอื่นซึ่งทีมงานคงรู้..นำมาปรับปรุงเวปนี้ เพราะชอบการแปลแบบนี้...
55555โดนสะงั้น...
Goๆๆๆๆๆๆ...
สุดยอดๆๆๆๆ...
ต่อไปๆๆๆ...
ยอมรับว่าเล้าใจๆๆ...
ติดตามๆๆๆๆไปต่อ...
ไปต่อๆๆๆ...
ต่อๆๆไปเลย...
สุดยอด...