เย่เทียนกับจิงไห่เชียนทั้งสองคนเดินไปคุยไป ไม่นานก็ลงมาถึงชั้นหนึ่ง
เย่เทียนกำลังคิดจะถามเรื่องราวเกี่ยวกับการแข่งชิงสิทธิ์เพิ่มสักสองสามประโยค จิงไห่เชียนกลับกระโดดออกไปข้างหน้าฉับพลัน วิ่งตรงไปหาโข่งจื่อโถงที่กำลังเตรียมจะออกจากโรงเตี๊ยม
“คุณหนูข่ง คุณจะออกไปเหรอ? ยังบังเอิญมากจริงๆ นะครับ ผมก็จะออกไปเหมือนกัน ไม่สู้ไปด้วยกัน?”
ชั่วขณะนั้นโข่งจื่อโถงขมวดคิ้วแน่นขึ้นมา ฝีเท้าที่มุ่งไปข้างหน้าหดกลับมาทันที “ฉันไม่ได้ออกไป!”
นี่ทำให้เย่เทียนที่อยู่ด้านหลังแอบส่ายหน้า ดูจากท่าทีอันนี้ของโข่งจื่อโถง เห็นได้ชัดว่าคือไม่ชอบจิงไห่เชียน
จิงไห่เชียนไม่ได้รู้สึกกระอักกระอ่วน ทำท่าทางราวกับเพิ่งนึกอะไรขึ้นได้ “ใช่แล้ว คำทำนายบอกว่าวันนี้ผมไม่เหมาะจะออกไปข้างนอก ผมก็ยังไม่ออกไปดีกว่า”
“ฉันไม่ต้องการนายไปเป็นเพื่อน นายไปอยู่เป็นเพื่อนพ่อฉันเถอะ!”
โข่งจื่อโถงสีหน้าเย็นชา แกว่งแขนทีหนึ่งชั่วพริบตาเดียวมีมีดเพิ่มขึ้นมาเล่มหนึ่ง พูดเสียงเย็นเฉียบ “ถ้านายกล้าตามฉันมา ฉันรับรองว่าจะฆ่านายทิ้งแน่!”
“คุณหนูข่ง ไม่วู่วามๆ ผมไม่ตามคุณก็ได้”
จิงไห่เชียนหัวเราะเยาะนิดหน่อย ถอยออกสองก้าวโดยจิตใต้สำนึก ดูแล้วคงเคยทุกข์ทรมานภายใต้น้ำมือของโข่งจื่อโถงมาไม่น้อย
ได้รับคำตอบยืนยัน โข่งจื่อโถงทำเสียงฮึมฮัม เดิมทีไม่ได้มองจิงไห่เชียนเพิ่มสักแวบ ออกไปจากโรงเตี๊ยมอย่างฉับไว
เย่เทียนที่ยืนอยู่ด้านหลังมองตั้งแต่ศีรษะจรดเท้าเกือบจะหัวเราะแทบแย่ ยังคงเป็นคำพูดโบราณประโยคนั้นว่าไว้จริงๆ : ผู้ชมมักจะเห็นแจ่มแจ้งดีกว่า ส่วนเจ้าของปัญหาจะสับสนกว่า!
“คุณหนูข่งคนนี้อะไรก็ดีไปหมด เสียตรงที่นิสัยแย่ไปหน่อย”
ไม่รอเย่เทียนคิดจนทะลุปรุโปร่ง จิงไห่เชียนหมุนตัวกลับมา “แต่ว่า ฉันชอบ!”
พูดคำนี้ออกมา เย่เทียนหมดคำพูดถึงที่สุด แอบบ่นว่าคลั่งรักก็คือคลั่งรักล่ะนะ!
ถึงแม้จะคิดแบบนี้ แต่เขาก็ไม่โง่จนพูดออกมาจริงๆ หรอก เดินเข้าไปสองสามก้าวถามอย่างสงสัย “นี่คือนายถูกปฏิเสธเป็นครั้งที่เท่าไรแล้ว?”
จิงไห่เชียนครุ่นคิดด้วยท่าทางจริงจังครู่หนึ่ง “น่าจะเป็นครั้งที่สี่สิบแปดมั้ง?”
“สุดยอด!”
เย่เทียนอดยกนิ้วหัวแม่มือให้เขาไม่ได้ พูดให้กำลังใจ “ฉันเชื่อว่าไม่ช้าหรือเร็วต้องมีสักวันที่นายจะอุ้มสาวงามกลับไป!”
ถ้าคนทั่วไปถูกปฏิเสธครั้งสองครั้ง ไม่แน่คงสูญเสียความมั่นใจจนล้มเลิกไปแล้ว เจ้าหมอนี่ถูกปฏิเสธสี่สิบกว่าครั้งยังยืนหยัดต่อไป ทำให้คนนับถือในความดึงดันนี้ของเขา
“นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว!”
จิงไห่เชียนหัวเราะหึๆ “ตั้งแต่เด็กพ่อฉันสอนฉันว่า มีความพยายามจะสำเร็จ ไม่ช้าหรือเร็วคงมีสักวันที่ฉันจะเอาชนะหัวใจของคุณหนูข่งให้ได้!”
จ๊อก!
เวลานี้ เย่เทียนรู้สึกว่าท้องมีการประท้วงมาเป็นระยะ พูดแนะนำ “เอาล่ะ พวกเรากินอาหารเช้าไปด้วยคุยไปด้วยเถอะ!”
“ได้! ไป ฉันจะพานายไปจวี่เต๋อโหลว!”
จิงไห่เชียนยื่นมือโอบข้ามไหล่เย่เทียน อยากเดินไปข้างนอก
“เดี๋ยวก่อน! ไปจวี่เต๋อโหลวอะไรกัน! กินที่นี่ไม่ได้เหรอ?”
เย่เทียนรีบขัดขวางจิงไห่เชียน เขาไม่ได้ลืมว่าด้านบนยังมีเจี่ยซือหวี่อีกคน
จิงไห่เชียนกวาดตามองข่งเทียนหยินตรงเคาน์เตอร์แวบหนึ่ง กดเสียงต่ำลงพูดว่า “เพื่อน นายมาเป็นครั้งแรกเลยอาจไม่รู้ โรงเตี๊ยมไฉ่สิ่งแห่งนี้บริการแค่พักอาศัย ไม่บริการอาหาร”
“เอ๋?”
เย่เทียนมึนงงในชั่วขณะนั้น นึกไม่ถึงโรงแรมกากแห่งนี้จะหลอกลวงขนาดนี้ พักอยู่ไม่ดีเท่าไรก็ช่างไป คาดไม่ถึงแม้แต่ข้าวยังไม่ดูแล?
หน้าจิงไห่เชียนแดงฉานขึ้นมาในชั่วพริบตา เห็นได้ชัดว่าไม่เคยพูดโกหกสักเท่าไร
“ถุย! นายหลอกเด็กเหรอ?”
เย่เทียนเปิดโปงคำโกหกของเขาโดยตรง “นายไม่ใช่แปลกใจเหรอว่าทำไมโข่งจื่อโถงผู้หญิงคนนั้นถึงไม่สนใจนาย? นายช่วยฉันจัดการไล่คนพวกนี้ไป ฉันจะช่วยนายตามจีบโข่งจื่อโถง!”
ชั่วขณะนั้นจิงไห่เชียนทำอะไรไม่ถูกขึ้นมา เย่เทียนพูดมาคำเดียวก็เปิดโปงเบื้องหลังที่ไม่ธรรมดาของเขา นี่ทำให้เขารู้สึกว่าเย่เทียนมีความสามารถ ถ้ามีเขาช่วยเหลือ อัตราการคว้าหัวใจโข่งจื่อโถงจะต้องสูงมากเป็นแน่
ประเด็นสำคัญอยู่ที่ เขาจำหลู่ลี่หาวได้ ตระกูลหลี่มีความสามารถไม่น้อยอยู่ที่เมืองเถาหยวน
“รู้หรือเปล่าว่าทำไมโข่งจื่อโถงแต่ไหนแต่ไรไม่เคยมองนายตรงๆ สักหน่อยเลย?”
เย่เทียนสัมผัสได้ถึงความลังเลของจิงไห่เชียน จึงพูดทิ่มแทง “ก็เป็นเพราะนายใจเสาะ โข่งจื่อโถงผู้หญิงคนนั้นชัดเจนว่าคือนิสัยผู้หญิงแกร่ง นายกลับไม่มีจิตใจองอาจห้าวหาญของผู้ชายสักนิด วันๆ เอาแต่ประจบให้หล่อนพอใจอย่างกับตุ๊ด นี่มีแต่จะทำให้หล่อนยิ่งดูถูกนาย!”
จิงไห่เชียนตะลึง พอคิดอย่างละเอียดคำพูดนี้ของเย่เทียนก็มีเหตุผลระดับหนึ่ง ไม่อย่างนั้นด้วยความหล่อเหลาของเขาแล้ว โข่งจื่อโถงจะไม่สนใจเขาได้อย่างไร?
“ว่าตามความหมายของนาย ถ้าฉันแสดงจิตใจองอาจห้าวหาญของผู้ชายออกมา คุณหนูข่งจะชอบฉันเหรอ?”
“อันนี้ฉันไม่กล้ารับประกัน แต่ฉันเชื่อว่าหล่อนจะเปลี่ยนความคิดต่อนายแน่นอน อย่างน้อยท่าทีที่มีต่อนายคงไม่เย็นชาขนาดนั้น”
เย่เทียนหัวเราะหึๆ ยังไม่รู้ชัดที่ไหนว่าจิงไห่เชียนติดกับแล้ว
“ได้! งั้นฉันจะแสดงจิตใจองอาจห้าวหาญของฉันออกมา!”
พึมพำอยู่สองวินาที ในที่สุดจิงไห่เชียนก็คิดได้ “ฉันสามารถช่วยนายได้ แต่ว่าหัวหน้าเจ้าหนุ่มนั่นเป็นคนของตระกูลหลู่ ต้องอาศัยนายจัดการเอง คนอื่นฉันจะจัดการแทนนาย!”
“เอ๋?”
ชั่วพริบตาเดียวสีหน้าเย่เทียนดูกังวลขึ้นมา เขายุยงจิงไห่เชียนอย่างยากลำบาก ก็คือไม่อยากเผชิญหน้ากับหลู่ลี่หาวนะ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่
ฝากถึงทีมงาน เราชอบอ่านนิยายมานาน...อ่านทุกประเภทและนิยายจีน..จากปี2520..อ่านมาตลอดในเวปใหญ่ๆ ชอบที่ทีมงานในเวปที่ให้อ่านฟรี..ก็อยากสนับสนุนถ้ามีโอกาส..และเวปดังๆเขาเก็บแพง..สมัยก่่อนเคยอ่านนิยายทั้งไทยจีน ค่าเช่าเล่มละ3บาท...แต่เวปดังๆเขาคิดตอนละ3บาท บางเรื่องมีหลายพันตอนซึ่งเมื่อเทียบแล้วเป็นเงินหลายพันบาท ซึ่งแพงกว่าเช่ามาก...เพื่อให้เวปพัฒนาขึ้น มีนิยายให้อ่านมากๆเรื่อง...มีค่าอ่านเช่น10ตอน3บาทหรือแล้วแต่ทางทีมงานจะตั้งราคา ที่ไม่สูงมากอย่างเวปอื่นซึ่งทีมงานคงรู้..นำมาปรับปรุงเวปนี้ เพราะชอบการแปลแบบนี้...
55555โดนสะงั้น...
Goๆๆๆๆๆๆ...
สุดยอดๆๆๆๆ...
ต่อไปๆๆๆ...
ยอมรับว่าเล้าใจๆๆ...
ติดตามๆๆๆๆไปต่อ...
ไปต่อๆๆๆ...
ต่อๆๆไปเลย...
สุดยอด...