เขาจำเวลาตอนนั้นได้ดีว่าองค์จักรพรรดิทรงบัญชาให้ทำการถวายอาหาร เครื่องนุ่งห่มและของจำเป็นอื่น ๆ โดยอ้างอิงข้อกำหนดของฮองเฮา
อาจพูดได้ว่านี่คือการละเลยหน้าที่ที่ร้ายแรงที่สุดของเขา
แต่ก็ยังดีที่องค์จักรพรรดิยังมิได้ทรงรับทราบ อีกทั้งนายหญิงแห่งตำหนักเย็นผู้นี้ก็มิได้ถือโทษอะไรในทำนองนั้น
ฉะนั้นช่วงไม่กี่วันนี้สำนักพระราชวังจึงถวายอาหารข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ ด้วยความหมั่นเพียรและรอบคอบ
เพราะเกรงว่านายหญิงท่านนี้จะเอาเรื่องก่อนหน้านี้ไปกราบทูลต่อเบื้องพระพักตร์องค์จักรพรรดิ
พอคนของสำนักพระราชวังจากไป คนของกองพระราชฐานชั้นในก็มาพอดี
พร้อมกับนำนางข้าหลวง 40 นางและขันทีอีก 20 นายมาถึง
เหล่านางข้าลวงและขันทีเดิมทีพวกเขาอายุถึงเกณฑ์ที่จะต้องออกจากพระราชวังแล้ว แต่เนื่องจากปีนี้ที่มีพระราชโองการให้เลื่อนการออกจากวังไปอีกหนึ่งปี รวมถึงงานของฝ่ายแผนกซักล้างที่มีคนใหม่มาทำแทน หลังจากจัดการบริหารคนอื่น ๆ ทั้งหมด คนที่เหลือจากการจัดการบริหารที่เหลืออยู่ก็ถูกส่งให้มาที่ตำหนักเย็นได้พอดี
หยินซวางตรวจสอบรายชื่อของเหล่านางข้าหลวงและขันทีเสร็จเรียบร้อย คนของกองพระราชฐานชั้นในก็จากไป
หยินซวางได้ทำการลงทะเบียนรายชื่ออย่างง่าย ๆ อีกทั้งอธิบายเรื่องต่าง ๆ พอสังเขปจนเสร็จก็ให้พวกเขากลับไป แล้วค่อยให้กลับมาใหม่ในพรุ่งนี้เช้า
เหล่านางข้าหลวงและขันทีที่มานั้นล้วนรับค่าแรงจากภายในวังทั้งหมดและยังมีที่พักเป็นหลักแหล่งที่เดียวกัน จึงไม่ต้องให้พวกนางมาจัดการเรื่องที่พักให้
ตอนที่พวกเขากำลังจะจากไป ลู่ยุ๋นหลัวก็ให้หยินซวางเอาหมั่นโถวหนึ่งลูกและซาลาเปาสองลูกแจกจ่ายให้กับพวกเขา เหล่านางข้าหลวงและขันทีไม่คิดมาก่อนว่าวันแรกที่มาถึงทั้งทั้งที่ยังไม่ได้ทำงานอะไรเลย ก็ได้ทานอาหารที่คนพูดกันว่าทำมาจากธัญพืชที่มีกำลังปลูกผลิต 10 ชึต่อหมู่
บางคนพอกัดเข้าไปหนึ่งคำจนเห็นเนื้อด้านในก็ยิ่งประทับใจเข้าไปใหญ่
ต้องทราบอย่างก่อนว่าพวกเขานั้นไม่ได้เป็นขันทีหรือนางข้าหลวงข้างพระวรกายของพระบรมวงศานุวงศ์ ดังนั้นอาหารของพวกเขาจึงมักเป็นอาหารแบบเดียวกัน โดยถ้าหากไปสายขึ้นมาในมื้อนั้นก็ต้องอดทนหิ้วท้องหิว
ซึ่งอาหารปกติแล้วก็ไม่ค่อยจะมีเนื้อเท่าไหร่นัก โดยพื้นฐานก็ทานไม่ค่อยอิ่มเท่าไหร่ด้วย
พริบตานั้นพวกเขาจึงตัดสินใจที่จะต้องตั้งใจทำงานในตำหนักเย็นให้ดี
เป็นเพราะไม่มีเกวียนวัว จึงได้แต่ให้คนขนไปทีละมัดทีละมัดไปตากที่ลานตากชั่วคราว โดยลานตากตรงนั้นได้ปูผ้าหนาหนาไว้อยู่ก่อนแล้ว
ผ้าพวกนี้คือผ้าที่สำนักพระราชวังส่งมาให้ไม่กี่ผืน ลวดลายสีสันไม่เลวเลยทีเดียว น่าเสียดายไม่ทันได้ใช้ก็เอาไปทำเป็นผ้าปูรองสำหรับข้าวสาลีแล้ว
ภายในบริเวณตำหนักเย็นนอกจากห้องนอนแล้ว พื้นที่ส่วนใหญ่ก็เป็นที่ดินเปล่าทั้งหมด หากไม่เอามาปูเอาไว้ ข้าวสาลีพวกนี้ก็จะแห้งยาก
ขั้นตอนต่อไปก็คือการนวดข้าวและกวาดข้าว
ลู่ยุ๋นหลัวเมื่อเห็นว่าไม่มีปัญหาอะไรแล้วก็กลับห้องนอนไป
แผนกเกษตรที่ธรรมดาของนางก็ถูกจัดตั้งขึ้นมาแล้ว
ส่วนถัดมานางต้องวางแผนจัดการให้ดีเพื่อให้พื้นที่รกร้างกว่า 300 หมู่เกิดประโยชน์สูงสุด
อ้างอิงจากกำลังปลูกผลิตของพื้นที่สองหมู่นั้นได้ประมาน 1,000 กิโลกรัม เท่ากับพื้นที่หนึ่งหมู่ต้องการเมล็ดพันธุ์ประมาน10 กิโลกรัม เมื่อคำนวณออกมาก็ต้องปลูกบนพื้นที่เพียงแค่ 100 หมู่เท่านั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น
รออ่านอยู่นะคะ...
ชอบเรื่องนี้มากนางเอกไม่อยากอยู่ในวัง..มาอัพต่อนะคะรออ่านค่ะ......
รออัพค่าาาา...
รออัพเดทตอนใหม่อยู่นะคะ มาส่องทุกวัน รอทุกวันค่ะ...
อยากให้ท่านอ๋องเฉินเป็นพระเอกจัง ส่วนฮ่องเต้นั่น ก็คู่สนมเหยาเถอะ โปรดปราณกันจนาดนั้น...
ฝ่าบาทผีอะไรเข้าสิงมาอี้กกกก...
555555...
รวยๆๆๆๆๆ...
เอาแล้วววว 55555...
555555...