เขายังเหมือนกับคนเดิมที่เธอจำได้แทบทุกอย่าง ถึงแม้รูปหน้าจะคมคายขึ้น และความอ่อนเยาว์ในสมัยมหาวิทยาลัยจะหายไปก็ตาม ท่วงท่าของเขายังดูภูมิฐานและมาดมั่นยิ่งขึ้นด้วย
ทว่าสิ่งที่เปลี่ยนไปมากที่สุดก็คือสีหน้าของเขา สิ่งที่หายไปคือความอบอุ่นที่เธอจำได้ว่าเห็นมันบนใบหน้าของเขาทุกวัน เหลือไว้เพียงความเกรี้ยวกราดและขึงขัง
ตอนนี้เขากำลังฟังรายงานจากเหล่าลูกน้อง พร้อมพยักหน้าและออกคำสั่งสองสามอย่างเป็นครั้งคราว
กลุ่มคนเดินผ่านเธอเข้าไปในห้องทำงานของหัวหน้าบรรณาธิการ โดยสายตาของเขาไม่ได้แลมองมาที่เธอเลยสักครั้ง
วิเวียนหน้าซีดเผือด
ฟาเบียน นอร์ตัน...เขากลับมาที่นี่อีกทำไม สองปีก่อน จู่ๆ เขาก็จากไปโดยไม่เอ่ยลาเลยสักคำ แล้วตอนนี้เขากลับมาอีกทำไม
สองปีที่ผ่านมา ตอนนี้เธอพอจะปล่อยวางความสัมพันธ์ที่แตกหักระหว่างเขาและเธอได้บ้างแล้ว ทว่าการกลับมาปรากฏตัวในชีวิตของเธอแบบกะทันหันของเขายังคงมีระลอกคลื่นของความรู้สึกที่สาดซัดใส่เธอไม่หยุดหย่อน และกดเธอให้จมลงไปจนมิด
เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหากเห็นกันครั้งแรกเขาจะจำเธอได้เหมือนที่เธอจำเขาได้หรือเปล่า
คิดมาถึงตรงนี้ รอยยิ้มเย้ยหยันแบบด้อยค่าตัวเองก็โค้งขึ้นบนริมฝีปากของเธอ
มันสำคัญด้วยเหรอว่าเขาจะจำฉันได้หรือเปล่า เขากับฉัน...ถูกฟ้าลิขิตให้แยกทางกันแล้ว ไม่มีทางที่เราจะกลับมาเป็นเหมือนอย่างที่เคยเป็นได้…
เวลาที่เหลือของวันตกเข้าสู่ไอหมอกของความอึดอัดและความกังวล เธอกลัวว่าฟาเบียนจะจำเธอได้
ในไม่ช้าความจริงจะพิสูจน์ได้ว่าความกังวลของเธอนั้นเลื่อนลอยไร้เหตุผล
เนื่องจากเป็นการเข้ารับตำแหน่งใหม่ของเขา ฟาเบียนจึงยุ่งอยู่กับการพบปะแผนกต่างๆ ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงในบริษัทนิตยสาร
ในการประชุมครั้งหนึ่ง เขาฟังอย่างตั้งใจ ในขณะที่บรรณาธิการอาวุโสทำการรายงานก็ออกความเห็นและสั่งโน่นนี่ เขาไม่ได้ให้ความสนใจวิเวียนที่นั่งอยู่ไกลสุดของโต๊ะเลยสักครั้ง
ดูเหมือนเขาจะลืมฉันไปแล้ว…แต่ฉันเดาว่านั่นก็ไม่ได้ผิดความคาดหมายอะไร หากฉันมีอะไรที่คู่ควรกับเขาสักนิด เมื่อสองปีก่อนเขาคงไม่จากไปโดยไม่บอกอะไรสักคำหรอก และฉันก็ไม่ได้ข่าวคราวจากเขาอีกเลยเช่นกัน
หลายชั่วโมงผ่านไปอย่างเชื่องช้าแทบขาดใจสำหรับวิเวียน ในที่สุดก็ถึงเวลาเลิกงาน เธอไม่อยากจะอยู่ที่สำนักงานนานไปกว่านี้แล้ว จึงรีบคว้ากระเป๋าและเตรียมตัวจะกลับ
โชคไม่ดีที่อยู่ๆ บรรณาธิการอาวุโสของเธอก็ร้องเรียกเธอ
"เดี๋ยวก่อน วิเวียน ช่วยเอาเอกสารนี้ไปให้คุณนอร์ตันแทนฉันหน่อยได้ไหม รายงานเป็นคำพูดให้เขาฟังด้วยนะ"
วิเวียนตัวแข็งทื่อ ก่อนจะหมุนตัวไปหาผู้หญิงอีกคนช้าๆ เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงวิงวอนเล็กน้อย "เลสลีย์ ฉันมีเรื่องด่วนต้องกลับไปทำที่บ้านน่ะ คุณจะช่วย..."
บรรณาธิการอาวุโสของเธอ เลสลีย์ เจนสันกำลังหงุดหงิดจากการประชุมก่อนหน้าที่เธอถูกตำหนิ เมื่อได้ยินวิเวียนปฏิเสธ เธอก็ชักสีหน้าบึ้งตึงใส่ทันที "แล้วไง เธอคิดว่าตัวเองเหนือกว่าทุกคนเพียงเพราะได้สัมภาษณ์ประธานบริษัทฟินเนอร์กรุ๊ปอย่างนั้นเหรอ"
วิเวียนหน้าซีดกับคำพูดเชือดเฉือนที่หลุดออกจากปากของเลสลีย์ เธอจึงได้แต่ตอบอย่างไม่มีทางเลือกว่า "อย่างี่เง่าไปหน่อยเลย เลสลีย์ เดี๋ยวฉันทำเอง"
เธอหยิบเอกสารมาจากเลสลีย์ แล้วเดินไปยังห้องทำงานของฟาเบียน เธอยืนอยู่หน้าประตู หายใจเข้าลึกๆ อยู่หลายครั้งเพื่อสงบจิตสงบใจตัวเอง ก่อนจะยกมือขึ้นเคาะประตู
ก๊อก ก๊อก
แค่การเคลื่อนไหวง่ายๆ ดูเหมือนจะสูบพลังของเธอออกไปจนหมด
"วิเวียน วิลเลี่ยม สุดท้ายแล้ว ผู้ชายที่เธอเลือกก็มีปัญญาซื้อแค่แหวนเพชรกากๆ ธรรมดาๆ วงนี้ให้เธอเองเหรอ" ราวกับมีบางอย่างแทงใจเขา ความรังเกียจและขยะแขยงฉายอยู่บนใบหน้าของชายหนุ่ม" งั้นจะบอกอีกรอบนะ ผู้หญิงที่ตั้งใจขายร่างกายเพื่อเงินน่ะหาซื้อง่ายจะตาย มันไม่ยากหรอกที่ผู้ชายจะได้เธอ"
วิเวียนเหมือนถูกฟ้าผ่าด้วยคำพูดของเขา สีหน้าของเธอซีดเซียว เผือดสีราวกับกระดาษ
"นะ นาย นายรู้เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสองปีก่อนเหรอ" เธแแทบจะหายใจไม่ออก ขณะที่ริมฝีปากสั่นระริก
ฟาเบียนส่งเสียงหึแทนคำตอบ ไม่รู้ทำไม หน้าอกของเขาถึงเจ็บแปลบ ที่เห็นว่าปฏิกิริยาแรกของเธอไม่ใช่การปฏิเสธ
เขาบีบข้อมือเธอแน่นขึ้น เปล่งเสียงเย็นยะเยือกออกมา "ใช่ ฉันรู้ ความจริงฉันรู้ตั้งแต่สองปีก่อนแล้ว รู้ไหม ฉันต้องขอบคุณเธอจริงๆ วิเวียน ฉันซาบซึ้งมากที่เธอทำให้ฉันเห็นว่าผู้หญิงที่ฉันรักมาตลอดสามปีสกปรกแค่ไหน เพราะเธอเลยนะ ฉันถึงตั้งใจแน่วแน่ที่จะไปเรียนต่อที่ประเทศเอ"
เศษเสี้ยวของสีสุดท้ายที่หลงเหลืออยู่บนแก้มเธอมลายหายไปทันที
สองปี… สองปีก่อน เธอเฝ้าสงสัยมาตลอดว่าทำไมเขาถึงไปต่างประเทศกะทันหันในตอนที่เธออ่อนแอที่สุด เขาทิ้งเธอไว้คนเดียวในช่วงเวลาที่เธอต้องการเขามากที่สุด
ตอนนี้ ในที่สุดเธอก็รู้ความจริงแล้ว
ทุกอย่างเป็นเพราะเหตุการณ์นั้น
ทั้งๆ ที่ ช่างเถอะ ความคิดอีกอย่างแล่นเข้ามาในหัวเธอ สองปีที่แล้วฟาเบียนออกจากประเทศไปก่อนที่เหตุการณ์นั้นจะกระจ่างด้วยซ้ำ
เป็นไปได้ไหมว่าเขารู้เรื่องก่อนที่มันจะเกิดขึ้นด้วยซ้ำ ไม่มีทาง เป็นไปไม่ได้…
อย่างไรก็ตาม มันคือหลักฐานที่แสนเจ็บปวดที่แสดงว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาเหมาะสมที่จะมาคิดถึงเรื่องนั้น ดังนั้นเธอจึงดิ้นรนเพื่อให้ตัวเองเป็นอิสระพร้อมกับพยายามอธิบาย "ฟาเบียน เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสองปีก่อนเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิด เรื่องที่เกิดขึ้นจริงๆ ก็คือฉัน..."
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ความรักสีคราม
สนุกมาก...