เฉียวเหลียนเหลียนหัวเราะขึ้นมาในทันใด “พวกคุณบอกว่าไม่ใช่ครอบครัวเดียวกันก็ตามนั้น แต่ครอบครัวนี้ก็ยังไม่ได้แยกกันนี่ ผู้อาวุโสของหมู่บ้านก็ยังไม่รับรู้”
“บอกว่าแยกก็แยกสิ” เมื่อเห็นเคราแพะพุ่งเข้ามาอย่างดุดัน จากนั้นกู้เหว่ยดึงโฉนดออกมาจากอ้อมแขนของหญิงชรา จากนั้นก็โยนไปที่เฉียวเหลียนเหลียน “เอาไปสิ นี่เป็นโฉนดบ้านเก่า แต่ฉันยังคงต้องทำตามที่คุยกันไว้เมื่อวาน เธอเอาที่ดินไปแล้ว เธอไม่มีความเกี่ยวข้องกับเราอีก"
กระดาษโฉนดลอยไปทางเฉียวเหลียนเหลียนและตกลงที่พื้น
บ้านนั้นเก่ามากแล้ว ราคาจะได้ซักเท่าไหร่กัน ถือโฉนดต่อไปก็เสียเวลา
เฉียวเหลียนเหลียนถอนหายใจพร้อมกับก้มลงหยิบโฉนด และมองออกไปนอกประตู
ผู้อาวุโสของหมู่บ้านที่ถูกป้าหลิวเรียกให้มาก็เดินเข้ามาด้วยความสั่นเทา
“ผู้อาวุโส พวกท่านได้ยินใช่ไหม? ได้ยินที่พี่ชายฉันพูดใช่ไหม? ” เฉียวเหลียนเหลียนถามด้วยรอยยิ้ม
ผู้อาวุโสของหมู่บ้านตระกูลกู้ต่างได้รับเนื้อหมูป่าชิ้นใหญ่ก็ค่อยๆทยอยพยักหน้า
“งั้นก็ตามนั้น เรารับรองเรื่องนี้ให้ กู้เหล่าซานแยกไปอยู่ข้างนอก” ผู้อาวุโสท่านหนึ่งหยิบพู่กันมาบันทึกรับรอง
กู้เหว่ยและสะไภ้คนโตตระกูลกู้ต่างพากันถอนหายใจ
สะไภ้คนรองที่นิ่งเงียบอยู่ครู่หนึ่งก็ชี้ไปที่ชายเคราแพะผู้นั้น “ทำไมเขาถึงหยุดหล่ะ?”
ทุกคนมองไปทางเดียวกันและพบว่า ชายเคราแพะเอามือลูบเคราไม่พูดอะไรต่อ
ไม่มีความก้าวร้าว กล่าวหาและเรียกร้องเงินใดๆเหมือนก่อนหน้านี้
ใจของกู้เหว่ยและสะไภ้คนโตเต้นรัว
แย่แล้ว เราโดนหลอก!
ทั้งสองเงยหน้าขึ้นพร้อมกัน คนหนึ่งต้องการคว้าโฉนดในมือของเฉียวเหลียนเหลียน แต่เฉียวเหลียนเหลียนรีบออกไปเสียก่อน
อีกคนต้องการหยุดการรับรองเรื่องจากผู้อาวุโส แต่ถูกกู้เส้ารั้งไว้
เมื่อผู้อาวุโสดำเนินการถึงขั้นตอนสุดท้าย กู้เส้าจึงก้าวออกไปพร้อมกับรอยยิ้ม "พี่ใหญ่ ทำไมถึงรีบประทับนิ้วลงไปล่ะ แต่ก็ชั่งเถอะ ผมไม่อาจขัดขวางพี่ได้"
กู้เหว่ยเกือบอาเจียนออกมาเป็นเลือด
“เรียบร้อยแล้ว” ผู้อาวุโสนำกระดาษรับรองเรื่องออกมา แล้วกดลายนิ้วมือของฝ่ามือ พร้อมกับประทับตราอย่างเป็นทางการ
ท้ายที่สุดเหลือเพียงผู้เกี่ยวข้องประทับนิ้วมือ
เฉียวเหลียนเหลียนไม่จำเป็นต้องพูดอะไร แต่กู้เหว่ยไม่เต็มใจที่จะกด
คำพูดบางคำผู้อาวุโสได้ยิน
บางเรื่องก็อยู่ในสายตาของคนในหมู่บ้าน
ท้ายที่สุด แม้ว่าจะพิมพ์ลายนิ้วมือหรือไม่ ครอบครัวนี้ไม่แยกก็ต้องเยก
เหลือเพียงแค่ส่งโฉนดนี้ไปที่หน่วยงานราชการ
หลังจากขอบคุณผู้อาวุโสของตระกูลและส่งพวกเขาไป เฉียวเหลียนเหลียนก็อุ้มกู้เกอและเดินออกไปพร้อมกับสามีและลูกๆ
“เดี๋ยวก่อน” หญิงชราที่ไม่ได้พูดอะไรก็เริ่มปริปาก
เฉียวเหลียนเหลียนหยุดก่อน
“หญิงตระกูลเฉียว เธอนี่ร้ายกาจนะ ทำให้ครอบครัวเราต้องแยกกัน แต่ถึงยังไงเส้าเอ๋อร์ก็เป็นลูกชายของฉัน อย่าริอาจมาแยกเราสองแม่ลูก” สายตาของหญิงชราเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและเกลียนชัง
เฉียวเหลียนเหลียนยิ้ม
เธอไม่แม้แต่จะหันหลังกลับ เธอหันหลังให้แล้วพูดเบา ๆ ว่า “เหรอ? แต่เขาสนับสนุนฉันในการแยกครอบครัว”
ประโยคเพียงหนึ่งประโยคราวกับหอกที่แหลมคมแทงทะลุผ่านความแข็งแกร่งที่หญิงชรามีอยู่
เธอถึงกับนั่งลงบนเก้าอี้และจ้องที่ปที่กู้เส้า “ซานเอ๋อร์ เส้าเอ๋อร์ กลับมาหาแม่เถอะ ลูกไม่รักแม่แล้วเหรอ? ลูกแต่งเมียแล้วลืมแม่อย่างนั้นเหรอ”
กู้เส้ารู้สึกเขินอาย
“กลับก็กลับ” กู้เส้าพยักหน้าทันที
สมาชิกทั้งเจ็ดของครอบครัวเดินกลับบ้านอย่างเป็นระเบียบ
เมื่อมาถึงบ้านร้างเก่า เฉียวเหลียนเหลียนก็เชิญเจ้าของภัตตาคารที่รออยู่หน้าบ้านเข้ามาในบ้าน
“ต้องขอบคุณหูมากที่ช่วยเหลือและทำให้เราแก้ไขปัญหานี้ได้” เฉียวเหลียนเหลียนรินน้ำชาให้คุณหูดื่ม
คุณหูโบกมือ “ผมไม่ได้ทำอะไรเลย ผมเพิ่งมาที่หมู่บ้านตระกูลกู้ จะว่าไป ผมยังสงสัยว่าคุณทำผงอร่อยได้ยังไงกัน”
เฉียวเหลียนเหลียนใจกว้างมาก “ถ้าคุณสงสัย ก็ตามฉันมาสิ”
เธอยืนขึ้นเพื่อแนะนำ แต่เจ้าของภัตตาคารไม่ขยับตัวใดๆ “นั่นเป็นสูตรลับของเธอ ผมไม่อาจรู้ความลับนี้ได้ แต่ถ้าวันนึง อยากขายมัน ต้องบอกผมเป็นคนแรก"
“ไม่มีปัญหา” เฉียวเหลียนเหลียนเห็นด้วยทันที
ใกล้เที่ยงแล้ว เมื่อเฉียวเหลียนเหลียนเห็นว่าเที่ยงตรงพอดี เธอจึงเชิญเจ้าของภัตตาคารทานข้าวเที่ยง แต่เจ้าของภัตตาคารกับปฏิเสธและขี่รถม้าออกไป
เฉียวเหลียนเหลียนทำอาหารกลางวันง่ายๆ สมาชิกทั้งเจ็ดได้กินมัน ซักพักวัสดุก่อสร้างก็มาถึง
ช่างจางเหมารถมา พร้อมกับคนสองสามคน พวกเขาขนกองอิฐและกระเบื้องมาไว้ตรงทางเข้าบ้านร้างคันแล้วคันเล่าจนกลายเป็นกองภูเขาเล็กๆ
เมื่อข่าวถูกส่งมาถึงบ้านตระกูลกู้ หญิงชราที่กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้หวายก็ตกอยู่ในภวังค์
สะไภ้คนโตตระกูลกู้ถมน้ำลายลงบนพื้นและตะโกนว่า “ยัยตัวร้าย หนูคิดไว้แล้วว่ามันต้องโกหกเพื่อเอาโฉนดบ้านร้างเก่าไป ”
หญิงชราเสียใจที่ลูกชายแสนดีของเธอจากไป และเธอเสียใจที่เธอเสียบ้านหลังใหม่ที่เธอควรจะได้เป็นเจ้าของไป
“แม่ เรื่องนี้ปล่อยไว้ไม่ได้แล้ว” กู้เหว่ยก็พูดอย่าเกลียดชัง “ในโลกนี้ไม่มีใครจัดการยัยตัวร้ายคนนี้ได้เลยหรือ?”
หญิงชราเดิมแววตางุนงงก้เริ่มมีสติ
ผ่านไปครู่หนึ่ง ดูเหมือนเธอกำลังคิดอะไรบางอย่าง และดวงตาของเธอก็สว่างวาบขึ้นมาทันใด “ฉันนึกออกคนนึง คนนี้จัดการเธอได้แน่”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ามภพมาเป็นแม่เลี้ยงของวายร้ายทั้งห้า
ตอนที่36หายค่ะ แก้ไขให้หน่อยนะคะ...
เนื้อหาตอน 21-25หาย แก้หน่อยนะคะ...
เนื้อหาหายแก้หน่อยนะคะ...
เนื้อหาหายค่ะ...
ตอนที่ 21-25 เนื้อหาหายไปค่ะรบกวนแก้ไขให้หน่อยค่ะ ขอบคุณค่ะ...
ลุ้นๆๆๆ ขนมอบต้องมา...
รัททายาทเป็นพ่อที่เลวมากๆ...
สนุกๆ รอตอนต่อไปค่ะ...
เริดๆๆ...
รอต่อค่าาา...