ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง นิยาย บท 703

เธอเองก็ไม่รู้จะทำอย่างไร บาร์บี้กัดริมฝีปากของเธอและทำได้เพียงสตาร์ทรถแล้วขับไปยังโรงแรม

ไม่รู้ว่าท่านประธานพักอยู่ที่ไหน แต่บ้านของเธอก็เล็กเกินไปดังนั้นจึงต้องไปส่งเขาที่โรงแรมแทน

บาร์บี้ยังพอมีเงินติดตัวอยู่ 5-600 บาท เดิมทีเธอก็อยากพาไปที่โรงแรม แต่ตัวตนของท่านประธานนั้นช่างมีเกียรติและสูงส่ง เธอจึงคิดว่าไม่เหมาะสมเท่าไหร่นัก

เธอครุ่นคิดอยู่สักพัก และคิดว่าโรงแรมฮิลตันเป็นตัวเลือกที่ไม่เลวเลย

โรงแรมระดับห้าดาว เงิน600บาทก็คงพอที่จะเปิดห้องสแตนดาร์ดสักห้อง……

เมื่อมาถึงโรงแรมฮิลตัน เธอก็ช่วยพยุง ดนัยที่กำลังเมามายนั้นเดินเข้าไปในโรงแรม

หลังจากจัดการขั้นตอนการเข้าพักเรียบร้อย เธอก็ช่วยพยุงเขาเข้าไปในลิฟต์อย่างทุลักทุเล

ทันทีที่ประตูลิฟต์ปิดลง ลิฟต์ฝั่งตรงข้ามก็เปิดออก เป็นนาโนที่เดินออกมา ทั้งสามคนเดินสวนกันไป……

การเดินสวนกันไปของทั้งสามคนใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้น……

นาโนไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยในช่วงบ่าย ตอนนี้เธอหิวนิดหน่อยและอยากทานอาหารรสเปรี้ยวมากเป็นพิเศษ

ด้านนอกโรงแรมมีNight market ตั้งอยู่ กลิ่นหอมของก๋วยเตี๋ยวต้มยำล่องลอยอยู่ในอากาศ ทั้งหอมหวนและเผ็ดชา ในความเปรี้ยวนั้นก็แอบซ่อนความเผ็ดเอาไว้ กลิ่นหอมดึงดูดใจเป็นอย่างมาก

เธอทรุดตัวลงนั่งและสั่งก๋วยเตี๋ยวต้มยำมา 1 ชาม

สีเขียวของผักชีที่ดูนุ่มนวลลอยอยู่บนน้ำซุป บวกด้วยสีแดงสดของพริกชี้ฟ้า ทำให้รู้สึกอยากรับประทานตั้งแต่แรกเห็น

นาโนนั่งอยู่ที่Night market กลางแจ้ง ก๋วยเตี๋ยวต้มยำถูกเธอรับประทานอย่างรวดเร็วจนเห็นก้นถ้วย

กว่าเธอจะกลับถึงห้องก็เป็นเวลาสามทุ่มแล้ว

แม้จะนอนอยู่บนเตียงแต่เธอก็ไม่มีความรู้สึกง่วงเลยสักนิด พลิกตัวไปมาก็นานแต่ดวงตาก็ไม่มีเค้าลางของความง่วงอยู่เลย

ดังนั้นนาโนจึงชันกายขึ้น ผ้านวมยังคลุมตัวด้านบนอยู่ เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาดนัยและรอสาย

ดนัยยังไม่ตื่น เขายังคงเมามายอยู่ในภวังค์ของสุราและนอนหลับสนิทอยู่บนเตียง

บาร์บี้ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เธอหันไปมองและเห็นว่าชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอคือภรรยา

จากนั้นภาพของหญิงสาวที่งดงามและมีเสน่ห์ก็ปรากฏขึ้นในหัวสมองของเธอ

บาร์บี้ชักมือกลับราวกับแตะต้องโดนของร้อน เธอครุ่นคิดและตัดสินใจไม่รับโทรศัพท์ โทรศัพท์สายนี้ไม่เหมาะสมที่จะให้เธอเป็นคนรับ

โทรไปสามครั้ง แต่เสียงที่ดังขึ้นก็ยังคงเป็นเสียงสายไม่ว่างและไม่มีคนรับสาย

หน้าอกของนาโนขยับขึ้นลงอย่างรวดเร็วด้วยแรงอารมณ์

เขาก็ยังไม่รับสายของเธอเสมอมา!

