เขาปฏิบัติต่อเธอ เมื่อก่อนเห็นชัดว่าไม่ใช่แบบนี้
ในใจบาร์บี้คิดฟุ้งซ่านไม่หยุด
ดนัยกลับถึงคฤหาสน์ตระกูลเตชะโสภา นีรดาก็ไล่ตามเขาพร้อมเอ่ยถาม “หุ้นส่วนในเครือเตชะโสภากรุ๊ป หรือว่าถ้าไม่กลับมาแล้วจริงๆ ก็ทำได้แค่เพียงหลีกทางส่งต่อแบบนี้เหรอ?”
“ถึงอย่างไรผมก็ไม่ต้องการอีก ผมอาจจะเป็นผู้ชาย ทำเรื่องแบบนี้ไม่ได้ คังซีเป็นลูกชายของผม ของของผมก็คือของของเขา ไม่ได้มีความแตกต่างอะไรกันมากมาย”
เขามีความคิดและคำพูดแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร ไม่ได้อยากได้หุ้นส่วนอย่างแน่นอน ตอนนี้เรื่องนี้นับว่าตรึงอยู่บนบอร์ดแผ่นเหล็กเรียบร้อยแล้ว
นีรดาเองก็หมดหนทางที่จะควบคุมเขา จึงถอนหายใจยาว
โชคดีที่หุ้นส่วนเหล่านั้นส่งต่อให้คังซีแล้ว ถ้าคนที่รับต่อเป็นนาโนล่ะก็ งั้นเธอก็คงไม่ต้องคิดจะได้นอนอย่างเด็ดขาด
เช้าตรู่ของวันที่สอง
ดนัยก็ยังคงไปโรงแรมตั้งแต่เช้าเหมือนเดิม ราชาที่มาเช้ายิ่งกว่าเขา ตอนนี้กำลังอุ้มคังซีเดินไปรอบๆ
เขาเดินเข้าไป หยิบแก้วน้ำมา พร้อมนั่งลงบนโซฟา
สำหรับดนัยที่มาอย่างไม่ได้รับเชิญ อีกทั้งท่าทางที่ดูเป็นไปอย่างธรรมชาตินั้นทำให้ดูขัดตาเป็นพิเศษ
ไม่ได้ให้ความสนใจกับราชา ดนัยก็ดื่มน้ำสนใจอยู่แต่กับตัวเอง
ราชาเองก็ไม่ยอมวางมือ “ตอนนี้นายยิ่งอิสระขึ้นเรื่อยๆ เลยนะ ไม่สนใจคนอื่นเลยแม้แต่น้อย เพราะว่านายคือคนนอกก็เลยมีพฤติกรรมเหมือนคนนอกเหรอ!”
“จัดการเรื่องของตัวเองให้ดีก่อนเถอะ!” ในที่สุดดนัยก็เอ่ยปากพูด
ได้ยินคำพูดนี้ก็เห็นได้ชัดว่าเขากำลังมีอารมณ์ปะทุเดือด ราชาก็เริ่มถลึงตาจ้องมองดนัยอย่างเป็นศัตรู เกลียดจนอยากจะเอามีดมาแทงเป็นหมื่นๆ แผล
ทั้งสองคนเผชิญหน้ากัน แล้วนาโนก็เดินออกมา
ท่อนล่างนั้นสวมกางเกงยีน ยิ่งทำให้สองขานั้นดูยาวเรียวอย่างชัดเจน สะโพกนั้นยิ่งกลมงอน
เมื่อเห็นดนัย ดวงตาสวยงามกลมโตนั้นก็มองบนเล็กน้อย แต่ทว่าก็ไม่จ้องมองอะไรมากนัก เธอนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ แล้วก็ลงมือซ่อมต่อไป
สายตานั้นตกลงที่บนแผ่นหลังของเธอ สายตาของดนัยจ้องมองที่เธออย่างไม่กะพริบตา
ทำให้ราชาที่มองเห็นจากนั้นก็โกรธ สาวเท้าพุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วเพื่อยืนกั้นระหว่างสองคนนั้น “จ้องมองผู้หญิงของคนอื่นด้วยสายตาแบบนี้ ช่างไม่มีมารยาทเสียจริง!”
“อุ้มลูกของคนอื่นโดยไม่ปล่อยมือเลย นี่มีมารยาทมากเหรอ?” ดนัยถามกลับ
“นายก็แค่ให้สเปิร์มมา มีอะไรน่ายกย่อง แล้วยังมาอวดดีต่อหน้าฉันอีก นายก็คงให้ได้เพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น หลังจากนี้ฉันจะเป็นคนให้เองอีกหลายๆ ครั้ง!”
บรรยากาศเริ่มเปลี่ยนเป็นตึงเครียดขึ้นมาอีกครั้ง ไม่ได้มีผลอะไรต่ออารมณ์ของนาโน ปากกาที่อยู่ในมือก็ถูกโยนลงบนโต๊ะอย่างตามอำเภอใจ “ถ้าพูดมากอีกแม้แต่คำเดียวก็ไสหัวออกไปให้พ้นฉันให้หมดทุกคนเลย!”
หลังจากนั้น ห้องในโรงแรมก็เงียบสงบอย่างถึงที่สุด ไร้เสียงถกเถียง ที่เหลือก็มีเพียงแค่เสียงหายใจเท่านั้น
หลังจากนั้นประเดี๋ยวเดียว เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น เป็นของดนัยนั่นเอง
คนที่โทรมานั้นคือบาร์บี้ ดวงตานั้นหรี่ลงเล็กน้อย จากนั้นเขาก็รับสาย
“รบกวนประธานดนัย ช่วยฉันหาผู้เชี่ยวชาญในการรักษาขาให้สักสองสามคนได้ไหม ฉันอยากให้แผลบนขาของแม่ฉันหายสนิทดี ไม่ใช่เป็นเหมือนแบบตอนนี้” บาร์บี้พูด
“ผมจะโทรบอกเลขาให้ เขาจะช่วยเฝ้าดูข่าวสารจากทางนี้ให้เธอได้”
ในระหว่างนั้นที่เขากำลังคุยโทรศัพท์อยู่ โทรศัพท์มือถือของราชาก็ดังขึ้นเช่นกัน เมื่อรับสาย ไม่รู้ว่าฝั่งปลายสายนั้นพูดอะไรบ้าง เขาก็อุ้มคังซีเดินออกจากห้องไป
ในห้องของโรงแรมก็เหลือเพียงแค่ดนัยกับนาโนเพียงสองคน เขาจ้องเขม็งไปที่เธอที่กำลังทำงานอย่างตั้งใจ จากนั้นก็ค่อยๆ เอ่ยปากถาม “อยากดื่มน้ำร้อนสักแก้วหน่อยไหม?”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ดนัยก็ไม่ได้นั่งบนโซฟาแต่กลับลุกยืนขึ้น ก้าวเดินมาข้างหน้า เดินตรงมาทางด้านหลังเธอ สองมือนั้นจับกุมเข้าที่ไหล่สองข้างของเธอ พร้อมหมุนตัวให้หันมา สบสายตากัน “เพราะว่าตอนนี้ผมกำลังตามจีบคุณอยู่ เรื่องนี้คุณจำเป็นต้องรับรู้อย่างชัดเจน”
นาโนกระตุกมุมปาก ย้ายมือที่จับไหล่ของเธอไว้อยู่นั้นให้ปล่อยออก “คุณคิดว่าฉันจะยอมให้คุณมาตามจีบเหรอ? คุณไม่มีคุณสมบัติมากพอ!”
“คุณไม่ยอมก็เป็นเรื่องของคุณ แต่ผมเต็มใจที่ตามจีบก็เป็นเรื่องของผม คุณมีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธอย่างแน่วแน่ ผมก็มีสิทธิ์ที่จะเดินหน้าต่อ ระหว่างพวกเราจะไม่กระทบต่อกันและกัน”
“แต่ว่า คุณจะทำให้ชีวิตของฉันเกิดความยุ่งยาก ถึงขนาดที่เรียกว่าเป็นสถานการณ์อันเลวร้ายเลยก็ว่าได้” นาโนกางมือสองข้างออก
“และอีกอย่างฉันก็รู้สึกสะอิดสะเอียน คำตอบแบบนี้เพียงพอหรือยัง?”
สีหน้าของดนัยดูไม่ค่อยดีนัก ดูมืดมน เหมือนกับปกคลุมไปด้วยหมอกดำ และยิ่งเหมือนโดนรมควันดำ
“ทำไมถึงทำสีหน้าแบบนี้ ถ้าเปลี่ยนเป็นอีกมุมหนึ่ง ถ้าตอนแรกฉันบอกกับคุณว่าฉันรู้สึกดีกับผู้ชายคนอื่น และอีกทั้งยังอยากแต่งงานกับเขา คุณจะมีปฏิกิริยาตอบกลับยังไงกันนะ?”
คิดไปคิดมา ดนัยก็ค่อยๆ เอ่ยปากพูด “ผมจะพยายามคิดหาวิธีให้ถึงที่สุดเพื่อเอาคุณกลับคืนมา!”
“โอ้โห ที่แท้ ประธานดนัยก็มีคุณสมบัติดีขนาดนี้ คาดไม่ถึงว่าจะเต็มใจยอมให้โดนนอกใจ แต่ฉันคงไม่มีทางที่จะนอกใจได้ ประธานดนัยใจกว้างขนาดนี้ และก็น่าเสียใจที่มีผู้หญิงมากมายขนาดนั้นมาชอบ” นาโนถอนหายใจเบาๆ สีหน้าของเธอนั้นดูจองหองและเหน็บแนมอย่างถึงขีดสุด
ดังคำสุภาษิตที่ว่า ไม่เจอกับตัวเองก็คงไม่รู้สึก
หรือเพราะว่าตอนนั้นคนที่นอกใจคือเขา ดังนั้นจึงทำให้การพูดประโยคพวกนั้นออกมาในเวลานี้ดูง่ายดายแบบนี้
“นาโน——”
“กรุณาเรียกฉันว่าคุณนาโน!” นาโนไม่สนใจเขา สภาพจิตใจที่โดนทำร้ายนั้น เดาว่าทั้งชีวิตของเขาก็คงไม่สามารถเข้าใจได้
หน้าผากของดนัยก็เกิดรอยย่นแน่น มือใหญ่นั้นก็ยื่นไปจับกุมข้อมือเธอไว้อย่างไม่รู้ตัว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง