คุณคือของขวัญจากฟ้า นิยาย บท 56

รถเก๋งคันนั้นหักพวงมาลัยด้วยความตกใจ เบรกทันที

มณิกาถึงได้รีบกระโดดลงมาจากรถ กลิ้งอยู่บนพื้น เจ็บหนักไปทั้งร่าง

เพราะว่ารถพยาบาลเปิดหวอตลอดทาง เสียงดังมาก ดังนั้นส่วนของคนขับจะไม่ได้ยินเสียงที่เกิดขึ้นในห้องโดยสาร

มณิกาได้หนีออกลงมาจากรถได้อย่างราบรื่น แต่ก็เพราะว่ากระโดดลงมา ล้มอยู่กับพื้น เจ็บอยู่นานถึงจะลุกขึ้นได้

เธอก็นอนอยู่อย่างนั้น มองรถพยาบาลที่แล่นไกลออกไปเรื่อยๆ คนบนรถก็ไม่มีใครตามลงมา

ในตอนนั้นเอง ผู้หญิงจากรถเก๋งคันด้านหลังก็ได้เดินออกมา ชี้ไปที่เธอแล้วก็ด่าเสียงดัง "นี่ เธอตาบอดรึไง?รู้ไหมเนี่ยว่าอีกนิดนึงก็จะโดนฉันชนแล้วเนี่ย?"

"ขอโทษค่ะ"

มณิกาลุกขึ้นมาจากบนพื้น ก้มหัวโค้งคำนับผู้หญิงคนนั้น อยากจะใช้มือถือของเธอโทรแจ้งตำรวจ แต่ก็เกรงว่าคนตระกูลธนัตถ์โชติจะจัดการเรื่องนี้กับทางตำรวจแล้ว

สุดท้ายก็ทำได้เพียงพูดกับผู้หญิงคนนั้นว่า "ช่วยไปส่งฉันหน่อยได้ไหมคะ?"

หญิงสาวที่อยู่ในชุดสูททำงานสีดำ สวมแว่นตากรอบดำ ดูเหมือนจะเป็นบุคคลระดับสูงในที่ทำงาน

เธอเหลือบตามองมณิกาหัวจรดเท้า แล้วมองรถพยาบาลที่ไกลออกไป "ส่งเธอไม่ได้หรอก ช่วยได้มากสุดก็แค่โทร 110ให้"

ตามหลักจิตวิทยาในการป้องกันตัว ผู้หญิงคนนั้นได้เธอกับเหตุการณ์ที่น่าประหลาดใจแบบนี้ ก็เป็นธรรมดาที่เธอจะกลัวมณิกา

"งั้นขอยืมมือถือของคุณโทรศัพท์หน่อยได้ไหม?"

มณิกาถามพลาง เอื้อมมือไปกุมหน้าท้อง

ถูกเตะมาอย่างจัง จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ดีขึ้นเลย

"งั้นก็ได้"

หญิงสาวยื่นมือถือส่งให้มณิกา มณิกาโทรไปหาซีน เมื่อโทรติดเธอก็พูดว่า "ซีน ฉันอยู่ที่สี่แยกระหว่างถนนสงบสุขกับถนนประชาสิทธิ์ ขับมาทางตะวันออกห้าสิบเมตร คุณรีบมารับฉันหน่อย ด่วนเลยนะ!"

เสียงตู๊ดจบไป มณิกาก็ยื่นมือถือคืนให้กับหญิงสาว

ในขณะที่มณิกากำลังจะจากไป เสียงรถพยาบาลคันนั้นก็ดังขึ้นมาอีกในทันใด

ใบหน้าของมณิกาซีดไปทั้งหน้า เธอและผู้หญิงคนนั้น ทั้งสองก็ได้มองไปในทิศทางของเสียง ทันใดนั้นก็พบว่ารถพยาบาลที่ขับออกไปแล้วได้กลับมาอีกครั้ง

"ขอร้องล่ะ ให้ฉันหลบอยู่ในที่ท้ายรถได้ไหม คุณแค่ขับไปที่ที่คุณจะไปก็พอ จากนั้นฉันค่อยออกมา ได้ไหม?"

เธอดึงมือหญิงสาวไว้ ขอร้องอ้อนวอน

เมื่อตอนที่อยู่บนรถ หญิงสาวก็ได้เห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้นบนรถพยาบาล เห็นว่าเธอกระโดดลงมาจากรถพยาบาลด้วยตาของตัวเอง ในตอนนี้ก็รู้สึกว่าเธอไม่ได้ต่างจากคนปกติอะไร ทั้งยังบาดเจ็บไปทั้งตัว ถ้าไม่ช่วย จิตใจของเธออยู่ไม่เป็นสุขแน่

"ก็ได้ ขึ้นมาเร็ว"

หญิงสาวขึ้นรถ กดเปิดช่องเก็บของท้ายรถ มณิกาพูดขอบคุณ จากนั้นก็เดินไปด้านหลังรถเก๋ง เปิดท้ายรถแล้วมุดเข้าไป ปิดฝาลง แล้วตะโกนว่า "ไปได้เลย"

จากนั้น เธอก็หลบอยู่ในช่องเก็บของท้ายรถของหญิงสาว ได้ยินเสียงรถพยาบาลคันนั้นไกลออกไปเรื่อยๆ ในที่สุดเธอก็วางใจได้สักที

ที่โรงพยาบาล

หลังจากที่วายุได้รับโทรศัพท์จากนภัทร เขาก็รู้สึกลึกๆ ว่ามีบางอย่างผิดปกติ

แม้ว่าตอนนั้นมณิกาเองที่อยากจะออกไป แต่เมื่อเขาได้เห็นมณิกาในห้องผู้ป่วยแล้ว เห็นได้ชัดว่าเธอง่วงนอนมาก แต่ก็อดทนไว้ไม่ยอมนอน แถมยังยืนกรานที่จะออกจากโรงพยาบาลท่าเดียว

เมื่อคิดถึงเรื่องที่เธอถูกลักพาตัวไปเมื่อคืน และภาพเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งนั้น และยังมีเรื่องที่กล้องวงจรปิดของโรงพยาบาลเกื้อกูล มีปัญหาวันนี้อีก

ทุกๆ เรื่อง ทุกๆ อย่างที่เกิดขึ้น แสดงถึงปัญหาเรื่องเดียว

นั่นก็คือ......

มณิกากำลังตกอยู่ในอันตราย!

กริ๊ง——

ภายนอกแล้วธิกานต์ดูสงบและนิ่งเฉย แต่ภายในใจกลับเต็มไปด้วยความหึงหวงริษยาตั้งนานแล้ว

"คุณย่าคะ ฉันไม่วางใจที่จะให้พี่วายุไปประเทศCคนเดียว ให้ฉันไปกับเขาด้วยได้ไหมคะ?"ธิกานต์จับมือของนายหญิงเนตรอย่างสนิทสนม ออดอ้อนเธอ

การไปประเทศCครั้งนี้ สำหรับธิกานต์แล้ว เป็นโอกาสที่ดีมากที่จะได้อยู่สองต่อสองกับวายุ

แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะเสียโอกาสนี้ไป

ที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือ เธอพบว่าความห่วงใยที่วายุมีให้มณิกา มากเกินกว่าที่เธอคิดไว้ ดังนั้นเธอจะต้องจับตาดูเขา เพื่อไม่ให้วายุตรวจสอบพบเบาะแสใดๆ ที่จะทำให้คนตระกูลธนัตถ์โชติตกเป็นฝ่ายที่เสียเปรียบ

เดิม นายหญิงเนตรก็ไม่ชอบให้ธิกานต์อยู่ข้างๆ ตลอดอยู่แล้ว ใช้เรื่องนี้เป็นข้ออ้างที่จะให้เธอออกไปก็เป็นวิธีที่ไม่เลว

เธอพยักหน้าเห็นด้วยอย่างมาก เงยหน้าขึ้นมองวายุ พูดอย่างจริงจังว่า "ยัยเด็กกานต์คนนี้ จริงใจกับเธอ เธอก็พาหล่อนไปประเทศCด้วยละกัน ยังไงซะหล่อนก็เป็นคู่หมั้นของเธอ"

น้ำเสียงที่เป็นคำสั่ง ไม่ได้ปรึกษาวายุเลยสักนิด

แววตาที่เย็นชาของวายุมืดลงเล็กน้อย ไม่รอให้ได้เขาปริปากปฏิเสธ ก็ได้เห็นรอยยิ้มอ่อนโยนของธิกานต์ ขอบคุณนายหญิงเนตรด้วยความดีใจ "ขอบคุณค่ะคุณย่า คุณย่าใจดีที่สุดเลย"

"ไม่ต้องขอบคุณฉันหรอก เวลาใกล้เข้ามาแล้ว เธอรีบกลับไปจัดกระเป๋าเถอะเวลาล่าช้าไปจะไม่ดี"

นายหญิงเนตรบอกกับธิกานต์

"โอเคค่ะ ฉันจะกลับไปจัดของเดี๋ยวนี้"

นายหญิงเนตรตอบรับได้อย่างใจแบบนี้ เกินความคาดหมายของธิกานต์อย่างสิ้นเชิง เธอลุกขึ้นทันทีและเดินออกไปข้างนอก ไม่ลืมที่จะพูดกับวายุ "พี่วายุคะ พี่รอฉันก่อนนะ เดี๋ยวฉันกลับมา แป๊บเดียวค่ะ"

ถึงจะบอกว่าหมั้นกับวายุแล้วก็ตาม แต่ถึงตอนนี้เธอก็ยังอยู่ในบ้านตระกูลธนัตถ์โชติ ไม่มีโอกาสที่จะได้ใกล้ชิดกับวายุเลย

ครั้งนี้ถ้าได้ไปประเทศC ด้วยกัน เธอจะต้องใช้โอกาสนี้ทำให้ตัวเองเป็นภรรยาของวายุ'ที่แท้จริง'ให้ได้

ใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่มนั้นเย็นชา สายตาที่มองธิกานต์อย่างเยือกเย็น แฝงด้วยความไม่พอใจเป็นอย่างมาก

แต่ถึงแม้ว่าธิกานต์จะเห็นแบบนั้น แต่เธอก็ทำท่าทีเมินเฉย เดินผ่านเขาไป รีบกลับไปเอาพาสปอร์ต

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณคือของขวัญจากฟ้า