ข้าคือหงส์พันปี นิยาย บท 323

หลิ่วเฉียนเฮ้อรู้ว่าผู้หญิงคนนี้เจ้าเล่ห์นัก อีกอย่างความต้องการของหลิ่วเหมยอู่ในตอนแรกนั้นคือให้เขาวางยาพิษให้หลิ่วเหมยอู่หลังจากนั้นเขาก็ออกจากเมืองหลวงไป เลยไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นหลังจากนั้น

ตอนนี้เฉินเสียนถามมาอย่างนี้ มันต้องเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาแน่ ถ้าเขาตอบคำถามอย่างไม่ระวัง อาจจะทำให้หลิ่วเหมยอู่ถูกเปิดเผยความลับออกมาได้

เฉินเสียนยังเอาขวดกระเบื้องออกมาอีกขวด แล้วพูดว่า “พอดีเลย ข้าทำตามใบสั่งยาเดิม หารกมนุษย์มาเป็นส่วนผสม ปรุงยาถอนพิษนี้ขึ้นมา ในที่สุดตอนนี้ก็สามารถทดลองกับร่างกายเจ้าได้ มาดูกันว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นอย่างไร”

หลิ่วเฉียนเฮ้อจิตตก คิดอยากจะหนี

แต่ว่ากรงเหล็กก็ใหญ่เพียงเท่านี้ เขาจะหนีออกไปจากกรงเหล็กได้อย่างไร

เฉินเสียนก้าวเท้าไปเหยียบโซ่ตรวนที่ล่ามข้อเท้าเขาไว้ ทำให้เขาหนีไม่พ้น

เฉินเสียนจับผมที่ยุ่งเหยิงของเขาเอาไว้อย่างแน่น ดึงออกมาจากกรงเหล็กอย่างโหดเหี้ยม

หลิ่วเฉียนเฮ้อเจ็บปวด จากการที่หัวถูกหนีบอยู่กับซอกกรงเหล็กไว้อย่างแน่น

หลิ่วเฉียนเฮ้อพูดด่าว่า “เจ้ามันเป็นผู้หญิงที่ดุร้ายและโหดเหี้ยม !ไม่ใช่จะพาข้ากลับไปเมืองหลวงหรอ ทำไม ตอนนี้อดไม่ได้ที่อยากจะฆ่าข้าหรอ!”

เฉินเสียนหัวเราะแล้วพูดว่า “ข้าเพียงแค่อยากทดลองสรรพคุณของยา จะไปฆ่าท่านได้อย่างไร”

“เจ้าปล่อยข้านะ!”

เฉินเสียนเปิดฝาปิดขวดกระเบื้องนั้นออกมา เธอดึงผมของหลิ่วเฉียนเฮ้อแล้วบีบบังคับให้เขาเงยหน้าขึ้นมา ค่อยๆพูดออกว่า“เจ้าคิดว่าเจ้ากัดฟันแน่นโดยไม่อ้าปากก็ไม่เป็นไรแล้วหรอ ข้าสามารถรินยาเข้าไปในรูจมูกของเจ้าก็ได้ ”

หลิ่วเฉียนเฮ้อเริ่มส่ายหัวซ้ายขวาไปมาโดยไม่ได้นึกถึงว่าหนังศีรษะจะเจ็บปวด

ตอนที่เฉินเสียนกำลังจะเทของเหลวออกมา หลิ่วเฉียนเฮ้อก็คำรามออกมาว่า“เจ้าหยุดนะ!”

เฉินเสียนหยุดสักครู่ แล้วพูดว่า “เจ้าไม่ต้องกังวล ข้ามียาถอนพิษให้ รอให้เจ้าได้รับพิษก่อนแล้วข้าจะให้ยาถอนพิษกับเจ้า”

ตอนที่หยดของเหลวลงไปสองหยดบนใบหน้าข้างจมูกของหลิ่วเฉียนเฮ้อ ในที่สุดเขาก็ทนไม่ได้ที่จะพูดออกมาว่า

“พิษของสั่วเซียนโหวนั้นสกัดมาจากแมลงที่มีพิษ ยาถอนพิษของมันก็ต้องสกัดมาจากพิษของแมลง เพียงแต่ว่าแมลงที่มีพิษนั้นถูกเรียงลำดับที่แตกต่างกันเพื่อใช้พิษถอนพิษ !

แม้ข้าจะไม่รู้ว่ารกมนุษย์มันคืออะไร แต่ข้ารู้ว่าในแมลงมีพิษข้างในนั้นไม่มีสิ่งนี้!เฉินเสียนเจ้าคือนางงูพิษ เจ้าต้องการจะฆ่าข้า!”

เฉินเสียนหยุดการกระทำ ทั้งลานนั้นเต็มไปด้วยความเงียบสงัด

เธอหัวเราะแล้วพูดว่า “จะเป็นอย่างนั้นได้อย่างไร ตอนแรกที่หลิ่วเหมยอู่โดนพิษนี้ แต่ว่ากินยาถอนพิษตำหรับนี้จึงดีขึ้น”

หลิ่วเฉียนเฮ้อพูด “เจ้าคิดว่ายาถอนพิษของพิษที่ร้ายแรงขนาดนี้มันง่ายที่จะปรุงขึ้นมาหรอ ไม่ว่าหมอคนไหนก็รู้จักรู้ตำหรับยานี้รึ?”

“ทำไมหลิ่วเหมยอู่ถึงดีขึ้นหล่ะ?”

หลิ่วเฉียนเฮ้อปิดปากไม่ตอบคำถาม

เฉินเสียนพูดอย่างเจ้าเล่ห์ว่า“ถ้าวันนี้ยาถอนพิษนี้ใช้ถอนพิษเจ้าไม่ได้ก็แล้วไป รอให้กลับไปถึงเมืองหลวงก่อนแล้วค่อยบอกว่าเจ้าเป็นโรคระบาดระหว่างทางแล้วตาย คงไม่มีใครสงสัยอะไร ”

พูดจบเธอก็ยังคงยืนหยัดที่จะรินยาพิษให้แก่หลิ่วเฉียนเฮ้ออีก

หลิ่วเฉียนเฮ้อจึงกัดฟันแล้วพูดว่า “ข้าให้ยาถอนพิษเซียนเสวี่ยไว้ก่อนแล้ว!”

“อย่างนี้ก็บอกได้ว่าเจ้าเป็นคนให้ยาพิษนี้แก่นางสินะ”

“แล้วจะยังไง!”

เฉินเสียนกัดริมฝีปากแล้วพูดว่า “หลิ่วเฉียนเฮ้อ เจ้ากับหลิ่วเหมยอู่ชั่งเหลือเกินจริงๆ จัดการกับคนที่ขี้ขลาดกลัวตายอย่างพวกเจ้า นี่ไม่ต้องเสียแรงอะไรมาก”

เธอจึงผ่อนมือ แล้วปล่อยหลิ่วเฉียนเฮ้อออก

หลิ่วเฉียนเฮ้อจึงรีบเช็ดของเหลวสองหยดบนใบหน้าอย่างลุกลี้ลุกลน เปิดปากได้ก็ด่าขึ้นมา แต่เมื่อเขาเงยหน้ามองขึ้นไปโดยบังเอิญ ก็เห็นฉินหรูเหลียงที่ไม่รู้ว่าไปยืนอยู่ตรงบันไดใต้ชายคาตั้งแต่เมื่อไร

แสงแดดส่องให้เห็นไม่กี่ขั้นของบันได

เงาร่างกายของเขาทอดอยู่กลางระหว่างแสงอาทิตย์และเงาชายคา

แต่วันนี้เงื่อนงำทั้งหมดเหล่านี้นั้นได้ถูกเชื่อมต่อกันเป็นเส้นเดียว ทำให้ฉินหรูเหลียงนั้นรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ทัน

สิ่งที่เขาพยายามทำมาโดยตลอด มันเป็นเพียงการถูกชี้นำโดยผู้อื่นที่มีการวางแผนอย่างละเอียดไว้และเป็นเรื่องที่น่าตลกขบขัน

เขาคิดว่าหลิ่วเหมยอู่เป็นคนที่จิตใจดีเมตตา น่าเอ็นดู นางเป็นคนไม่มีอุบายและแผนสูง

วันนี้เขาเพิ่งได้รู้ ว่าจริงๆแล้วมันไม่ใช่

เฉินเสียนเก็บขวดกระเบื้องนั้นไว้อย่างดี เดินผ่านไปยังฉินหรูเหลียงอย่างไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วจึงหยุดพูดขึ้นว่า “เมื่อครู่นี้เจ้าฟังชัดเจนหรือยัง?”

ไม่รอให้ฉินหรูเหลียงตอบคำถาม หลิ่วเฉียนเฮ้อกัดฟันแล้วพูดขึ้นว่า “เจ้าอย่าไปฟังคำพูดของนางที่พูดใส่ร้าย!นางเพียงแค่ต้องการจะใส่ร้ายเซียนเสวี่ย!”

ฉินหรูเหลียงมองไปทางหลิ่วเฉียนเฮ้ออย่างสงบนิ่ง สายตาเย็นยะเยือก “ข้าไม่ได้ยินเลยว่านางพูดอะไร มีแต่ได้ยินที่เจ้าพูดออกมา”

“เมื่อครู่นี้ข้าถูกนางบังคับให้ข้าพูด!เจ้าก็เห็นกับตา ว่านางเอาอย่าพิษมาข่มขู่ข้า!”

ฉินหรูเหลียงพูดอย่างไร้อารมณ์ว่า “นางเพียงแค่ต้องการทดลองยา แค่นางขู่ว่าจะใช้พิษทำร้ายเจ้า เจ้าถึงกับกวักมือเรียกทุกอย่างเลยรึ เป็นข้าที่ให้ความสำคัญกับเจ้ามากเกินไป วันนี้เจ้าไม่ตาย เมื่อเจ้ากลับไปเมืองหลวงเมื่อไร ข้าจะทำให้เจ้าต้องโทษประหารชีวิตด้วยมือของข้าอย่างแน่นอน

“ฉินหรูเหลียง เจ้านี่มันใจหมา!”

ฉินหรูเหลียงหันหลังเดินไปแล้วพูดว่า “ใช่ ข้ามันใจหมา เจ้าน่าจะตายได้ตั้งนานแล้ว”

เฉินเสียนกลับเข้ามาในจวน เห็นซูเจ๋ออยู่ ซูเจ๋อพูด “เตรียมเก็บข้าวของ อีกสองวันจะออกเดินทางกันแล้ว”

เฉินเสียนพูด “ไม่มีอะไรต้องเก็บ พรุ่งนี้เช้าก็สามารถเดินทางได้แล้ว”

จากนั้นฉินหรูเหลียงกลับมา บรรยากาศสามคนที่อยู่ในจวนนั้นมันอึดอัดอย่างชัดเจน

ฉินหรูเหลียงมองไปที่ซูเจ๋อ ในที่สุดก็พูดว่า “เจ้าออกไปก่อนได้ไหม ข้ามีเรื่องที่จะคุยกับนางตามลำพัง”

ซูเจ๋อนั่งอยู่ระเบียงทางเดิน แล้วพูดเบาๆว่า “ที่แท้ก็ไม่ชอบให้ข้าเกะกะ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือหงส์พันปี