ข้ามภพมาเป็นแม่เลี้ยงของวายร้ายทั้งห้า นิยาย บท 245

เฉียวเหลียนเหลียนไม่ใช่เพิ่งจะอยู่ที่นี่

เธออยู่ที่นี่และได้ยินมาซักพักหนึ่งแล้ว

ไม่ใช่ว่าเธอจะนิ่งสงบเป็นพระ อดทนได้ เธอเพียงอยากเห็นหานจ้าวถูกกดดัน

การที่จะทำให้นักธุรกิจยอมทนต่อไปได้นั้นไม่มีทางหรอก

แต่อย่างน้อยก็อย่าข่มเหงคนอื่นมากเกินไป

การทำให้คนอื่นเกรงกลัวบางครั้งมันก็แย่มาก สิ่งนี้สามารถทำให้ผู้อื่นเกรงกลัวจนไม่อยากที่จะตอบสนองกลับ

เฉียวเหลียนเหลียนไม่ต้องการเห็นฉากนี้

โชคดีที่ช่วยหานจ้าวทัน

ไม่ว่าเขาจะอยู่ในความหวาดกลัว แต่เขาก็ต้องการปฏิเสธตระกูลหาน

เฉียวเหลียนเหลียนยิ้มอย่างยินดี

หานจ้าวเห็นรอยยิ้มนั้นก็ตกตะลึง

นี่ไม่ใช่รอยยิ้มของเฉียวเหลียนเหลียนสมัยก่อนที่ดูแลลูก ๆ หรือ ?

ทำไม....ถึงเผยออกมา

แปลกมาก

หานจ้าวผู้อายุเกือบจะสี่สิบปีเต็มไปด้วยความสงสัย

เฉียวเหลียนเหลียนไม่ได้มองเขา แต่กลับมองไปที่คนตระกูลหาน

เธอมองไปยังคนตระกูลหานที่ให้การสนับสนุนธุรกิจทีละคน ๆ และดูเหมือนว่าพวกเขาจะพร้อมที่จะมีเรื่องกับเฉียวเหลียนเหลียน

ผ่านไปครู่หนึ่ง เธอก็ดึงผ้าเช็ดหน้าออกมาจากแขนเสื้อ เช็ดหางตาและไอเบา ๆ "ทุกท่านดูโมโหจนหน้าแดงไปถึงหู มิใช่ถูกนึ่งจนร้อนหรือ ?"

เธอมีการแสดงออกที่น่าสมเพชน้ำเสียงที่นุ่มนวล แต่สิ่งที่เธอพูดนั้นลึก

ใครถูกนึ่งร้อนกัน ?

ปูแน่ ๆ

คนตระกูลหานคิดไม่ถึงว่าเธอจะร้องออกมา และคิดไม่ถึงว่าจะได้ยินคำพูดทิ่มแทงเช่นนี้

คนตระกูลหานมีความสง่างาม ไม่เคยมีใครกล่าวเช่นนี้มาก่อน และไม่เคยพบผู้หญิงที่ไม่เคยพบกันพูดเช่นนี้

ด้วยรอยยิ้มของหานจ้าว ทำให้พวกเขาได้สติกลับมา

"นี่เยาะเย้ยว่าเราเป็นปูหรือ? ตั้งใจหาเรื่องเราหรือ ?" พี่รองตระกูลหานโกรธและชี้ไปที่เฉียวเหลียนเหลียน

"ทำไม?" เฉียวเหลียนเหลียนแสดงออกอย่างไม่แยแส "พวกคุณพูดจาเช่นนั้น ไม่ใช่ว่าอยากแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของตัวเองหรอกหรือ? "

เข้ามาในภัตตาคารคนอื่นไม่ทันไรพูดถึงส่วนแบ่ง อีกทั้งยังอ้างว่าเป็นสมบัติส่วนตัวของตระกูลตัวเอง ไม่เกินไปหน่อยเหรอ ?

"ไร้สาระ!" พี่รองตระกูลหานกระโดดเหมือนได้ยินเสียงฟ้าร้อง "ตระกูลหานของเราเป็นหนึ่งเดียวไม่แบ่งแยก เรามีใจเป็นหนึ่ง สามัคคีกลมเกลียม แต่เธอสิเป็นคนนอก"

"ความสามัคคีคือการแย่งภัตตาคารของคนอื่น ชิงผลประโยชน์ไปเช่นนั้นหรือ ?" เฉียวเหลียนเหลียนต่อต้าน "เช่นนั้นก็นำสมบัติทั้งหมด รวมถึงทรัพย์สินของตระกูลหานแบ่งออกมา"

บรรพบุรุษของหนึ่งในสิบตระกูลใหญ่ของเมืองหลวงทุกคนติดตามจักรพรรดิเพื่อสร้างราชวงศ์และความมั่นคงแก่ตระกูล

พวกเขาได้รับรางวัลมากมายไม่ว่าจะเป็นที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง

ทำไมไม่เห็นตระกูลหานแบ่งอะไรออกมาให้หานจ้าว?

เฉียวเหลียนเหลียนถามพี่รองของตระกูลหาน เขามองไปที่เฉียวเหลียนเหลียน และการแสดงออกอย่างสง่างาม

หญิงตัวเล็ก ๆ คนนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะจัดการ

ไม่มีทางที่เขาสามารถหมุนไกปืนเพื่อโจมตีเธอได้ เขาจึงมองไปที่หานจ้าว "พูดสิว่าเป็นคนตระกูลหานหรือไม่?"

นี่คือการบังคับให้หานจ้าวพูด

"หานจ้าว แกต้องคิดดี ๆ หากตัดสินใจผิด แน่นอนว่าแกจะไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับตระกูลหานอีกเป็นแน่" ดูเหมือนว่าเขากลัวว่าหานจ้าวจะปฏิเสธ เขาจึงตั้งใจกล่าวประโยคนั้นออกมา

นี่เป็นภัยคุกคามเป็นแน่

เฉียวเหลียนเหลียนมองไปที่หานจ้าวอย่างรอคอย

คราวนี้ตระกูลหานพุ่งเป้ามาที่ภัตตาคารซื่อสี่และเธอ การที่มีเธอเป็นหุ้นส่วนในภัตตาคารซื่อสี่นั้นแสดงถึงความมั่งคั่งในอนาคต

หานจ้าวดึงเฉียวเหลียนเหลียนออกมา

เขาไม่ได้โง่ อย่างไรก็ตามเขาฉีกหน้าต้นตระกูลของเขา และเขาไม่สามารถยืนอยู่ตรงนั้นอย่างพ่ายแพ้

"คุณเฉียว คุณไปตามคนมา ผมจะถ่วงเวลาไว้" หานจ้าวกล่าว

เฉียวเหลียนเหลียนเคลื่อนไหว

ในช่วงเวลาวิกฤติหานจ้าวไม่ได้ทิ้งเธอ และมันก็น่าประหลาดใจ

ตอนนี้เธอต้องออกไปเรียกคนมาช่วย

เฉียวเหลียนเหลียนตบไหล่ของเขา "คุณหานไม่ต้องกังวล"

เธอกล้าที่จะแสดงออกอย่างแข็งแกร่งและช่วยภัตตาคารซื่อสี่อย่างเต็มที่

หานจ้าวถึงกับตกตะลึง และทันทีที่เขาถามเขาก็เห็นเงาบางอย่างของเฉียวเหลียนเหลียน

เพียงแค่สองอึดใจ สองสามคนที่ตามมาก็กระเด็นไปกระแทกกำแพง

ทันใดนั้นเงานั้นก็หายไป

ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

หานจ้าวไม่รู้ว่าเงานั้นคืออะไร แต่พี่รองเขารู้ดี "นั่นคือผู้คุ้มกันลับหรือองครักษ์ลับของราชวงศ์ต้าหยู"

ราชวงศ์ต้าหยูสร้างขึ้นช่วงเวลาสั้น ๆ และจำนวนองครักษ์ลับนั้นมีน้อย มีเพียงไม่กี่คนที่มี

มีองครักษ์ลับติดตามเฉียวเหลียนเหลียนก็เพียงพอที่จะทำให้เขาตกใจ

"พี่รอง ทำไงดี ?" ชายหนุ่มกังวลเล็กน้อย

พี่รองโบกมือและกล่าว"ถอยก่อน"

คนตระกูลหานรีบออกจากภัตตาคารซื่อสี่ทันที ขณะที่พวกเขากำลังเตรียมที่จะขึ้นรถม้าก็ได้ยินเสียงหนึ่งกล่าว "ช้าก่อน"

เฉียวเหลียนเหลียนเดินออกมาเห็นองค์หญิงองค์โตค่อย ๆ เดินลงจากรถม้า

เธอเห็นเช่นนั้นก็ตกใจ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ามภพมาเป็นแม่เลี้ยงของวายร้ายทั้งห้า