หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จ ซารางยืนยันที่จะไปกับเลอแปงด้วย ซึ่งก็ไม่มีทางเลือก เชอร์รีนจึงยินยอม
ตอนนี้ดีด้ารู้สึกว่านิสัยของเด็กสาวเป็นเพราะถูกตามใจ
ฐานะทางบ้านดี คุณพ่อและคุณอารักและเอ็นดูขนาดนี้ แต่เด็กกลับไม่เย่อหยิ่ง ทำให้คนผู้รักใคร่ แต่ความคิดก็แปลก ๆ อยู่สักหน่อย
เวลาผ่านไปไม่นาน รถก็จอดสนิทลง เธอก้าวเท้าลงจากรถ หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง ดีด้าจึงหยุดและพูดขึ้นทันที “ขอบคุณค่ะ!”
“จุ๊จุ๊ ตำรวจที่เหมือนเสือตัวเมียก็มีมุมอ่อนหวานแบบนี้ด้วยเหรอครับ?” เลอแปงพูดแซว
ดีด้ากัดฟัน เธอรู้สึกว่าเขาได้คืบจะเอาศอก ไม่เจียมเนื้อเจียมตัว เธอถอนหายใจปิดประตูรถและเดินออกมา
ซารางไม่ชอบท่าทีแบบนี้ของเขาเลย มันเหมือนเด็กด้อยประสบการณ์ “เฮ้ เหมือนคุณอาไม่ได้เป็นสุภาพบุรุษขนาดนั้นนะ แล้วต่อไปจะทำยังไงล่ะ?”
“สนใจแต่ตัวเองพอ” เลอแปงยกมือบีบแก้วสีนวลของเธอด้วยความมันเขี้ยว “หนูได้นิสัยแบบนั้นมาจากใครกัน? ไม่เหมือนแด๊ดดี้ของหนูและก็ไม่เหมือนหม่ามี้สักนิด หนูเป็นลูกหลานของเราจริงไหมนิ?”
ทั้งสองยังคงพูดคุยกันอยู่ ดีด้าที่ควรกลับไปถึงห้องแล้วแต่เธอเดินกลับมาพร้อมสีหน้าซีดเผือด ท่าทางรีบร้อน และกังวลมาก
ซารางเปิดประตูรถลงมา พร้อมแววตาเป็นกังวล
ดีด้าเหมือนเห็นทางออก เธอเปิดประตูรถและมองไปที่เลอแปง “คุณช่วยอะไรฉันอย่างได้ไหม?”
ท่าทางเธอแน่วแน่และสายตาจริงจัง
เมื่อเจอเช่นนั้น เลอแปงก็ขมวดคิ้วงงและก็พยักหน้าว่าได้ “พี่ชายฉันลุกไม่ได้ คุณช่วยฉันหน่อย!”
เมื่อเดินเข้ามาในห้องกับเธอ ก็พบกันชายวัยสามสิบกว่านั่งอยู่ที่โซฟา สีหน้าไร้เดียงสา แขนโอบกอดท้องไว้ ปากพูดพึมพำ “น้ำตาล… น้ำตาล… ผมอยากกินลูกอม… ”
ดีด้ากังวลมาก เธอรีบเขาไปกอดเอวเขาไว้ “ดีด้ามาแล้ว เดี๋ยวจะไปซื้อขนมให้พี่นะ โอเคไหม?”
“ดีด้า… ” เขาพูดด้วยท่าทีอ่อนแรง แล้วหยิบเยลลี่สองชิ้นออกจากกระเป๋า ยื่นให้ดีด้าและยิ้ม “ดีด้ากิน”
เลอแปงแค่มองเขานั้นก็เข้าใจทุกอย่างถ่องแท้ ชายที่อยู่ตรงหน้าเหมือนสมองจะผิดปกติ แม้ว่ามองดูภายนอกจะอายุสามสิบแล้วแต่สติปัญญากลับเหมือนเด็กแค่ไม่กี่ขวบเท่านั้น
ดีด้าเงยหน้าขึ้นและสบตาอย่างวอนขอ “พี่ชายของฉันปวดท้องมาก ที่บ้านไม่มีใครอยู่ และฉันยกเขาขึ้นไม่ไหวรบกวนคุณช่วยพาพี่เขาไปโรงพยาบาลได้ไหมคะ?”
เขาก้าวเท้าสองก้าวไปข้างหน้าและอุ้มชายคนนั้นขึ้นหลังแล้วเดินไปที่รถทันที โดยไร้คำพูดใดๆ
ดีด้าถอนหายใจอย่างโล่งอก และรู้สึกว่าเขาเป็นคนที่ไม่เลวเลยทีเดียว
ถึงโรงพยาบาล ดีด้ายังคงต่อคิวรอลงทะเบียนจัดคิว ซารางดึงแขนเสื้อของเธอแล้วหันไปทางเลอแปง “คุณอารีบไปตามคุณหมอมาเร็ว ไม่งั้นก็บอกชื่อแด๊ดดี้ไปก็ได้”
เลอแปงไม่รู้ว่าทำไมตัวเองต้องยื่นอยู่ตรงนี้แล้วถูกเด็กตัวเล็ก ๆ บอกให้ใช้เส้นสาย แล้วไหนต้องช่วยผู้หญิงที่มองยังไงก็ไม่ถูกชะตาคนนี้ด้วย!
เป็นปีที่โชคร้ายจริง ๆ !
ซารางถลึงตาใส่และจ้องไปที่เขา ดีด้าก็จ้องมองมาที่เขาอย่างร้อนใจมากเช่นกัน มันคงดีถ้าหากไม่ต้องต่อแถวรอคิว!
มือเรียวและมือเล็กของทั้งสองยังคงจับกันแน่น เลอแปงถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้และยกโทรศัพท์กดโทรออก…
มีความสัมพันธ์แบบนี้ ทุกอย่างดูรวดเร็วว่องไวเป็นพิเศษ คุณหมอที่ดูแลก็รีบเข้ามาทันทีและหันมาโค้งให้เลอแปงอย่างสุภาพ
คนป่วยถูกพาเข้ารักษา เลอแปงคิดว่าในฐานะคนแปลกหน้าที่เจอกันไม่กี่ครั้ง ตอนนี้เขาทำเกินพอแล้ว
ดังนั้นเขายกมือโบกเรียกซารางและพาเธอกลับ
แต่ซารางไม่ยอม “ยังไงตอนนี้ก็ไม่มีอะไรทำ รออีกหน่อยค่อยกลับก็ได้ค่ะ!”
เลอแปงเลยต้องเริ่มบังคับเธอ “กลับ!”
“ไม่อย่างนั้นคุณอากลับไปก่อน แล้วหนูจะโทรบอกให้แด๊ดดี้มารับหนูเอง คุณอาก็ไม่ต้องห่วงหนูแล้ว” อย่างไรก็ตามซารางยืนกรานที่จะไม่กลับ เธอยังจับมือดีด้าแน่น
ดีด้าชอบเด็กเจ้าเล่ห์ซุกซนคนนี้นะ แต่ยังไงนี่ก็คือลูกของคนอื่น พูดตามตรงก็ไม่ได้สนิทกัน จะกล้าตัดสินใจยื้อเด็กไว้ที่นี่ได้อย่างไร?
“หนูน้อย กลับไปกับคุณอาก่อนเถอะ ถ้าหากมีเวลาฉันยินดีให้หนูมาเยี่ยมได้ทุกเมื่อเลยนะ”
เมื่อเห็นท่าทีของเธอเลอแปงเบิกตากว้าง การแสดงของเธอที่มีต่อเขายิ่งทำให้เขาโมโหกว่าเดิม!
ซารางยกยิ้มพร้อมใช้ตะเกียบคีบข้าวราดแกงไปหนึ่งคำ และหันมากินบะหมี่ผัดต่ออีกคำ เธอมีความสุขมาก
ตอนนี้เวลาก็ใกล้จะบ่ายโมงแล้ว เลอแปงก็เริ่มหิวขึ้นมาจริง ๆ เขานั่งมองทั้งสองคนทานอาหารอย่างขัดใจ
อย่างไงเสียเขาก็เป็นคนพาคนป่วยมาส่งโรงพยาบาล และก็เป็นคนโทรศัพท์หาคุณหมอให้ ตอนนี้คนหนึ่งคนทานอาหารสำหรับสองคน และยังทานอย่างสบายใจแบบนั้น?
เขาก้าวขายาวไปด้านหน้า และเอื้อมมือหยิบบะหมี่ผัดจากมือของดีด้า
แปลกมาก ดีด้าเหล่มองเขา แต่เลอแปงกลับถอนหายใจเบา ๆ และมองเธอด้วยสีหน้าโกรธเคือง “มองอะไรครับ! อ้วนขนาดนี้แล้วยังกล้าทานทั้งสองชุดอีก ไม่ดูแลรูปร่างตัวเองเลยนะครับ!”
พอได้ยินแบบนั้น ดีด้าก็ก้มมองดูตัวเอง ก็ไม่ได้แย่นิ! แม้ว่าจะไม่ผอมแต่ก็ไม่ได้อ้วนมากมันยังโอเคอยู่นะ!
ซารางเดินมาใกล้ ๆ เขาและแอบยิ้มเบา ๆ “รสชาติเป็นไงบ้างคะคุณอา ไม่เลวไหม?”
เลอแปงจ้องตาเขม็ง ดีด้าเองก็มีสีหน้าโกรธอยู่ไม่น้อย “คุณอยากทานก็บอกมาตรง ๆ เถอะค่ะ ทำไมต้องพูดจาใจดำเจ็บแสบแบบนั้นด้วย ฉันอ้วน นี่คุณเคยเห็นผู้หญิงที่อ้วนมาก่อนไหมคะ ไหนลองบอกมาสิคะว่าบนร่างกายฉันมันมีตรงไหนที่อ้วน?”
เลอแปงหยุดเงียบไปครู่หนึ่ง และค่อย ๆ มองเธอแบบผ่าน ๆ ก่อนพูดออกมาว่า “หน้าอก… ”
“… ” หลังจากเงียบไปพักใหญ่ ดีด้ากัดฟันแน่น “อ้วนตรงไหนกันคะ มันคืออวบอิ่ม อวบอิ่มค่ะ โอเคไหมคะ?”
“ไม่ต้องหาข้ออ้างเรื่องอ้วนหรอกครับ” เลอแปงทานบะหมี่ผัดอย่างสบายอกสบายใจ และหันไปหาซาราง “รีบกินเข้า”
เป็นครั้งแรกที่เธอได้ยินผู้ชายบอกว่าหน้าอกเธออ้วน!
หลังจากทานเสร็จ ซารางยังคงอยากอยู่ต่อ
แต่เมื่อเห็นสีหน้าของเลอแปงที่เริ่มเปลี่ยน ในที่สุดเธอจึงยอมเชื่อฟัง
แม้ตอนอยู่ที่ตระกูลสิริไพบูรณ์เธอจะพยศ เอาแต่ใจเหมือนพระราชา แต่เธอก็เข้าใจแววตาของคุณอา คุณอาอยู่กับเธอมาครึ่งค่อนวันแถมยังต้องไปบริษัทอีก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง