เฉินเสียนและอวี้เยี่ยนคิดไปถึงจุดจุดหนึ่ง ยิ้มอย่างสบายใจ "ไม่ว่านางกำลังคิดอะไรอยู่ เพียงแค่ข้าไม่ไปที่สวนดอกพุดตาน ครั้งนี้นางก็ใส่ร้ายข้าไม่ได้อีก"
เฉินเสียนปฏิเสธฉินหรูเหลียง นางไม่สามารถหายาแก้พิษได้ ไม่สามารถช่วยรักษาหลิ่วเหมยอู่ได้
ความอดทนของฉินหรูเหลียงมาถึงขั้นสุดแล้ว คว้าเสื้อเฉินเสียนเอาไว้ กล่าวว่า "เฉินเสียน ท่านล้อข้าเล่นหรือไง?"
เฉินเสียนกล่าวยิ้มๆ อย่างไม่คิดอะไร "ให้ข้าทำอย่างไรล่ะ ความสามารถข้ามีขอบเขต ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องไปสนใจอีกแล้ว ไม่แน่ว่าเมื่อเห็นว่าไม่มีใครสนใจนาง นางอาจจะไม่ตายก็เป็นได้"
อวี้เยี่ยนกล่าวอย่างตื่นตกใจ "ท่านแม่ทัพ! องค์หญิงทรงตั้งครรภ์อยู่นะเจ้าคะ ท่านไม่สามารถบุ่มบ่ามเช่นนี้ได้นะเจ้าคะ!"
เฉินเสียนเลิกคิ้ว กล่าวอย่างไม่ใส่ใจ "ไม่เป็นไรหรอก สันดอนขุดได้สันดานขุดยากน่ะ ข้าไม่ได้หวังว่าท่านแม่ทัพจะละอายใจกับเรื่องที่ผ่านมาหรอกนะ อย่างไรซะก็ป่าเถื่อนจนชินแล้วล่ะ"
ฉินหรูเหลียงส่งเสียงเหอะอย่างเย็นชา ปล่อยมือที่คว้าเฉินเสียนเอาไว้ สะบัดแขนเสื้อแล้วจากไป
ณ สวนดอกพุดตาน เซียงหลิงดูแลหลิ่วเหมยอู่อย่างระมัดระวัง เมื่อเห็นฉินหรูเหลียงเข้ามาด้วยสีหน้าโกรธเกรี้ยว รีบคุกเข่าลงแล้วกล่าวว่า "บ่าวนั้นบังอาจมากเจ้าค่ะ แต่บ่าวอยากจะขอร้องให้ท่านแม่ทัพไปไปเชิญหมอจีนพเนจรครั้งที่แล้วเถอะเจ้าค่ะ"
ฉินหรูเหลียงมองไปที่นาง "หมอจีนพเนจรที่ไหนกัน?"
"ท่านที่เคยรักษาโรคอีสุกอีใสให้นายหญิงครั้งที่แล้วเจ้าค่ะ! บ่าวได้ยินมาว่าเขาจะไปทั่วทุกสารทิศ มีประสบการณ์มากเจ้าค่ะ รักษาโรคร้ายยากๆ จนนับไม่ถ้วนเลยเจ้าค่ะ โรคอีสุกอีใสของนายหญิงก็ได้เขามารักษาจนไม่ทิ้งรอยแผลเป็นไว้สักนิดเดียวเลยเจ้าค่ะ!"
"ยังไม่รีบไปเชิญเขามาอีก!"
เมื่อเซียงหลิงได้รับคำสั่ง รีบร้อนไปเชิญทันที
หลิ่วเหมยอู่ได้สติขึ้นมาอย่างยากลำบาก อ่อนล้าอย่างมาก ฉินหรูเหลียงรีบกุมมือนางแล้วกล่าวว่า "เหมยอู่ ไม่ต้องกลัว ข้าจะรักษาเจ้าให้หายดีแน่นอน ถ้าข้าไม่อนุญาตเจ้าก็ห้ามตาย"
หลังจากที่หมอมาถึง นั่งวินิจฉัยข้างเตียงอยู่นาน พลิกหนังตาและลิ้นของหลิ่วเหมยอู่เพื่อตรวจดู ทุกการกระทำล้วนมีผลกระทบกับฉินหรูเหลียง
"เป็นอย่างไรบ้าง?" เขาถามออกไปด้วยตนเอง
หมอเอ่ยเสียงเข้ม "ข้าน้อยไม่ได้เห็นพิษรุนแรงเช่นนี้มานานแล้วขอรับ"
พิษนี้เป็นพิษที่อันตรายมาก เข้าสู่เส้นประสาท ผู้ที่ได้รับพิษรุนแรงก็จะตายคาที่ทันที
โชคดีที่นายหญิงรับพิษมาไม่รุนแรง ด้วยเหตุนี้จึงไม่ถึงแก่ชีวิต แต่ทว่าอย่างมากก็จะใช้ชีวิตได้วันสองวันเท่านั้น ถ้าหากยังไม่แก้พิษ ก็จะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย
ฉินหรูเหลียงขมวดคิ้วเป็นเวลานานและยิ่งรุนแรงขึ้น เอ่ยถามว่า "เจ้ามียาแก้พิษหรือไม่?"
หมอกล่าวว่า "ยาแก้พิษข้าน้อยไม่มี แต่ทว่าข้าน้อยรู้ว่าจะปรุงยาอย่างไร เพียงแต่...."
"เพียงแต่อะไร?" ฉินหรูเหลียงกล่าวอย่างไม่อดทน "เจ้าพูดมาให้ชัดเจนทีเดียวเถอะ!"
"เพียงแต่วัตถุดิบในการปรุงยานั้นหายากมาก ไม่ว่ายาจะล้ำค่าแค่ไหนข้าน้อยก็เชื่อว่าท่านแม่ทัพก็สามารถหามันจนได้ แต่มียาตัวหนึ่งก็เป็นยาที่สำคัญที่สุดเช่นกัน ท่านแม่ทัพมีเงินทองมากมายแค่ไหนก็หาซื้อไม่ได้ขอรับ"
"ยาอะไรกัน?"
หมอก้มศีรษะลง กล่าวเสียงทุ้มต่ำ "รกมนุษย์ขอรับ"
ฉินหรูเหลียงถามเสียงเย็น "รกมนุษย์คืออะไร?"
"เป็นรกที่ติดมากับเด็กหลังคลอด"
สีหน้าของฉินหรูเหลียงเปลี่ยนทันที "เจ้าพูดอะไร?"
บรรยากาศในห้องยิ่งเย็นลง
หมอรีบคุกเข่าลงแล้วกล่าวว่า "ท่านแม่ทัพ จะปรุงยาแก้พิษชนิดนี้ มีเพียงแค่จะต้องนำรกมนุษย์มาทำยาเท่านั้น มิเช่นนั้นร่างกายนายหญิงจะได้รับความเสียหายมากเกินไป ถึงแม้จะได้แก้พิษไปแล้วแต่อวัยวะก็จะค่อยๆ ล้มเหลวขอรับ"
ฉินหรูเหลียงกล่าวอย่างโกรธเกรี้ยว "ตกลงว่ายาแก้พิษอะไรกันแน่ถึงจะต้องลงมือกับคนท้อง!"
"ท่านแม่ทัพ ยานี้ไม่ได้มาจากการฆ่าคนถึงจะได้ขอรับ สตรีหลังคลอดรกมนุษย์ก็จะลอกออกจากร่างของมารดา ท่านแม่ทัพสามารถหาหญิงตั้งครรภ์ที่จะคลอดบุตรและรับเอารกมนุษย์สดๆ มานำไปใช้เป็นยาขอรับ"
ฉินหรูเหลียงสูดหายใจลึก
"ตกลงแล้วเป็นยาอะไรกัน เจ้าไปสืบถามได้ความชัดเจนหรือยัง?"
อวี้เยี่ยนเอ่ย "บ่าวยังไม่ทราบเพคะ ยังไปสืบความไม่ได้ความเพคะ เซียงหลิงปิดปากแน่น ไม่ว่าใครไปถามนางก็ไม่พูดเลยเพคะ"
เฉินเสียนเอนพิงหัวเตียง มือก็พลิกตำราไป
ความร้อนผ่านไป กลางดึกนั้นเย็นสบายราวกับน้ำ อวี้เยี่ยนเดินไปหยุดอยู่ข้างหน้าต่าง ปิดหน้าทั้งสองข้าง
สายตาของเฉินเสียนจับจ้องอยู่ที่ตำรา แต่ทว่าในหัวกลับคิดอย่างอื่น ผ่านไปนานก็ไม่เห็นว่านางจะพลิกหน้าสักหน้า
อวี้เยี่ยนหมอบอยู่ข้างเตียง เห็นว่าองค์หญิงใจลอยอยู่นานก็เอ่ยถามออกไปว่า"องค์หญิงคิดอะไรอยู่เพคะ องค์หญิงไม่ต้องกังวลบ่าวจะปกป้ององค์หญิงให้ดีที่สุดเพคะ"
เฉินเสียนได้สติกลับมา เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย มือปิดตำรา กล่าวว่า "ไม่รู้ว่าหลิ่วเหมยอู่จะทำอะไรกันแน่ แบบเหมือนกับเป็นฝ่ายถูกกระทำ แทนที่จะนั่งรอความตาย ไม่ดีเท่ากับเริ่มทำให้หมดสิ้นไป ถ้าหากว่าข้าแก้พิษให้นางได้แล้ว นางคิดที่จะใช้กลอุบายอีกก็จะทำได้เพียงแค่ต้องล้มเลิกไป"
"แต่ไม่ใช่ว่าองค์หญิงไม่รู้วิธีปรุงยามิใช่หรือเพคะ?" ใจจริงอวี้เยี่ยนไม่อยากให้เฉินเสียนไปช่วยหลิ่วเหมยอู่ แต่เมื่อได้ยินองค์หญิงกล่าวเช่นนี้ ก็รู้สึกว่ามีเหตุผล
หลิ่วเหมยอู่ถูกวางยาพิษ ถ้าจะบอกว่าเพียงแค่ต้องการได้รับความรักความห่วงใยจากฉินหรูเหลียงใหม่อีกครั้งเท่านั้น ถ้าเช่นนั้นสองวันมานี้ที่ฉินหรูเหลียงเหนื่อยเพื่อนางเช่นนี้ จุดประสงค์ของนางก็สำเร็จแล้วสิ
อวี้เยี่ยนกังวลอย่างยิ่งว่านางคิดไม่ดีกับองค์หญิงของตน
ด้วยเหตุนี้สองวันมานี้นางจึงกระวนกระวายอยู่เสมอ คิดแต่ว่าจะต้องมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น
ถ้าหากว่าครั้งนี้เฉินเสียนออกหน้าแก้พิษให้หลิ่วเหมยอู่ ไม่เพียงแต่จะทำให้ความอันตรายที่มีอยู่หมดไป ทั้งยังสามารถแลกข้อแลกเปลี่ยนกับฉินหรูเหลียงได้อีก คิดไปคิดมาก็ไม่ขาดทุน
เฉินเสียนก็กล่าวออกมา "ถึงแม้ว่าข้าจะไม่รู้ แต่มีคนหนึ่งที่อาจจะรู้"
นางคิดไปถึงซูเจ๋อ
ซูเจ๋อถึงแม้ว่าจะเล่ห์เยอะ แต่ความสามารถในการรักษาของเขาก็สูงมาก ไม่แน่ว่าอาจจะรู้วิธีการปรุงยาแก้พิษนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือหงส์พันปี
ชอบมากเรื่องนี้...