บาร์บี้รับการโจมตีแบบนี้ไว้ไม่ไหว ตาทั้งสองข้างมืดสนิท ร่างกายหงายหลังล้มลงไป แต่ดนัยหูไวตาไว รับเธอไว้ได้ทัน
รอจนกว่าบาร์บี้จะฟื้นขึ้น ตอนนั้นก็อยู่ที่ห้องผู้ป่วยแล้ว
ดนัยยืนจิบน้ำอุ่นอยู่ที่หน้าหน้าต่าง ได้ยินเสียง หันหลังไป เลิกคิ้วขึ้น “ฟื้นแล้ว? ”
พยักหน้า ในใจเธอนั้นทุกข์ทรมานเป็นอย่างมาก
แต่หลังจากฟื้นขึ้นมาคนแรกที่เห็นคือเขา ความรู้สึกที่อัดอั้นอยู่ภายในใจตลอดมา ในที่สุดก็คลายลงได้บ้างแล้ว ไม่รู้สึกเครียดเหมือนเดิมอีกแล้ว
ดนัยไม่ค่อยถนัดปลอบใจคน แต่ในตอนนี้ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยถนัด ก็คงจะต้องทำ ไม่เอ่ยคำใดๆ
ผ่านไปนานจากนั้น บาร์บี้ก็เอ่ยพูดเสียงแผ่วเบาออกมาว่า “ท่านประธานคะ คืนนี้คุณค้างที่นี่เป็นเพื่อนฉันได้ไหมคะ? ”
“ได้” ดนัยตอบอย่างรวดเร็วและชัดเจน “นอนเถอะ ผมก็อยู่ในห้องนี้แหละ”
เพราะมีอาการเหนื่อยอ่อนมากเกินไป มาร์บี้จนนอนหลับไป
ดนัยบีบมือถือ มองไปนอกหน้าต่างแว็บหนึ่ง
ตอนนี้ เธอและคังซีคงจะนอนแล้วแหละมั้ง?
ช่วงเช้าของวันต่อมา
ในตอนที่บาร์บี้ตื่นขึ้นมา ดนัยก็ยังคงนั่งอยู่บนเก้าอี้
ภายในใจของเธอสั่นเล็กน้อย เอ่ยปากเสียงแหบๆ ว่า “ท่าประธานไม่ได้นอนทั้งคืนเลยเหรอคะ? ”
“อืม ผมไม่ง่วง” ดนัยบิดขี้เกียจ ยืดร่างกาย
คิดไปแล้ว บาร์บี้ก็เอ่ยคำถามนั้นออกมาว่า “ลูกชายของคุณนาโนเป็นของท่านประธานจริงเหรอคะ? ”
“อืม…. “เขาตอบเสียงเรียบ เสื้อเชิ้ตสีขาวมีรอยยับเล็กน้อย
“ถ้างั้นหลังจากนี้ท่านประธานจะทำยังไงต่อคะ? ” ครั้งนี้เธอถามอย่างระมัดระวัง แล้วก็ยังค่อนข้างที่จะคาดหวัง เธอมักจะคิดว่าท่านประธานคิดเกินเลยกับเธอ
“ตามเธอกลับมา แน่นอนลูกชายด้วย” ดนัยไม่ได้ปิดบังเลยสักนิด พูดตามความจริง “ต้องมีสักวันหนึ่ง ผมจะต้องเอาเธอกลับมาให้ได้!”
อารมณ์ของบาร์นี้ไม่สงบแล้ว อยากจะถามจริงๆ ว่า แล้วฉันล่ะ? ฉันจะทำยังไง?
“เอาล่ะ คุณตื่นแล้ว ผมก็ควรที่จะไป ต่อจากนี้ถ้ามีเรื่องอะไร ก็โทรหาเลขา เขาจะช่วยคุณอย่างสุดความสามารถ”
“แล้วคุณล่ะคะ? ” เธอถามแกมบังคับแกมคาดหวัง
“ผมทำไม? ” ริมฝีปากบางของดนัยกระตุกเบาๆ “เลขาที่ช่วยคุณได้ต้องช่วยคุณอย่างแน่นอน แค่นี้แหละ”
สายตาและหัวใจของบาร์บี้นั้นสั่นระรั่ว “แล้วความสัมพันธ์ระหว่างเราล่ะคะ? ”
ดนัยถามกลับ “ระหว่างเรามีความสัมพันธ์อะไรกันด้วยเหรอ? ต่อให้มีนั่นมันก็แค่อดีต เราเลิกกันตั้งนานแล้ว ไม่ใช่เหรอ? ผมจำได้ ตอนนั้นผมพูดไปชัดเจนแล้ว!”
ใจเต้นตึกตักๆ บาร์บี้รู้สึกว่าตรงหน้ามืดลงนิดหน่อย บริเวณกระหม่อมก็ยิ่งมีความมึนๆ ตีเข้ามาเป็นระลอกๆ “ถ้างั้นให้ความหวังฉันทำไมคะ? ”
“ความหวังเหรอ เมื่อไหร่? ” ครั้งนี้ดนัยหยุดฝีเท้าลง หมุนตัวมา จ้องมองเธออย่างลึกซึ้ง
“หรือไม่เคยกันคะ? ” บาร์บี้รู้สึกว่าหัวใจดวงน้อยๆ ดวงหนึ่งราวกับกำลังนั่งรถข้ามภูเขา ขึ้นๆ ลงๆ ใจสั่นระรัวอย่างมาก
คราวนี้ดนัยจะถามให้ถึงที่สุด
เห็นดังนั้นแล้ว บาร์บี้ก็รีบก้าวเท้าเร็วขึ้น รีบวิ่งเข้าไป ใช้สองมือกอดเอวเขาเอาไว้ " ฉันไม่เชื่อ! "
ดนัยเอ่ยเสียงเรียบ "ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่ควรจะมาเกาะแกะผมนะ คุณควรที่จะไปเฝ้าแม่ของคุณ ไม่นานเธอก็อาจจะฟื้นแล้ว "
บาร์บี้อยากจะพูดอะไรต่อ
แต่ดนัยก็จากไปแล้ว
เดินเข้าห้องพักผู้ป่วย ครึ่งวันผ่านไป เเม่เธอฟื้นแล้ว ที่จริงแล้วเดิมทีขาข้างนี้ไม่น่าเป็นห่วงอะไร
เพียงแต่หลังจากที่ล้มก็ไม่ได้ใส่ใจ คิดว่าตัวเองก็คงเหมือนกับตอนปกติที่ล้มเท่านั้น
ใครจะไปรู้กันเล่า การล้มในครั้งนี้มันทับเส้นประสาท ทำให้ขาในตอนนี้เดินไม่สะดวกแล้ว ทำให้เสียช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการรักษาไป
แม่ของเธอเห็นสีหน้าของบาร์บี้ไม่ค่อยดีนัก จึงถามเธอว่า “เกิดอะไรขึ้นเหรอ? ”
“เขาบอกว่าความสัมพันธ์ของหนูเป็นแค่เพื่อนกันธรรมดาๆ เท่านั้น นอกจากนี้ก็ไม่มีอะไรอีกแล้ว แต่เขาดีกับหนูขนาดนี้ หนูไม่เชื่อ!”
บาร์บี้พูดอย่างเชื่องช้า สีหน้าของเธอดำคล้ำ นัยน์ตาไม่มีความกังวลใดๆ ที่กำลังกระจัดกระจายอยู่ และความลังเล
ได้ยินดังนั้น สีหน้าแม่ของเธอก็ไม่ได้ดูดีเท่าไรนัก และไม่ได้กล่าวอะไรออกมา
ผ่านไปครู่หนึ่ง เธอเอ่ยปากพูดว่า “เรื่องแบบนี้จะรีบร้อนไม่ได้ เดี๋ยวค่อยว่ากันเถอะ”
อารมณ์ของบาร์บี้ถึงตอนนี้ก็ยังไม่สงบสติลงมา เธอคิดว่า คาดว่าคราวนี้คงนอนไม่หลับไม่อีกหลายคืน
แล้วก็ไม่รู้ว่าทำไม จู่ๆ เรื่องระหว่างเราก็กลายเป็นอย่างนี้!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง