ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ นิยาย บท 906

สองเกมในตอนเช้านั้นยอดเยี่ยม แต่สองเกมในตอนบ่ายก็ไม่เลว

รอบที่สามเป็นการต่อสู้ระหว่างช่ายเหมยเป่ากับเทพธิดาเตี๋ยอู่ ในที่สุดก็ได้เปิดโปงระดับการฝึกฝนที่แท้จริงของช่ายเหมยเป่าว่าอยู่ในระดับดินตอนกลาง

แม้ว่ามันจะเป็นคุณสมบัติที่ดีสำหรับคนหนุ่มสาว แต่มันแย่ที่สุดในบรรดาผู้ที่เข้ารอบแปดคนอย่างไม่ต้องสงสัย

แต่ถึงกระนั้น เทพธิดาเตี๋ยอู่ก็ยังตามโข่งจื่อโถงเข้ารอบมา หลังจากนั้นไม่กี่นาที เธอถูกช่ายเหมยเป่าเตะออกจากสังเวียนต่อสู้อยู่ดี

ในรอบที่สี่จิ่วเจี้ยต่อสู้กับเจียงซี่หลิง แม้ว่าเจียงซี่หลิงจะเร็วกว่าจิ่วเจี้ยมาก แต่จิ่วเจี้ยฉลาดพอที่จะต่อยหลายหมัดเพื่อจับเจียงซี่หลิงไว้ เข้ารอบสี่คนสุดท้ายได้สำเร็จ

ในคืนที่เงียบสงัด พระจันทร์สุกสกาวในท้องฟ้าอันว่างเปล่า เสียงแมลงร้องดังระงม

เย่เทียนกำลังนอนอยู่บนเก้าอี้ไม้ไผ่ที่แสนสบาย แหงนหน้ามองดูดวงจันทร์บนท้องฟ้า แต่เขาอดคิดเรื่องทางโลกไม่ได้

ท้ายที่สุดเขาได้ทิ้งเรื่องยุ่งๆ ไว้ตอนจากไป ตอนนี้เขาอยู่ในเมืองเถาหยวนมาหลายวันแล้ว ไม่รู้ว่าทางนั้นเก็บกวาดเรียบร้อยแล้วหรือยัง

หลู่ซีซานเดินเข้ามาแล้วยิ้มเล็กน้อย “คุณกำลังคิดอะไรอยู่? ดูหมกมุ่นนัก”

“ไม่มีอะไร”

“คุณมาได้ยังไง?” เย่เทียนถามขณะดึงหญิงสาวเข้าไปในอ้อมแขนของเขา

“ได้ยินจากเสี่ยวหาวว่าคุณบาดเจ็บ ฉันเลยมาดูหน่อย”

หลู่ซีซานดิ้นออกจากอ้อมกอดของเย่เทียน ดึงเสื้อของเย่เทียนขึ้นอย่างระมัดระวัง เมื่อเห็นบาดแผลจากคมดาบเต็มไปหมด เธอก็อดรู้สึกสงสารไม่ได้ “ทำไมแผลเยอะจัง?”

“ไม่เป็นไร พวกนี้เป็นแค่รอยฟกช้ำ ไม่เป็นไร”

เย่เทียนยิ้มเล็กน้อย ลุกขึ้นยืนทันทีและดึงหลู่ซีซานเข้ามาหาอีกครั้ง เขาก้มศีรษะลงและจูบเธออย่างดูดดื่ม

“อื้ม…”

หลู่ซีซานดิ้นเล็กน้อยเพื่อแสดงความขัดขืน แต่ไม่นานเธอก็สงบนิ่ง เผลอติดกับจุมพิตอันน่าหลงใหล

กลางวันเข้าแทนที่ ในที่สุดวันใหม่ก็มาถึง บางทีการแข่งขันเมื่อวานอาจจะมีสีสันมาก วันนี้ทุกคนจึงรีบไปที่สนามกันแต่เช้า พยายามหาตำแหน่งหน้าๆ เพื่อที่จะได้เพลิดเพลินไปกับการต่อสู้ของคนหนุ่มสาวที่มีพรสวรรค์อย่างใกล้ชิด

การแข่งขันในวันนี้ถูกกำหนดเรียบร้อยแล้ว นัดแรกเป็นคู่ระหว่างเย่เทียนกับจิ่วเจี้ย นัดที่สองเป็นคู่ระหว่างกัวหมิงเลี่ยงกับช่ายเหมยเป่า

ยังไม่ถึงเวลาเก้าโมง เวินจี้หู่ในฐานะผู้รับผิดชอบ ได้ประกาศเริ่มต้นการแข่งขันแล้ว

ขณะที่เย่เทียนกำลังจะขึ้นเวที หลู่ซูหางก็กำชับด้วยความเป็นห่วง “จากการแข่งขันหลายวันที่ผ่านมา จุดแข็งของจิ่วเจี้ยน่าจะอยู่ที่ความแข็งแกร่ง ถ้าทำได้ อย่าสู้กับเขาแบบแลกกัน ไม่อย่างนั้นหากได้รับบาดเจ็บอาจส่งผลต่อการแข่งขันในวันพรุ่งนี้”

อีกฝั่งหนึ่ง เย่เทียนยิ้มตอบและก้าวขึ้นไปบนสังเวียนต่อสู้

เมื่อเห็นว่าเย่เทียนกำลังจะก้าวเข้าสู่สังเวียนต่อสู้ จิ่วเจี้ยก็รีบก้าวเข้าไป

การเข้าสู่สนามของทั้งสองทำให้ได้เสียงเชียร์จากผู้ชมในทันที

“เย่เทียน! ต้องชนะ! เย่เทียน! ต้องชนะ!”

“พี่เย่เทียน ฉันเชียร์คุณ คุณต้องชนะนะ! ถ้าชนะฉันจะมีลูกให้คุณ!”

หลังจากต่อสู้มาหลายวัน ความแข็งแกร่งของเย่เทียนก็เอาชนะใจทุกคนแล้ว และเขายังได้กลุ่มแฟนคลับเพิ่มอีกด้วย

จิ่วเจี้ยไม่สนใจเสียงเชียร์จากผู้ชม ถามเย่เทียนด้วยรอยยิ้มว่า “ศิษย์พี่เย่ เรามาปรึกษากันก่อนที่จะเริ่มแข่งอย่างเป็นทางการได้ไหม อย่าให้โดนหน้าได้ไหม?”

“ทำไมมันยุ่งยากจัง?”

เย่เทียนเลิกคิ้วพูดหยอกล้อ “งั้นนายยอมแพ้เลยดีกว่า อย่าว่าแต่หน้าเลย แม้แต่ไรผมฉันก็จะไม่แตะต้อง”

“ไม่ได้ๆๆ ถ้าฉันยอมแพ้ อาจารย์ต้องทุบฉันตายแน่”

จิ่วเจี้ยปฏิเสธคำแนะนำของเย่เทียนทันที แล้วพูดอย่างชอบธรรมว่า “ศิษย์พี่เย่ ถึงยังไงเราก็เคยตายแทนกันได้ อย่าให้โดนหน้าเด็ดขาดนะ!”

จิ่วเจี้ยพูดพลางมองไปที่ปรมาจารย์ไร้เจตสิกที่อยู่บนเวที สีหน้าเผยความท้อแท้ออกมา

หลังจากตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จิ่วเจี้ยก็หัวเราะลั่นออกมา “เยี่ยมมาก! นานแล้วที่ฉันไม่ได้เจอใครที่มีฝีมือพอๆ กับฉัน”

“พูดตามตรง ความแข็งแกร่งของนายมีมากกว่าที่ฉันคิดไว้เล็กน้อย”

รอยยิ้มปรากฏขึ้นที่มุมปากของเย่เทียนเช่นกัน ดวงตาสีดำขลับของเขาเปล่งประกายไปด้วยจิตวิญญาณการต่อสู้ที่สูงส่ง

“เข้ามาใหม่!”

จิ่วเจี้ยไม่จุกจิกกับเย่เทียนอีก เขากระทืบเท้าและพุ่งเข้าไปหาเย่เทียนราวกับปีศาร้าย

เย่เทียนไม่เกรงกลัว สาวเท้าเข้าไปต้อนรับด้วยความเร็วเต็มที่

ปังๆ!

หมัดทั้งสองปะทะกันอีกครั้ง แต่คราวนี้พวกเขาไม่ล่าถอย แต่ยืนอยู่ตรงนั้นเหมือนพวกนักเลง เริ่มเปิดโหมดการต่อสู้!

“เฮ้อ! ศิษย์พี่เย่ ไหนเมื่อกี้สัญญากับฉันว่าจะไม่ให้โดนหน้าไง?”

“ผิดพลาด! ผิดพลาด! ฉันไม่ได้ตั้งใจ!”

“ไม่ใช่ผิดพลาดหรอก พี่ชกเป็นครั้งที่สามแล้ว ตั้งใจชัดๆ!”

“นายใจเย็นๆ ก่อน ฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆ!”

“ไม่มีทาง! พี่ทำร้ายใบหน้าอันหล่อเหลาของฉันได้อย่างไร ฉันจะสู้กับพี่จนตายกันไปข้างหนึ่ง!”

ชั่วขณะหนึ่ง คนสองคนที่อยู่บนสังเวียนก็ร้องตะโกนออกมาเป็นระยะ

เพียงแต่ว่า แม้ว่าการต่อสู้บนสังเวียนจะดุเดือดมาก แต่ผู้ชมที่อยู่ด้านล่างกลับรู้สึกอึดอัดอย่างถึงขีดสุด

ไม่ใช่เรื่องอื่น เพราะทั้งสองคนเคลื่อนไหวเร็วมากจนผู้ชมมองเห็นเพียงเงาร่างสองเงาที่พัวพันกัน มองไม่เห็นรายละเอียดเลย แล้วจะไม่ให้อึดอัดได้อย่างไร?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่