ไม่ยอมบอกเธอว่าค่ำคืนนี้ไปพักที่ไหน แล้วยังไม่รับสายเธออีก นี่นับว่าเป็นอะไรกัน?

เธอโกรธและขุ่นเคืองใจเป็นอย่างมาก เหมือนดั่งไฟแห่งความโกรธเคืองกำลังแผดเผาอยู่ภายในใจ แต่เธอจะทำอย่างไรได้?

ค่ำคืนนี้เป็นคืนที่ยากจะข่มตาหลับ กว่าเธอจะหลับก็เลยเที่ยงคืนไปแล้ว

เช้าตรู่ของวันที่สอง

ดนัยตื่นขึ้นมาและมีอาการปวดหัวตุ๊บๆเป็นระลอกจากอาการเมาค้าง

เขาลุกขึ้นนั่งใช้นิ้วเรียวยาวที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นนั้นนวดขมับ เขากวาดสายตามองไปรอบๆและพบว่าเขาอยู่ที่คือโรงแรม

สำหรับความทรงจำเมื่อคืนก่อนนั้น ไม่มีสิ่งใดหลงเหลืออยู่ในสมองเขาเลย เขาจำอะไรไม่ได้เลยแม้สักอย่าง

ทันใดนั้นก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น เขาหันหลังกลับไปมอง

คนที่เดินมาคือบาร์บี้ ในมือของเธอประคองถ้วยอยู่ "ท่านประธานคะ ฉันต้มน้ำแกงสร่างเมาเอาไว้ให้ค่ะ ท่านดื่มเสียหน่อยจะได้ช่วยลดอาการปวดหัวที่เป็นอยู่ได้"

ดวงตาของดนัยหรี่เล็กลง เขาไม่พูดอะไรและทำเพียงแค่จ้องไปที่เธอเงียบๆ

บาร์บี้รู้สึกทำตัวไม่ถูกอยู่บ้าง เธอรีบเอ่ยปากอธิบายให้เขาฟังว่า "เมื่อคืนท่านประธานเมาหนักมากเลยค่ะ ฉันอยากจะไปส่งท่านแต่ก็ไม่รู้ที่อยู่ จึงทำได้เพียงพาท่านมาพักที่นี่แทน"

เขาตอบรับเบาๆ ดนัยรับน้ำแกงสร่างเมานั้นมาและยกดื่มจนหมด

บาร์บี้ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เธอรีบจัดเตรียมอาหารเช้าที่เธอได้เตรียมมา ซึ่งเป็นของว่างรสชาติถูกปากและยังมีโจ๊กแปดเซียนที่ได้ตระเตรียมไว้อย่างดี

ดนัยหิวมากจริงๆ เขาลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำก่อนจะล้างหน้าล้างตาง่ายๆ

และจึงทรุดกายลงนั่งหน้าโต๊ะอาหาร สายตาของเขาสาดส่องไปยังบาร์บี้ที่ยืนอยู่อีกด้านก่อนจะพยักหน้าลงเล็กน้อย "นั่งเถอะ"

เธอดูตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก เธอส่ายหัวและยืนนิ่งไม่ไหวติง

เธอยิ้มออกมาอย่างขัดเขินก่อนจะส่งเสียงตอบรับ

พนักงานโรงแรมขับรถเข้ามาส่งให้เรียบร้อย เขาส่งสัญญาณมือให้เธอขึ้นรถ ก่อนจะนั่งลงบนที่นั่งคนขับและขับรถออกไป

แต่ในความมืดมิดนั้นก็ปรากฏแสงไฟวาววาบราวกับกำลังจับภาพอะไรบางอย่างไว้……

นาโนไปทานอาหารตะวันตกที่ร้านอาหาร ดื่มน้ำเต้าหู้แล้วรีบไปยังร้านอาหารโดยไม่หยุดพักเพื่อเริ่มต้นงานในวันใหม่ของเธอ

อันที่จริงงานบดวัตถุดิบของบริษัทนั้นเป็นงานที่หนักและเหนื่อยมาก โดยเฉพาะหลังจากมีสาขาเพิ่มเข้ามา

เธอมักจะรู้สึกปวดต้นแขนในเวลากลางคืนและยังรู้สึกว่าขาชาเป็นตะคริวได้ง่าย จนเธออยากจะตัดขาของเธอลงไปจริงๆ

อย่างไรก็ตามงานร้านอาหารไม่เหมือนกับงานของบริษัท มีคนสามารถช่วยเธอทำงานของบริษัทแต่ร้านอาหารนั้นไม่เหมือนกัน

อันดับแรกคือการเตรียมวัตถุดิบที่ต้องเป็นความลับสุดยอด นอกจากตัวของเธอเองก็ไม่สามารถไม่คนอื่นเข้ามามีส่วนร่วมได้ ดังนั้นเธอจึงต้องทำด้วยตัวเอง

เมื่อทำงานของทั้งวันเสร็จเรียบร้อย นาโนยังต้องจัดการเคลียร์บัญชีและต้องเช็กความสดใหม่ของอาหาร วัตถุดิบของบริษัทสาขาก็เป็นเธออีกที่ขับรถไปส่ง

เธอบีบนวดน่องที่เป็นตะคริวและฟุบลงกับเคาน์เตอร์

ผู้จัดการยังคงอ่านบิลอยู่แต่ไฟข้างนอกนั้นได้ดับลงแล้ว ความมืดมิดของยามตะวันลับค่อยๆคืบคลานเข้ามา วันหนึ่งวันของเธอก็ผ่านไปแบบนี้

จิตใจของนาโนล่องลอย เธอตื่นนอนและรับประทานอาหารเช้าแล้วจึงรีบมาที่ร้านอาหาร หลังจากเตรียมผสมวัตถุดิบเสร็จเรียบร้อยก็ใกล้ถึงช่วงเวลาตะวันตกดินแล้ว หลังจากนั้นเธอก็ต้องเช็กบัญชีอีก กว่าเธอจะได้ปลีกตัวออกจากร้านอาหารก็เป็นเวลาเกือบสี่ทุ่ม

เธอไม่เคยคิดมาก่อนว่าชีวิตของเธอจะเป็นแบบนี้

นิสัยของเธอคือใจกว้าง เปิดเผย เธอชอบทักเทรนด์แฟชั่น สิ่งที่ชอบที่สุดก็เป็นการช้อปปิ้งและไปทานอาหารที่ร้านอาหารหรูหรามีระดับ จากนั้นก็ไปต่อที่ผับ

แต่ตอนนี้……

ขณะที่เธออยู่ในภวังค์แห่งความคิดอยู่นั้น ผู้จัดการก็ผลักแขนเธอเบาๆ

นาโนเพิ่งได้สติกลับมาหลังจากผลักไปหลายครั้ง เธอมองดูด้วยความงุนงง “เกิดอะไรขึ้น?”

ผู้จัดการชี้ไปที่กระเป๋า “โทรศัพท์ดังค่ะ”

หลังจากตั้งใจฟังนาโนก็ได้ยินเสียงของโทรศัพท์ที่ดังขึ้น เธอเปิดกระเป๋าและหยิบโทรศัพท์ออกมา เป็นเชอร์รีนที่โทรมาหาเธอ

เธอทั้งสองเพิ่งพบกันเมื่อวานนี้เอง แถมวันนี้ก็ยังดึกมากแล้ว เธอโทรมาทำไมกันนะ?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง