ข้ามภพมาเป็นแม่เลี้ยงของวายร้ายทั้งห้า นิยาย บท 66

“ผู้อาวุโสหลี่” เฉียวเหลียนเหลียนทักทายผู้อาวุโสด้วยความเคารพ เธอวางเค้กที่เตรียมมาให้ผู้อาวุโสไว้ และถามถึงอาการป่วยของผู้อาวุโส “สองสามวันมานนี้ ผู้อาวุโสมีการการหายใจลำบากไหม?”

“หลังจากได้กินยาของคุณ ฉันก็ดีขึ้นมากแล้ว” ผู้อาวุโสคุยกับเธอเพียงไม่กี่คำก็กลับไปที่ห้องหนังสือ

ตอนที่ภรรยาของผู้อาวุโสหลี่ยังมีชีวิตอยู่ เธอจะเป็นคนเตรียมอาหารเที่ยงให้

ต่อมาเมื่อภรรยาของผู้อาวุโสหลี่จากไปแล้ว อาหารเที่ยงที่โรงเรียนก็ถูกยกเลิก

นักเรียนที่อยู่ใกล้จะกลับบ้านไปกินข้าว ส่วนนักเรียนที่อยู่ห่างไกลจะได้กินบ้าง พวกเขาอยู่ไม่ไกลจากเมืองซีหยาง

กู้เฉิงจัดเป็นนักเรียนที่อยู่ไม่ไกลจากซีหยาง

ซึ่งเท่ากับว่ามื้อเที่ยงต้องออกไปกินข้างนอก เฉียวเหลียนเหลียนเป็นห่วงลูกชาย เธอกลัวว่าเขาจะไม่ได้กินของดีๆ จึงให้เงินวันละสิบเหรียญ

แต่เด็กคนนี้เป็นคนประหยัด ใช้เงินเพียงสองเหรียญต่อวัน เขากินเพียงซาลาเปา ผักดอง อย่างมากก็กินบะหมี่หยางชุนหนึ่งชาม

เด็กวัยกำลังโต กินแค่นี้จะเรียกว่ากินดีได้อย่างไร

เฉียวเหลียนเหลียนวางกล่องอาหารที่ห่อด้วยผ้าฝ้ายไว้บนโต๊ะเล็ก ๆ ทันทีที่เธอเปิดออก กลิ่นของน้ำแดงข้น ๆ ก็ลอยออกมา ดึงดูดผู้อาวุโสหลี่และนักเรียนคนอื่นๆ จนพวกเขาต้องกลืนน้ำลาย

เด็กคนอื่นๆบ่นอย่างไม่พอใจ

เฉียวเหลียนเหลียนรู้สึกเขินอายเล็กน้อย แต่เธอไม่ได้นำอะไรมามากนัก เธอจึงไม่อาจแบ่งให้พวกเขาได้

“พี่ กินเถอะ” กู้เชวี่ยยื่นชามกับตะเกียบให้

กู้เฉิงไม่ได้กินมันในทันที แต่หยิบชามเปล่า จากนั้นตักอาหารครึ่งหนึ่งไปให้ผู้อาวุโสที่ห้องหนังสือ

เมื่อกลับมาเขาจึงเริ่มกินอย่างช้าๆ

เฉียวเหลียนเหลียนพยักหน้า

แม่และน้องสาวไม่ได้เร่งรีบ พวกเธอดูกู้เฉิงกินข้าว

หลังจากดื่มชาไปประมาณครึ่งแก้ว ก็มีคนมาเคาะประตูบ้านผู้อาวุโส คราวนี้เฉียวเหลียนเหลียนไปเปิดประตู

ทันทีที่สลักประตูถูกเปิด ประตูก็ถูกผลักออกอย่างเร่งด่วน พร้อมกับเสียงที่ดังขึ้น “นายน้อย นายน้อย ฉันมาช้าไปแล้ว”

คนๆ นั้นรีบวิ่งเข้าไปอย่างเร่งรีบ จนชนเข้ากับเฉียวเหลียนเหลียนและไม่ขอโทษ เขารีบวิ่งไปหาเด็กชายตัวเล็ก ๆ

เด็กชายตัวเล็ก ๆ อายุเพียงสิบขวบ เขาไม่ได้น่าเกลียด เสื้อผ้าของเขาค่อนข้างหรูหรา ซึ่งสร้างความแตกต่างจากกู้เฉิงที่สวมชุดผ้าลินินเนื้อหยาบ

“ทำไมถึงมาช้า? รู้ไหมว่าผมหิวมากเลย” ใครจะรู้ว่าตอนที่เขาพูดนั้น เขาก็ทำลายภาพลักษณ์อันบอบบางของเขาเอง “รีบไปเอาอาหารมา ไม่งั้นไสหัวออกไปจากบ้าน”

“รับทราบ นายน้อย” ชายคนนั้นตกใจ และรีบเอาอาหารกลางวันออกมา

เฉียวเหลียนเหลียนถอนหายใจ

เธอคิดว่าผู้อาวุโสหลี่สอนเฉพาะเด็กดีที่กระตือรือร้นที่จะเรียนรู้ ใครจะรู้ว่าท่ามกลางเด็กดีที่กระตือรือร้น มีวัชพืชอยู่จริง เธอประหลาดใจเล็กน้อย”

“แม่ คนนี้คือคนที่ส่งเสียงดังตอนพี่กินข้าว” กู้เชวี่ยกระซิบกับเฉียวเหลียนเหลียน

เฉียวเหลียนเหลียนกระพริบตาแล้วส่ายหน้า และขอให้เธอหยุดพูด

เด็กชายตัวเล็กๆคนนี้ดูท่าทางพอตัว และภูมิหลังทางครอบครัวไม่ธรรมดา ดังนั้นจึงเป็นการดีกว่าที่จะไม่ยั่วยุเขา

กู้เชวี่ยพยักหน้า

เหมือนออกจากประตูนรกยังไงยังงั้น

เฉียวเหลียนเหลียนดึงกู้เชวี่ยที่กำลังเผชิญหน้ากับแม่บ้านของเด็กชายคนนั้นออกมา เธอเหลือบมองเด็กชายแล้วพูดเบาๆ “หัวสิงโต ต้องกินคำเล็ก ไม่เช่นนั้นจะติดคอ”

หลังจากที่กู้เฉิงกลับมาจากล้างจาน เฉียวเหลียนเหลียนก็รับชามข้าวกลับและพากู้เชวี่ยออกไป

“นายน้อย* นายน้อย*” แม่บ้านยังคงหวาดกลัว “นายน้อยไม่เป็นไรใช่ไหม รู้สึกไม่สบายตรงไหนหรือป่าว ให้พาไปหาหมอไหม?”

เด็กน้อยไม่พูดอะไร และมองไปยังผู้หญิงที่ช่วยเขาไว้ ทันใดนั้นก็ลุกขึ้นแล้วรีบวิ่งออกไปที่ประตู และตะโกนใส่เฉียวเหลียนเหลียนว่า "ขอบคุณที่ช่วยชีวิตผม ผมชื่อหานมู่ ผมมีจะตอบแทนคุณอย่างแน่นอน "

“ไม่เป็นไร ขอแค่ต่อไปอย่าเป็นปรปักษ์กับลูกชายฉันก็พอ” เฉียวเหลียนเหลียนยิ้มเบา ๆ และหันหลังกลับ

หานมู่งุนงง

เขาคิดว่าผู้หญิงคนนี้เป็นพี่สาวของกู้เฉิง แต่เธอกลับเป็นแม่ของกู้เฉิง

“นาย...ทำไมแม่นายดูเด็กจัง” เขาถามกู้เฉิงอย่างตะกุกตะกัก

กู้เฉิงไม่สนใจเขา หันกลับมาและจดจ่อกับการอ่านหนังสือต่อไป

“ตอบฉันก่อนสิ ต่อจากนี้ไป ฉันจะชวนนายกินลูกชิ้นจากภัตตาคารซื่อสี่ทุกวันเลย ฉันมีสิทธิพิเศษ และฉันสามารถกินมันได้ตลอด ของอร่อยอื่นๆก็เหมือนกัน ครอบครัวของฉันไม่ขาดแคลน” หานมู่วิ่งตามกู้เฉิง

กู้เฉิงอ่านหนังสือต่อและทำเป็นไม่สนใจ

หานมู่ "..."

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ามภพมาเป็นแม่เลี้ยงของวายร้ายทั้งห้า