@Thailand
ด้านเจนิสร่างบางของคุณแม่ลูกหนึ่งในวัย ยี่สิบต้นๆ ใชชุดกางเกงยีนและเสื้อสูททรงยาวพอดีตัวใบหน้าสวยสวมแว่นกันแดดสีชาที่ยืนกดกริ่งที่หน้าบ้านราคายี่สิบล้าน พร้อมกับมีเด็กชายน่าตาน่ารักที่ยืนเคียงข้างคุณแม่
"น้องฟรอสต์ครับ ถึงบ้านคุณตาแล้วนะครับลูก ต่อไปนี้ น้องฟรอสต์เราจะอยู่ที่นี่กันนะครับคนเก่ง" เด็กชายฟรอสต์ได้แต่พยักหน้าให้กับเจนิส จากนั้นไม่นานก็มีแม่บ้านนั้นมาเปิดประตู ป้าพิมพ์แม่บ้านวันห้าสิบปลายๆ ถึงกับงงงวยกับร่างบางแต่งตัวดูสวยราวกับนางแบบที่ยืนอยู่ตรงหน้า พร้อมกับเสมองเด็กชายตัวน้อยด้วยท่าทีสงสัย
"ป้าพิมพ์คะ" เจนิสเอ่ยพร้อมกับถอดแว่นที่บดบังเผยให้เห็นใบหน้าของเธอได้อย่างชัดเจน
"ต๊าย...คุณเจนิส คุณเจ จริงๆ ด้วย ป้าคิดถึงคุณหนูมากๆ เลยนะคะ" ป้าพิมพ์แม่บ้านที่เห็นเจนิสถึงกับตกใจ
"เจ ก็คิดถึงป้าพิมพ์นะคะ" เจนิสเอ่ยพร้อมกับสวมกอดแม่บ้านของบิดา
"มาคะ ป้าชวย ยกกระเป๋าเข้าบ้านกันนะคะ" ด้านเจนิสไม่ได้ปล่อยให้ป้าพิมพ์นั้นสงสัยในตัวลูกชายนาย
"น้องฟรอสต์ครับ นี่คุณยายพิมพ์ เราจะอยู่ที่นี่กับคุณยายนะคะลูก" จากนั้นน้องฟรอสต์ก็ยกมือสวัสดีป้าพิมพ์อย่างรู้งาน
"น้องฟรอสต์ลูกชายของเจ เองคะ" ป้าพิมพ์ชะงักและตกใจเล็กน้อย แต่นั้นก็ไม่ได้เอ่ยถามอะไรกับเจ้านาย
ร่างบางเดินจูงมือลูกชายเข้ามาในบ้านหลังใหญ่ที่เงียบสงบ มีเพียงป้าพิมพ์ พี่น้ำฝน และก็คนขับรถของคุณพ่อเท่านั้นที่อยู่กันที่นี่
"คุณลัดดา และคุณแป้ง ทะเลาะกับคุณผู้ชาย ขนข้าวของ ออกไปจากบ้านตั้งแต่วันที่คุณผู้ชายช็อคเข้าโรงพยาบาลแล้วละคะ ส่วนคุณผู้ชายตอนนี้ก็ยังไม่ฟื้น แต่คุณหมอบอกว่าคุณท่านอาการพ้นขีดอันตรายแล้วคะ" ป้าพิมพ์เอ่ยกับเจนิสมา
"ป้า ดีใจมากนะคะที่คุณเจ กลับมา ถ้าคุณเจไม่มา คุณผู้ชายคงไม่เหลือใครแล้วนะคะ"
"เจ ขอบคุณป้าพิมพ์มากเลยนะคะ ถึงเราจะไม่เหลืออะไร ป้าพิมพ์ยังเลือกที่จะอยู่ดูแลบ้านให้คุณพ่อ" เจนิสเอ่ยด้วยน้ำเสียงเศร้าลงอย่างเห็นได้ชัด
"แล้วคุณเจจะเอายังไงต่อคะ"
"พรุ่งนี้เจจะเข้าไปเยี่ยมคุณพ่อ และเจจะคุยกับคุณอาศักดิ์คะ"
"คุณเจ และคุณหนูฟรอสต์พึ่งมาถึงเหนื่อยๆ ป้าว่าไปพักก่อนดีกว่านะคะ ห้องนอนคุณเจ ป้าทำความสะอาดไว้เป็นประจำคะ บ้านหลังใหญ่เงียบๆ มีเด็กมีวิ่งเล่นจะได้ไม่เหงา ป้าขอตัวเตียมอาหารให้คุณเจ กับคุณหนูก่อนนะคะ"
"ขอบคุณคะ" เจนิสเอ่ยจบจากนั้นร่างบางก็พาน้องฟรอสต์นั้น ไปยังห้องนอนของตน
มือเรียวเปิดประตูเข้ามาในห้องนอนของตน ข้าวของทุกอย่างยังคงอยู่ครบเช่นเดิม
"น้องฟรอสต์มาเหนื่อยๆ เราต้องอาบน้ำก่อนละครับ คนเก่ง"
"โอเค ครับม่ามี้" ถึงเราจะเดินทางมาหลายชั่วโมง แต่ลูกชายฉันกับรู้สึกตื่นเต้น หลับแค่ตอนอยู่บนเครื่อง พอถึงสนามบินไม่งอแงและรู้สึกสนุกอีกต่างหาก ครั้งแรกที่เขาได้ขึ้นเครื่องฟรอสต์ดูแอ๊ปปี้เอามักมาก เห็นแบบนี้ฉันเองถึงกับหายเหนื่อยไปด้วย จากนั้นลูกชายของฉันก็ถอดชุดและวิ่งเข้าไปในห้องน้ำทันที
จนกระทั้งทานข้าวเสร็จ พร้อมที่จะเข้านอน แต่จู่ๆ สายตาฉันก็สะดุดเข้ากับตุ๊กตาที่วางอยู่บนชั้น
"ม่ามี้ครับ น้องฟรอสต์จะเอา " เด็กน้อยที่พูดยังไม่ถึงกับชัดมาก นั้นเอ่ยออกมา มันเป็นตุ๊กตาสองตัวที่พี่ริวนั้นป่าลูกโป่งให้กับฉันในงานวัดคืนนั้นคืนแรกที่เราเดทกัน จู่ๆ เมื่อลูกอยากได้ฉันก็หยิบให้กับเขาทันที
" กอด กอดน้องครับ ม่ามี้" เสียงของน้อยฟรอสต์เอ่ยพร้อมกับนอนกอดตุ๊กตาของพี่ริว จู่ๆ ฉันกับนึกถึงเรื่องในอดีตของฉันและเขา ใบหน้าอันหล่อเหลาที่เรานอนด้วยกัน ไม่ว่าจะผ่านไปนานหลายปี ฉันไม่คิดจะมีใครเหราะแค่เห็นหน้าลูก ใจฉันก็อดคิดถึงหน้าพ่อของเขาไม่ดี ปานนี้เขาคงแต่งงานมีลูกเต็มบ้านแล้วมั้ง คงมีแค่ฉันสินะที่ยังลืมเขาไม่ได้ หึ...
อีกด้านของริว ร่างสูงที่พามารดาคุณหญิงนั้นมารับยาที่จู่ๆ ท่านก็รู้สึกเวียนหัว เขาเลยให้มารดานั้นมานอนรับน้ำเกลือรักษาตัวไปหนึ่งคืน แค่หนึ่งคืนมารดาก็จ้องแต่จะออกจากโรงพยาบาลอยู่ท่าเดียว ถึงกับต้องยอม
"คุณแม่นั่งรอผมตรงนี้ซักครู่นะครับ ผมขอตัวเข้าห้องน้ำก่อนนะครับ" ริวเอ่ยกับมารดา
"ได้สิลูก" คุณหญิงปรางทิพย์เอ่ยจบ จากนั้น ร่างสูงก็เดินไปยังห้องน้ำทันที แต่ขณะที่เดินไปนั้น
"ม่ามี้ครับ น้องฟรอสต์อยากทานไอศครีมจังเลยครับ" น้องฟรอสต์ที่เริ่มงอแงเพราะอยากจะหยุดซื้อไอศครีมที่ร้านแห่งหนึ่งในโรงพยาบาล
"แต่น้องฟรอสต์พึ่งทานไปเองนะครับ นี้ยังไม่ถึงสิบนาทีเลย จะทานอีกแล้วเหรอคะ" เสียงหวานนิ่งปนดุ เอ่ยออกมา จะทานวันละสองสามแท่งแบบนี้มีหวังลูกฉันไม่สบายกันพอดี
"แต่น้องฟรอสต์ หิว...มากเลยครับม่ามี้" น้อง ฟรอสต์ที่เริมจะไม่ฟังเจนิส แต่ยังคงยืนที่ร้านไอศครีม ด้านเจนิสที่เห็นว่าลูกชายเริ่มจะงอแงพูดไม่รู้เรื่อง ที่ก็ยอมใจอ่อนซื้อให้ไอศครีมให้ทานอยู่ดี
"เย้...ม่ามี้ฉวย น้องฟรอสต์ ฉวยๆ" น้องฟรอสต์ไม่พูดเปล่าพร้อมกระโดดด้วยท่าทีดีใจ
ด้านเจนิส
"อาศักดิ์คะ เจขอฝากน้องฟรอสต์ที นะคะ ขอคุยเรื่องค่าใช้จ่ายของคุณพ่อสักครู่นะคะ" เจนิสเอ่ยกับทนงค์ศักดิ์ เสร็จจากนั้นก็เดินตามนายแพทย์ของบิดาทันที
ด้านริวหลังจากที่เดินออกจากห้องน้ำมาแล้วนั้น ขณะที่เดินกลับไปหามารดา สายตากับสะดุดเข้ากับสาวสวย ร่างบางอันคุ้นตา ในชุดเสื้อสูทและกางเกงสีเข้ม ผมสีบลอนด์แดงถูกดัดเป็นลอน ถูกสวมทับแว่นตากันแดดสีชา สวมรองเท้าส้นสูงประมาณห้านิ้ว มาดนักธุรกิจสาวสวย ที่เดินตามหลังนายแพทย์เข้าไปในห้อง ริวที่เห็นใบหน้าของเจนิส กับแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง
" เจนิส งั้นเหรอ" เสียงทุ่มเอ่ยออกมา ด้วยท่าทีชะงัก ผู้หญิงคนนั้นคือเจนิสงั้นเหรอ ถึงการแต่งตัวเธอจะแตกต่างไปจากเมื่อก่อน แต่ยังไงเขาก็จำเธอได้ ไม่ผิดคนแน่นอน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คลั่งรักร้ายนายวิศวะ
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ...