คลั่งรักร้ายนายวิศวะ นิยาย บท 64

ด้านริวหลังจากที่เจนิสวิ่งออกไปจากโรงแรมแล้วนั้น

!! โธ่ โว้ย...!! ร่างสูงถึงกับสบถออกมาอย่างหัวเสียสุดๆ ทั้งเฟียส แป้ง และดลดนัยถึงกับเสมองใบหน้าของริวไปตามๆ กัน

ด้านริกหลังจากที่ตามหลังริวมา เห็นร่างบางอันคุ้นตาของเจนิสที่วิ่งร้องไห้ผ่านหน้าตนออกไปโบกแท็กซี่นั่น จะเอ่ยเรียกเจนิสก็ไม่ทันเสียแล้ว ริกเดินเข้าไปหาริวด้วยสีหน้าอันตกใจ

"เกิด อะไรขึ้น ทำไมน้องเจนิส ถึงได้วิ่งร้องไห้ออกไปแบบนั่น" ริกถามน้องชายเพราะดูจากสีหน้า ริวตอนนี้คงต้องมีเรื่องอะไรกันแน่ๆ ริกเหลือบมองคนที่อยู่ในเหตุการณ์ก็เจอกับ แป้ง เฟียส และมีชายแปลกหน้าอีกคนที่ยืนอยู่ตรงนี้ด้วย

"ฝากนายไปส่งเฟียสให้ฉันที" ริวเอ่ยกับริกจบ จากนั้นก็เดินตุ่มๆ ไปยังลานจอดรถทันที เขาเพียงแค่อยากอยู่คนเดียวซักพักไม่ต้องการให้ใครนั่นมา รบกวน เพื่อจะได้คิดและทบทวนเรื่องของเขาและ เจนิสนั้นเอง

ด้านดลดนัย จะตามเจนิสไปก็ไม่ทันเสียแล้ว มือเรียวของดลดนัย หยิบช่อกุหลาบของตนที่หล่นอยู่บนพื้นขึ้นมามองตาระห้อย ไม่ว่าเขาจะพยายามแค่ไหน แต่เจนิสเองมีคนในใจของเธออยู่แล้ว

ดลดนัยสำหรับเจนิสเธอเป็นผู้หญิงที่สวยสำหรับเขามากที่สุดสวยทั้งใบหน้าและจิตใจ ครั้งแรกที่เจอก็ตกลงหลุมรักอย่างถอนตัวไม่ขึ้น ดลดนัยหอบช่อดอกไม้ของตนเดินผ่านหน้าแป้ง ริกและเฟียสออกไป ทั้งสามคนได้แต่มองตาม

ด้านเฟียสขณะที่อยู่ในรถของริกนั้น

"ริก เรื่องพี่เกิดขึ้นเราไม่รู้จริงๆ นะว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นอะไรกับริว เรารู้สึกผิดมาก เราไม่ได้ตั้งใจให้พวกเขาทะเลาะกัน" เฟียสเอ่ยกับริกขณะที่นั่งอยู่ในรถ เพราะเธอเข้าใจว่าเป็นต้นเหตุทำให้ริวและเจนิส นั้นทะเลาะกัน

"เฟียสอย่าคิดมากเลย เรื่องนี้ปล่อยให้ไอ้ริวมันจัดการของมันเอง เราเป็นพี่ชายมันเรายังไม่รู้เลยว่ามันคิดอะไรอยู่ เราเองก็ไม่รู้ว่าไอ้ริวมันจะบังเอิญเจอกับเจนิสที่นี่ได้ยังไง" ริกเองก็ได้แต่เอ่ยกับเพื่อนไปเช่นนั้น เพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัวของน้องชาย ริกเองก็ไม่อยากจะเข้าไปยุ่งมาก แต่พักๆ หลังๆ ก็ยอมรับว่าริวนั้นติดเจนิสมาก แต่ก็สงสัยว่าแป้งนั้นอยู่ที่นี่ด้วย เรื่องที่เกิดขึ้นนี้ริกเองก็สงสัย เพราะแป้งกับริวเองต่างก็รู้จักกันและยังเคยมีข่าวฉาวในมหาลัยด้วนด้วยกัน ริกถึงกับคิดไม่ตกเรื่องเป็นมายังไง

"เราพร้อมจะไปขอโทษผู้หญิงคนนั้นนะ และอยากอธิบายให้เธอเข้าใจ ว่าเรากับริวเป็นแค่เพื่อนกันจริงๆ " เฟียสเอ่ยกับริกมาด้วยสีหน้ารู้สึกผิด

ที่วันนี้เธอวานให้สองหนุ่มเพื่อนสนิทมาชวนคุยงานกับลูกค้า แต่ก็ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น แต่สายตาของเจนิสที่มองเฟียสและริวมาก่อนหน้า เจนิส นั้นเสียใจสุดๆ เธอเป็นผู้หญิงด้วยกันเธอดูออก

"หรือเฟียส จะไปคุยกับเจนิสดี" เฟียสยังคงขอความเห็นจากริก

"เราว่า เรื่องนี้ไอ้ริวคงแก้ปัญหาได้ ขอบคุณเฟียสแทนไอ้ริวมันด้วยนะ"

"เฟียสสิริกที่ต้องขอบคุณ ริกและริว อุส่าห์ช่วยเฟียส "

"ไม่เป็นไร เพื่อนกันท" ริกเอ่ยกับเฟียสมา จนกระทั้งส่งหญิงสาวถึงคอนโด

ด้านเจนิสหลังจากที่ร่างบางออกมาจากโรงแรมมานั้นเจนิสก็โบกแท็กซี่

"ไปสวน S คะ" ฉันรู้แค่ว่าตอนนี้ฉันไม่อยากกลับคอนโด ฉันเพียงแค่อยากอยู่คนเดียวเงียบๆ เพียงลำพัง ทุกครั้งเวลาที่ฉันรู้สึกไม่สบายใจ ฉันมักจะมานั่งเล่นที่สวนในเวลาเย็นๆ ค่ำๆ เพราะสวนตรงนี้กลางคืนจะมีเรือแสงไฟสวยๆ ที่วิ่ง ในแม่น้ำเจ้าพระยา ให้ฉันได้มองเวลาที่ฉันรู้สึกเศร้า หรือเวลาที่ฉันไม่มีที่ไป

กับพี่ริวฉันยอมรับว่าฉันเอง ก็รักเขา แต่ฉันเองก็เสียใจมากเช่นกัน ขณะที่เมื่อคืนเขาเป็นคนบอกรักฉันและวันนี้เขากับไปกับผู้หญิงอีกคน นี้เหรอสิ่งที่เขาบอกให้ฉันดูการกระทำของเขา ฉันมันโง่เองที่ห้ามใจตัวเองไม่ได้ ฉันหลงรักคนใจร้ายและคนโลเลอย่างพี่ริวยากที่จะถอนตัว ฉันรู้มาตลอดว่าเขาทั้งฮอตและดังมาก ฉันหวังเพียงแค่ซักวันให้เขาหยุดที่ฉัน แต่สิ่งที่ฉันคิดมันคงมากเกินไป หึ...! ฉันเป็นใครเขาถึงจะหยุดที่ฉัน พี่ริวเขาไม่เคยหยุดที่ใคร ฉันคงเป็นได้เพียงแค่เด็กเลี้ยง หรือของเล่นไฮโซอย่างที่พี่แป้งพูดสินะ มันน่าตลกสิ้นดี

ยิ่งคิดฉันยิ่งรู้สึกเจ็บมาก การที่ฉันรักใครซักคนฉันให้เขาได้ทั้งหัวใจ สายตาดวงเล็กตับจ้องไปยังแม่น้ำเจ้าพระยาในเวลากลางคืน มันยิ่งทำให้ฉันรู้สึกเหงา ฉันปล่อยให้ตัวเองนั่งร้องไห้เงียบๆ อยู่เช่นนั้นนานนับชั่วโมง ทั้งที่ปากฉันบอกว่าเกลียดไม่ชอบผู้ชายเจ้าชู้มักมากอย่างเขา แต่วันนี้ฉันกับทำตรงกันข้าม รักมากจนไม่สามารถเผื่อใจให้ใครได้อีก ฉันนั่งมองท้องฟ้าแม่น้ำและมีเรือที่วิ่งผ่านไปลำแล้วลำเล่า จนกระทั้งเวลาล่วงเลยไปดึก เมื่อเห็นว่าบริเวณที่ฉันนั่งอยู่นั้นไม่มีผู้คน ฉันจึงเรียกแท็กซี่กลับคอนโด พอมาถึงคอนโดทั้งที่เป็นเวลาเที่ยงคืนกว่าๆ แต่ฉันกับไม่สามารถข่มตาให้หลับลงได้ เลยซักนิด

 

@ S K Y Club

อีกด้านของริวตั้งแต่มาถึง ฝ่ามือหนาหยิบแก้วบรั่นดียกขึ้นมากระดกไม่มีท่าทีจะหยุด ริวรู้สึกทั้งเจ็บและเสียใจที่ตนนั้นเผลอปากพูดรุนแรงกับเจ นิสไปเช่นนั้น

สิ่งที่เขาพูดออกไปล้วนแล้วไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น กับเป็นเขาเสียเองที่มานั่งเจ็บอยู่เช่นนี้ เสียงเพลงเศร้าๆ ที่แว่วเข้ามาในหูมันยิ่งทำให้เขารู้สึกผิด และเจ็บหน่วงภายในใจ

ร่างสูงสาดบรั่นดีลงลงคอราวกับน้ำเปล่า โดยมีสาวสวยที่นั่งรินและดูแลไม่ห่าง ซึ่งเป็นเด็กที่พี่เคนตะ พี่ชายของไอ้เรียวนั้นจ้างมาดูแลโต๊ะของพวกผม ริวที่มานั่งที่คลับได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง แต่กับเมานำหน้าอรัณและเรียวตะไปเสียแล้ว เรียวตะที่เห็นท่าทีของริว

"เดินทางปลอดภัยนะลูก"

"เดินทางปลอดภัยนะเจนิส" แป้ง เอ่ยกับน้องสาวต่างสายเลือด วันนี้เขารู้สึกมีความสุขอย่างบอกไม่ถูกที่ยัยเจนิสนั้นไปได้ก็ดี ฉันจะได้กอบโกยทุกอย่างของแกมาเป็นของฉันกับแม่ให้หมด

"คะพี่แป้ง คุณป้า เจไปนะคะ" เจนิสเอ่ยที่ยิ้มให้กับทุกคนที่มาส่งเธอ

จากนั้นก็ไม่ลืมที่จะไปสวมกอดทั้งสาวสามเพื่อนสนิท

"เดินทางปลอดภัยนะแก โชคดี และอย่าลืมคิดถึวพวกฉันด้วยละ" เฟย์เอ่ยมา พร้อมกับยกยิ้มให้กับเพื่อน

"อย่าลืมคลอมาหาพวกฉันละ ฉันคงคิดถึงแกมากๆ แน่เลยยัยเจ ของฉัน" ยัยแซมมี่เอ่ยมาจากนั้น ก็มีอาจารย์วนิศรา เดินเข้ามาเรียกฉัน

"บายๆ นะแก แล้วเจอกัน" ร่างบางเดินเข้าไปในเกทพร้อมกับโบกมือให้กับทุกคน

พอเครื่องบิน เริ่มบินสู่ท้องฟ้า ฉันรู้สึกใจหายอย่างบอกไม่ถูก อยู่ๆ ฉันกับคิดถึงใบหน้าของใคร บางคนขึ้นมา ฉันอยากจะร้องไห้ออกมา แต่ติดที่ว่า ตรงนี้มีอาจารย์ และเพื่อนๆ คนอื่นๆ ที่นั่งอยู่ด้วย พี่ริวฉันขอทิ้งทุกๆ ความรักของเราไว้ที่นี่ และฉันขอไปเริ่มอนาคตใหม่

มือเรียวหยิบสมาร์ตโฟนขึ้นมากดถ่ายภาพบนท้องฟ้าที่ติดปีกเครื่องบิน จากนั้นก็อัพลงสตอรี่ ไอจีส่วนตัวของตนทันที

" Goodbye my love"

 

 

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คลั่งรักร้ายนายวิศวะ