ข้ามภพมาเป็นแม่เลี้ยงของวายร้ายทั้งห้า นิยาย บท 18

สะไภ้รองกัดฟัน เธอจะมีสิทธิ์พูดอะไรหล่ะ

เฉียวเหลียนเหลียนมองไปที่สะไภ้คนโต เธอหันกลับมาแล้วอุ้มกู้เกอที่กำลังร้องไห้

“เกอเอ๋อร์อย่าร้องน้า โอ๋ๆ แม่กลับมาแล้ว”

เธอกล่อมเด็กหญิงตัวเล็กๆด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลที่สุด และค่อยๆลูบศีรษะกู้เกอเบาๆ

“แม่ เกอเอ๋อร์กลัวมาก” กู้เกอกอดคอเธอแน่น “เกอเอ๋อร์อยากหาแม่”

“แม่อยู่ที่นี่แล้ว” หัวใจของเฉียวเหลียนเหลียนแทบละลาย

พี่สะไภ้มองดูเธอด้วยสายตาว่างเปล่า ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผู้หญิงอ่อนโยน และเธอเป็นผู้หญิงคนเดียวกันกับผู้หญิงที่มีแรงอาฆาตคนเมื่อกี๊

ครอบครัวเหล่าซานไม่เหมือนแต่ก่อนอีกต่อไป

แม้แต่กู้เฉิงยังช่วยปกป้องน้องๆ

“เราไม่กลับไปที่นั่น” เด็กๆพูดเสียงดังฟังชัด และมีความเย็นชา แม้ตัวพวกเขาจะไม่โต แต่ไม่ง่ายที่จะรังแก “นี่เป็นครั้งที่สองที่บุกเข้าบ้าน และดูหมิ่นพวกเรา ถ้าพวกคุณกล้าทำร้ายพี่น้องของผม ผมจะให้พวกคุณชดใช้ด้วยการเลือดตกยางออก"

เด็กตัวแค่นี้กล้าเตือนแล้วเหรอ?

ปากดีจริงๆ

สะไภ้คนโตพูดอย่างไม่สนใจ “ไม่กลับก็ไม่กลับ พวกหมาจิ้งจอกตาขาว ตระกูลกู้เลี้ยงพวกแกเสียข้าวสุกมากว่าครึ่งปี เลี้ยงหมายังดีกว่าพวกแก"

“น้องรอง จ้วงจ้วง กลับบ้าน”

ทั้งสามออกไปพร้อมกัน ตอนแรกก็ไม่ได้รู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติ แต่พอเดินไปประมาณครึ่งทาง กู้จ้วงก็กระอักเลือด ตาเหลือกและเป็นลมไป

สะไภ้คนโตเพิ่งจะรู้ว่าสิ่งที่กู้เฉิงเตือนนั้นหมายถึงอะไร ตอนนี้เสียใจก็สายไปเสียแล้ว เธอได้แต่ร้องห่มร้องไห้พาลูกไปอนามัย

ณ บ้านร้างตระกูลกู้

หลังกินอาหารเย็น เด็กทุกคนก็ผล็อยหลับไป

เฉียวเหลียนเหลียนพูดกับกู้เฉิง “ลูกทำร้ายกู้จ้วงจริงๆ เหรอ?”

“อืม แค่บาดเจ็บเล็กน้อย ไม่กี่วันก็หาย” กู้เฉิงพยักหน้า

เขาฝึกฝนศิลปะการต่อสู้มาตั้งแต่เด็ก และความแข็งแกร่งของเขาคงที่

การชกสองครั้งในตอนเที่ยงดูรุนแรง แต่จริงๆแล้วไม่ร้ายแรง เขาทำเพื่อทำให้ตระกูลกู้ดูหวาดกลัว

เด็กคนนี้ฉลาดจริงๆ

สมควรที่เขาจะเป็นวายร้ายที่โหดเหี้ยมที่สุดในนิยาย

สมัยก่อนที่เฉียวเหลียนเหลียนอ่านหนังสือนิยายเรื่องนี้ เธอได้แต่คิดว่าวายร้ายจะต้องน่ากลัวมาก พวกเขาเป็นมือสังหารที่มองไม่เห็น และยังสามารถทำให้ศัตรูกลายเป็นเถ้าถ่าน

ตอนนี้ เธออยากจะลูบศีรษะเขาเบาๆ

และเฉียวเหลียนเหลียนก็ลูบศีรษะเขาจริงๆ

ผ่านไปซัหพัห

ผมนุ่มมาก เขาไม่ได้ต่อต้านใดๆ

เฉียวเหลียนเหลียนจึงลูบอีกสองสามครั้ง

กู้เฉิงไม่ได้ปฏิเสธ

เฉียวเหลียนเหลียนเกิดความรู้สึกหนึ่งที่อธิบายไม่ได้ เธอตื้นตันใจมาก

จนกระทั่งผมของกู้เฉิงยุ่งเป็นรังนกกระจอก เขาจึงหน้าดำคร่ำเครียด และรีบเบี่ยงตัวหนีจากแม่เลี้ยงเขา

แม่เลี้ยงน่ากลัวจริงๆ

...

แม้ว่าการขายเนื้อแกะพะโล้จะได้รับความนิยมอย่างมาก แต่เมื่อคิดถึงสภาพเศรษฐกิจในเมืองซีหยาง เฉียวเหลียนเหลียนไม่ได้เพิ่มปริมาณหมูตุ๋นอย่างสุ่มสี่สุ่มห้า

เธอยังมีแกะอีกสองตัวที่ยังรอขายจนหมด

เธอไม่ได้แถมให้กับลูกค้าเพื่อกระตุ้นการขาย

แน่นอนว่าวันนี้ขายได้เร็วกว่าเมื่อวาน ภายในครึ่งชั่วใมงก็เหลือเพียงน่องแกะ

“แม้ค้า ทั้งหมดนี่ผมขอเหมา”

ปี้ซงวิ่งไปท้ายแผง แต่เสียงเขานั้นมาก่อนตัวเสียอีก

เฉียวเหลียนเหลียนมีความประทับใจในตัวเขาอยู่แล้ว ดังนั้นเขาจึงอดไม่ได้ที่จะเม้มปากและยิ้ม “นายน้อย คุณกินที่ซื้อไปเมื่อวานหมดหรือยัง เมื่อวานคุณสั่งตั้งสองโลครึ่ง?”

“เนื้อแกะสองโลครึ่งฟังดูเหมือนเยอะ แต่เมื่อกินเข้าไป มันจะหายไปก่อนที่ผมจะรู้ตัว ยิ่งไปกว่านั้น ไม่ใช่ผมคนเดียวที่กิน” ปี้ซงทำหน้าบึ้ง

และนายท่านอยู่ดีๆก็ตื่น ยังไม่ทันได้พุดอะไรก็หอของกิน

เจียงชุนเกลี้ยกล่อมให้นายท่านกินข้าว แต่นายท่านปฏิเสธ

ปี้ซงมีความสุขเล็กน้อยที่เจียงชุนไม่กินแกะ ถ้าเป็นเช่นนี้เขาก็ได้กินมันคนเดียว

เฉียวเหลียนเหลียนเย้ยหยันในใจ

หากจะซื้อสูตรแค่ห้าตำลึง มันหลอกลวงเกินไป

ทำเป็นเป็นคนใจกว้าง และให้ขายต่อได้ แผงเล็กๆของเธอไม่สามารถขโมยลูกค้าของภัตตาคารได้ และไม่ว่าเธอจะขายหรือไม่ก็ไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ที่ซื้อ

ความคิดฉลาด แต่ไม่ได้กินเธอหรอก

เธอไม่ได้เงยหน้าขึ้น "นี่เป็นอาชีพหลักของฉันที่ฉันใช้หาเลี้ยงลูก ฉันไม่ขายสูตร"

“เธอ...” คนที่มาซื้อโกรธมาก “ได้ เธอรู้ไหมว่าภัตตาคารของเราชื่ออะไร ภัตตาคารเราชื่อภัตตาคาร เป็นภัตตาคารที่ดีที่สุดในซีหยาง หากเธอขุ่นเคืองกับเรา เธอจะถูกจัดการและไม่อาจขายของได้ต่อไป”

ใช้แม้กระทั่งการขู่

เฉียวเหลียนเหลียนถอนหายใจ เธอรู้ว่าแม่ม่ายที่มีลูกหลายคนหาเงินได้ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เธอไม่คิดว่ามันจะยากขนาดนี้

แต่โชคดีที่เธอไม่กลัวอะไร

เธอให้เด็กๆยืนอยู่ในมุมที่ปลอดภัยและเผชิญหน้ากับเขา

“ต้องการซื้อสูตรหมูตุ๋นของฉันด้วยเงินห้าตำลึง คุณรู้ไหมว่าฉันสามารถหาเงินได้ 5 ตำลึงได้ในหนึ่งเดือน ใครจะสนเงินของคุณ อย่าใช้ภัตตาคารซอมซ่อมาขู่คนอื่น คุณก็แค่เด็กรับใช้ ตัดสินใจแทนเจ้าของร้านได้เหรอ?” เธอเยาะเย้ย

สายตาผู้มาเยือนเย้ยหยันอยู่ครู่หนึ่ง

เขาเป็นเพียงเด็กรับใช้ในภัตตาคาร แต่เจ้าของร้านให้คุณค่ากับเขา และขอให้เขาพูดคุยเกี่ยวกับธุรกิจนี้ ดังนั้นเขาจึงต้องแสดงลักษณะอันโอ่อ่าของภัตตาคาร

“พวกเราภัตตาคารหยุนซีสนใจในสูตรพะโล้ของเธอก็เป็นความโชคดีของเธอแล้ว อย่าพูดเกินไปหน่อยเลย” เขาขึ้นเสียง “ระวังในอนาคตเธออาจจะไม่ได้ขายเนื้อแกะพะโล้”

"ไป"

เฉียวเหลียนเหลียนตอบเพียงคำเดียว เธอสะพายกระบุงไม้ไผ่และจากไปอย่างไม่สนใจใยดี

ชายคนนั้นแทบสำลัก

"ดี"

เขาหันกลับไปด้วยความโกรธเคืองและตรงไปที่สาขาย่อยของภัตตาคารหยุนซีในเมืองซีหยาง

พอเห็นเจ้าของร้าน เขาก็โกรธเป็นรังแตน

เขาพูดกับเถ้าแก่ว่า “เธอสนใจเงิน 10 ตำลึง และเธอสามารถหาเงินสิบตำลึงนี้ได้ในหนึ่งเดือน เถ้าแก่ต้องจัดการ ไม่เช่นนั้นเราจะไม่มีที่ยืนในซีหยาง!"

เจ้าของร้านลูบเคราและหลังจากนั้นไม่นานเขาก็พยักหน้า

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ามภพมาเป็นแม่เลี้ยงของวายร้ายทั้งห้า