ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น นิยาย บท 74

พื้นดินที่เหลืออีก 200 หมู่ นางยังสามารถเอาไปปลูกพืชจำพวกข้าวโพดและมันฝรั่งต่าง ๆ ได้ แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงหน้าฤดูสำหรับเพาะปลูกพืชกลุ่มนั้น

นางค้นหาพืชผักผลไม้ไปมาในมิติพิเศษ และได้คัดแยกประเภทพืชผักผลไม้ที่สามารถปลูกได้ในตอนนี้เอาไว้

ภายในช่วงสองวันนี้ลู่ยุ๋นหลัวอยู่แต่ภายในตำหนักเย็นยุ่งกับงานมาโดยตลอด

ส่วนภายนอกตำหนักเย็น เหล่าขันทีและนางข้าหลวงที่ทำงานภาคการเกษตรจนจรดเย็นทุกวัน ขณะกลับไปยังที่พักของพวกเขาก็จะได้ซาลาเปาสองลูกหมั่นโถวหนึ่งลูกกลับไปด้วยตลอด 

บางครั้งก็สามารถเอากลับไปกินยังที่พักของตนเองได้ พวกเขาจึงถูกสายตาอิจฉาไม่รู้กี่คู่จ้องมอง

เพียงแค่เห็นก็รู้รสชาติได้ทันทีว่าต้องอร่อยกว่าโจ๊กถั่วและโจ๊กข้าวอยู่หลายเท่า และยังได้ยินมาว่าง่ายต่อการอิ่มท้อง

ด้วยเหตุนี้จึงเริ่มมีคนควักเงินยอมจ่ายเพื่อซื้อซาลาเปาและหมั่นโถวในมือของพวกเขา

โดยสรุปแล้ว ภายในพระมหาราชวังขณะนี้ที่สามารถได้ทานซาลาเปาและหมั่นโถวนอกเหนือจากองค์จักรพรรดิแล้ว ก็มีเพียงแค่คนที่ทำงานในตำหนักเย็นเท่านั้น และดูเหมือนพระพันปีหลวงก็ยังไม่เคยเสวยเลยแม้เพียงสักครั้งเดียว

ณ เวลานั้นเอง จึงมีเหล่าขันทีและนางข้าหลวงมากมายเริ่มอิจฉาเหล่าคนที่ได้ไปทำงานที่ตำหนักเย็น

ซึ่งตอนนั้นที่สำนักพระราชวังได้ถามว่ามีใครสมัครใจในการไปที่ตำหนักเย็นบ้าง พวกนางล้วนเกลียดงานภาคเกษตรที่ต้องใช้แรงงานจึงไม่มีใครสมัครใจ

แต่พอมาถึงวันนี้ เหล่าคนที่ได้ไปทำงานที่ตำหนักเย็นก็เลิกงานกลับมาเร็วกว่าปกติเกือบทุกวัน อีกทั้งยังได้ทานอาหารที่อร่อยและยังไม่ต้องมาคอยถูกกร่นด่าทุบตี พวกคนที่ตัดสินใจไม่ไปในวันนั้นก็เริ่มเสียดายขึ้นมา

และช่างน่าเสียดายที่ตำหนักเย็นตอนนี้ไม่รับคนเพิ่มอีกแล้ว

พระพันปีหลวงเมื่อได้ทรงทราบว่าภายในพระราชวังมีพระกายหารจานใหม่ พระพันปีก็ได้แต่ทรงคุ้ยจิ้มพระกายาหารตรงหน้าไปมาที่มีจำพวก ไก่ เป็ด ปลา และเนื้อต่าง ๆ บนโต๊ะอย่างเฉยชา

อีกทั้งอากาศที่ร้อนอบอ้าวเช่นนี้ก็ทรงทำให้พระพันปีไม่ได้ทรงอยากเสวยพระกายาหารพวกเนื้อเท่าไหร่นัก

พระพันปีทรงโบกพระหัตถ์เรียกข้าราชบริพารให้นำพระกายาหารออกไป

ขณะทรงขยับพระวรกายลุกขึ้น แม่นมเหอที่อยู่ข้าง ๆ ก็รีบเข้าไปพยุงพระหัตถ์เพื่อให้พระพันปีสามารถทรงลุกประทับนั่งบนเตียงบรรทมได้

พอพูดขึ้นมาทีไร มิติพิเศษนี้ก็ราวกับมีเวทมนต์ เพราะไม่ว่าจะช่วงเวลาไหนของอุณหภูมิภายในมิติพิเศษนี้ก็จะยังคงสบายราวกับในช่วงฤดูไม้ผลิ การหลบเข้าไปในมิติพิเศษในช่วงฤดูร้อนจึงเหมาะสมดีที่สุด

ทันใดนั้นที่บานประตูด้านหน้าตำหนักก็มีเสียงเคลื่อนไหวราวกับมีคนมา

เพราะนางอยู่ห่างจากประตูค่อนข้างไกลจึงฟังไม่ค่อยชัดว่าพูดอะไรกันอยู่

ผ่านไปไม่นานนัก แม่นมโจวก็เดินมาพร้อมกล่าว “นายหญิงเพคะ แม่นมเหอแห่งวังหนิงซินมาเยือนเพคะ กล่าวว่าพระพันปีหลวงต้องการให้ท่านไปเข้าเฝ้า”

พระพันปีหลวง ?

ลู่ยุ๋นหลัวลุกขึ้นนั่ง

ในความทรงจำของเจ้าของร่างเดิมนั้นแถบจะไม่มีเรื่องราวใดที่เกี่ยวข้องกับพระพันปีหลวงเลย

แม่นมโจวสั่งให้หยินซวางตักน้ำเข้ามาหนึ่งถัง จากนั้นก็เริ่มแต่งตัวให้กับลู่ยุ๋นหลัวและพูดคุยไปด้วย “อ้างตามสิ่งที่บ่าวรู้นั้น พระพันปีหลวงเป็นพระขนิษฐาของพระมารดาแท้ ๆ ขององค์จักรพรรดิ ขณะที่องค์จักรพรรดิพระชนมายุได้เพียง 6 พรรษา พระมารดาขององค์จักรพรรดิได้สวรรคตไปด้วยโรคร้าย หลังจากนั้นองค์จักรพรรดิก็ทรงได้รับการเลี้ยงดูภายในวังของพระพันปีหลวงตลอดมา องค์จักรพรรดิเองจึงทรงรักและเทิดทูนเคารพพระพันปีหลวงมาโดยตลอด”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น