ทันใดนั้นดีด้าก็หัวเราะขึ้นมาอย่างโง่ๆ แล้วโน้มตัวไปข้างหน้า อ้วกใส่เสื้อสูทของเลอแปง
เขาดันหน้าผากเธอพร้อมกับขมวดคิ้วรังเกียจกลิ่นอ้วก ดีด้าซบอยู่ที่อกของเขาอย่างนิ่งๆ
เลอแปงชำเลืองมองไปยังซารางด้วยสายตาเตือน ผลักเธอออกไป แล้วด่าด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา จากนั้นก็ถอดเสื้อสูทของเขาออกแล้วโยนทิ้งไปข้างๆ
ซารางไม่กล้าสร้างเรื่องอีก ทำได้แต่อยู่นิ่งๆอย่างเชื่อฟัง แล้วปล่อยให้เลอแปงอุ้มเธอ ในขณะที่พวกเขากำลังจะจากไปที่นั่น ก็ได้ยินเสียงคนร้องไห้สะอึกสะอื้น
เมื่อหันกลับไปมอง เลอแปงเห็นหล่อนนอนราบร้องไห้ทั้งน้ำตาอยู่บนโต๊ะ เศร้าเสียใจถึงขั้นหายใจไม่ค่อยออก มองดูเขาอย่างน่าสงสาร
น้ำตาที่น่าสงสารนั้นทำให้ซารางรู้สึกเจ็บปวด: “ป๊ารอง พี่ตำรวจหญิงน่าสงสารมาก พวกเราพาพี่ไปด้วยนะ”
เลอแปงยังไม่ทันได้เอ่ยปากพูด ดีด้าที่เมามายก็วิ่งเข้ามากอดเอวของเลอแปง แล้วพูดว่า: “เล่าเรื่องตลก เล่าเรื่องตลกให้ฟังหน่อย ฉันอยากฟังเรื่องตลก”
เลอแปงไม่ตอบอะไร ส่วนซารางก็ตกตะลึง แต่ดีด้ากลับนั่งยองๆบนรองเท้าของเขาเหมือนเด็กๆร้องไห้งอแง
คนรอบข้างต่างมองมาทางพวกเขาและซุปซิบนินทา เลอแปงยิ้มกัดฟันพูดว่า: “ลุกขึ้น”
“เล่านิทาน เล่านิทานตลกให้ฉันฟังหน่อย ฉันอยากฟังนิทานตลก คุณรังแกฉัน ฉันจะไม่ไปไหน จะฟังนิทานตลก!” ดีด้าเมาเหมือนเด็ก
ผู้คนยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ เลอแปงหมดหนทาง โค้งตัวลงนั่งยองตรงหน้าเธอ แล้วกัดฟันเล่าเรื่องตลก: “สองพี่น้องคุยกัน พี่ชายสามารถพูดหนึ่งประโยคให้ฉันสิ้นหวังได้ไหม?”
ดีด้ากระพริบตายังคงร้องไห้ แต่ตั้งใจฟัง
“พี่ชายพูดว่า ภรรยาของเธอมีไฝที่หน้าอกข้างซ้าย น้องชายพูดว่า ทำให้ฉันรู้สึกมีความหวังอีกครั้ง พี่ชายตอบกลับไปว่า ฉันกับหล่อนเป็นเพื่อนร่วมชั้นตอนอยู่อนุบาล”
ดีด้าเข้าใจแล้ว เธอเม้มปากหัวเราะคริคริ ก่อนหน้านี้ยังร้องห่มร้องไห้อยู่เลย ตอนนี้กลับยิ้มแย้มราวกับดอกไม้บาน
แต่ซารางฟังไม่เข้าใจ เดี๋ยวก็สิ้นหวัง อีกเดี๋ยวก็มีหวัง จะสื่อถึงอะไรกันแน่?
เมื่อเห็นเธอยิ้ม เลอแปงถึงถอนหายใจผ่อนคลายลงได้ อุ้มซารางเตรียมออกไป
แต่ดีด้าไม่ยอมให้เขาไป กอดขาเขาไว้ แล้วเงยหน้ามองเขาด้วยแววตาที่สดใส: “ฉันก็จะไปด้วย”
ซารางมองหน้าเขา แล้วพูดว่า: “ป๊ารอง พาพี่ตำรวจหญิงนมโตไปกับพวกเราด้วย ดีไหมคะ?
เลอแปงตอบเธอไปว่า ไม่มีทาง! ครั้งก่อนทำเรื่องดีดีไว้ยังไม่สำนึกอีกหรอ จะให้หล่อนมาทำร้ายอีกครั้งใช่ไหม?
ดีด้ามองเขาอย่างน่าสงสาร แต่กลับถูกเลอแปงผลักออกไปอย่างแรง และให้เธอนั่งบนเก้าอี้ข้างๆเขา
สรุปว่า เขารู้สึกว่าพบหล่อนไม่มีเรื่องดีเลย! สองครั้งที่ผ่านมาก็ถูกด่าไปไม่น้อย พอมาวันนี้ก็ต้องมาเล่าเรื่องตลกให้ฟังอีก พอแล้ว!
อุ้มซารางแล้วลุกขึ้นเดินออกไปจากบาร์
ดีด้านั่งบนเก้าอี้ร้องไห้คร่ำครวญอย่างสะอื้น เอามือปิดหน้าและนอนราบอยู่บนโต๊ะ
พอเดินไปถึงหน้าประตูทางเข้าของบาร์ ซารางก็เขย่าไหล่ของเขา: “ป๊ารอง พาพี่สาวไปด้วยนะ! ไม่งั้นก็ปล่อยหนูลง หนูจะโทรหาปาป๊า!”
เลอแปงใช้มือตบไปที่ก้นของเธอ พูดด้วยสีหน้าเคร่งครึมว่า: “อย่าทำตัววุ่นวาย!”
“อื้น..อื้น..มีคนทำร้าย…โอ้ยเจ็บ…มีคนทำร้าย…ป๊ารองไม่รักหนูแล้ว…” ซารางร้องไห้สะอึกสะอื้น ร้องไห้จนตาแดง น่าสงสารมาก
เธออยู่บ้าน บ้านตระกูลสิริไพบูรณ์มานานขนาดนี้ เลอแปงไม่เคยตีเธอเลยแม้แต่น้อย ดูจะรักและเอ็นดูมากกว่าด้วยซ้ำ และไม่เคยเห็นเธอร้องไห้เลย
แต่ตอนนี้กลับร้องไห้หนักขึ้นเรื่อยๆ ร้องไห้เสียใจจนใบหน้าเล็กๆแดงไปหมด
เลอแปงรู้สึกกังวลใจมาก จำเป็นต้องอ่อนข้อแล้วเกลี้ยกล่อมซารางให้หยุดร้องไห้
เธอร้องไห้ไปด้วย เช็ดน้ำตาไปด้วย แล้วพูดว่า: “หนูจะพาพี่ตำรวจหญิงนมโตไปด้วย!”
เขาทนดูผู้หญิงร้องไห้ไม่ได้ อุ้มซารางแล้วเกลี้ยกล่อมเธอเบาๆ เขาไม่รู้จะทำยังไงจนมุมจริงๆ ทำได้เพียงพาดีด้าไปด้วย
“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้ เตือนแล้วนะ!” เขาทำเสียงทุ้ม เตือนด้วยเสียงต่ำ
ผู้หญิงคนนี้มีความสามารถสูงในการพัวพัน ขาสองข้างของหล่อนสามารถหนีบเขาไว้ระหว่างขาอย่างเหนี่ยวแน่นเหมือนเถาองุ่น
ในตอนนี้หล่อนง่วงมากหาวและน้ำตาไหลไม่หยุด และเมื่อได้ยินเสียงหล่อนก็ขมวดคิ้วลงเบาๆ: “เอะอะโวยวายอะไรกัน!”
เลอแปงสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อระงับอารมณ์ร้อนรุ่มที่แปรปรวน เสียงพูดที่เล็ดออกมาตามซอกฟัน: “ฉันจะเตือนเธอเป็นครั้งสุดท้าย!”
“เสียงดัง!” ครั้งนี้ดีด้าอุดเสียงนั้นโดยการใช้ริมฝีปากอมชมพูจูบเขาไว้ หล่อนรู้สึกว่านุ่มและน่าอร่อยเลยเลียอีกสองครั้ง
เลอแปงหรี่ตาลงทันที เขาเกร็งตัวที่สูงยาวแข็งแรงของเขา และคัดจมูกหายใจได้ไม่สะดวก
แม้ว่าเลอแปงจะเกิดมาในครอบครัวแบบนี้ แต่เขาก็ได้รับการสั่งสอนมาอย่างดีตั้งแต่ยังเป็นเด็ก อีกทั้งยังมีนิสัยดื้อรั้น แต่ก็รู้จักเลือก
ตั้งแต่เรียนมัธยมต้น เขามักจะได้รับจดหมายรักมากมาย ยัดใส่ในกระเป๋านักเรียนจนเต็ม เขาไม่เคยจริงจังกับเรื่องแบบนี้เลย และก็ไม่เคยมีใจให้ผู้หญิงคนไหนมาก่อน
จนถึงมัธยมตอนปลาย เขาได้ตกหลุมรักเชอร์รีน รักอย่างบ้าคลั่ง หลงใหลในความรัก และรักจนสุดหัวใจ
เมื่อยังเป็นเด็ก เขารู้สึกอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับเรื่องเพศมาก แต่กลับมีความมุ่งมั่นบางสิ่งที่ยากจะอธิบาย
พี่ชายคนโตไม่เคยห้ามเขา และบางครั้งก็มาดูกับเขา เชอร์รีนคิดว่าเป็นเรื่องปกติที่วัยรุ่นจะมีจิตวิทยาและแรงกระตุ้นแบบนี้ และควรได้รับคำแนะนำอย่างถูกต้อง
มันอาจจะตลกถ้าจะบอกว่า นี่คือจูบแรกของเลอแปง!
ก่อนที่จะเจอกับเชอร์รีน ไม่มีใครเข้าตาเขาเลย และเขาก็ไม่ได้สนใจผู้หญิง เขารู้สึกว่าผู้หญิงเรื่องเยอะและขี้หงุดหงิด
แต่หลังจากพบเธอ เธอเติมเต็มโลกและความคิดของเขาได้อย่างรวดเร็วจนน่าอัศจรรย์ นอกจากหล่อนก็ไม่มีใครเข้าตาเขาเลย
บางครั้งเขาก็ยังคิดเพ้อฝัน..
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง