ฮันน่าตะลึงงัน กล้องบนไหล่สั่นไหวไปตามอาการสั่นเทาของเธอขณะที่เธอเงยหน้าขึ้นมองฟาเบียนที่ยืนอยู่บนเวทีเพื่อรอคำตอบจากเขา
คนอื่นๆ ในกลุ่มผู้ชมต่างก็ตกตะลึงกับคำถามนี้เช่นกัน เสียงหอบและเสียงกระซิบนับไม่ถ้วนดังขึ้นจากพวกเขา
“นี่เป็นเรื่องจริงเหรอ? ทำไมฉันไม่รู้เรื่องนี้”
“นั่นเท่ากับว่าเธอคือคนรักของฟาเบียนไม่ใช่หรือหากพวกเขากำลังดูใจกันอยู่”
…
คำถามกะทันหันนั้นทำให้อีเวตต์ลุกลนเล็กน้อย เธออยากยอมรับความสัมพันธ์นั้นใจจะขาด แต่เธอไม่กล้าพูดโพล่งออกมาโดยไม่ได้รับความยินยอมจากฟาเบียน เพราะเรื่องทั้งหมดนี้จะถูกตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ของวันถัดไป ดังนั้นเธอจึงหรี่ตามองฟาเบียน ส่งสายตาเป็นเชิงถาม
ทันใดนั้น ริมฝีปากของฟาเบียนก็กระตุกเป็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ เขาก้าวไปข้างหน้าและประกาศกับนักข่าวว่า “เป็นความจริงครับ!”
คำตอบนั้นตบหน้าของฮันน่าอย่างแรงจนทำให้ตาเธอพร่ามัว มองอะไรแทบไม่เห็น เธอจับกล้องแน่น
พาดกับบ่าให้มั่นคงแม้ว่าเข่าของเธอกำลังอ่อนแรงก็ตาม
กำลังดูใจอยู่งั้นเหรอ? แล้วฉันล่ะเป็นอะไร? ของเล่นของคุณใช่ไหม?
นักข่าวเบิกตากว้างกับคำตอบของเขา ทุกคนเต็มไปด้วยความตื่นเต้นบนใบหน้าและตามมาด้วยคำถามอื่นๆอย่างกระตือรือร้น “ถ้าอย่างนั้น คุณนอร์ตันครับ แสดงว่าการลงทุนในครั้งนี้ก็เป็นเพราะคุณแทนเนอร์ใช่ไหมครับ?”
คุณถึงกับลงทุนในละครของเธอด้วยเหรอ? ฉันคิดว่าคุณเข้าร่วมงานนี้เพียงเพราะเธอเชิญคุณมา... ฮันน่าเต็มไปด้วยความผิดหวัง เธอมองฟาเบียนเงียบๆ ซึ่งเขายังคงยืนอยู่บนเวที
ฟาเบียนยิ้มให้นักข่าว “ทั้งอีฟและผมเชื่อว่าละครเรื่องนี้จะได้รับความนิยมมาก มันก็สมเหตุสมผลแล้วผมจะลงทุนในละครที่มีคุณค่าแบบนี้ แต่แน่นอนว่าอีฟก็มีส่วนในการตัดสินใจลงทุนของผมด้วยเช่นกัน”
นักข่าวถึงกับแทบจะเกาะติดขอบเวทีไม่ไปไหน ตอนนี้พวกเขาสามารถจินตนาการพาดหัวข่าวที่น่าสนใจในวันพรุ่งนี้ได้เลย ข่าวด่วน! ประธานบริษัทฟีนิกซ์ กรุ๊ป ยอมรับความสัมพันธ์กับดาราสาวอีเวตต์ ในงานแถลงข่าว
สำหรับผู้หญิงชอบกินอย่างฉัน ไม่มีอะไรดีเท่าพิซซ่าที่จะช่วยแก้ปัญหาทั้งหมดของฉัน ถ้ายังรู้สึกไม่ดีขึ้น งั้นก็เบิ้ลมันสองถาดไปเลย!
ไม่มีอะไรจะสุขใจเท่ากับการได้นั่งรับประทานพิซซ่าในห้องแอร์เย็นๆ ท่ามกลางอากาศร้อนๆ แบบนี้อีกแล้ว แต่ขณะที่เธอเคี้ยวไปได้สองสามชิ้น ความคิดอันขมขื่นก็ผุดขึ้นมาในหัวของเธอ ใช่แล้ว... ฉันกับฟาเบียนได้ทานพิซซ่าด้วยกันครั้งล่าสุดที่นี่ แต่เมื่อนึกภาพชีวิตของเขาที่มีแต่อีเวตต์
ฮันน่าบ่นกับตัวเอง เธอนี่มันช่างน่าสมเพชจริงๆ ฮันน่า! ฟาเบียนเขาไม่ได้สนใจไยดีอะไรเธอเลยแม้แต่น้อย ยังจะแอบคิดถึงเขาอยู่อีก!
หึ ลืมเขาซะเถอะ! ฉันละปวดหัวจริงๆ
ความเหงากระจายท่วมท้นหัวใจของฮันน่าเมื่อเธอทานเสร็จ พิซซ่าไม่ได้ทำให้อารมณ์ดีขึ้นอย่างที่เธอคิดในตอนแรก น่าเศร้าที่ความแค้นยังคงเกาะกินหัวใจของเธอราวกับเชื้อโรคร้าย เนื่องจากเธอเลิกงานแล้วและไม่อยากรีบกลับบ้าน เธอจึงตัดสินใจไปชอปปิ้งแทน สุดท้ายแล้ว คนเราไม่ควรปล่อยให้ตัวเองจมอยู่กับความทุกข์ จริงไหม?
ฉันไม่จำเป็นต้องให้คุณรักมาฉัน ฟาเบียน ฉันจะรักตัวเองให้มากที่สุดก็พอ
ฮันน่าไม่ได้ออกไปเดินชอปปิ้งเลยตั้งแต่เธอกับฟาเบียนแต่งงานกัน เพราะเขามักมีสินค้ามาส่งถึงหน้าประตูบ้าน อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้แตกต่างออกไป เธอจับจ่ายซื้อของราวกับว่าได้ย้อนเวลากลับไปสมัยเป็นเด็กมัธยมที่คุ้ยของตามชั้นวาง กินไอติมแท่ง และเดินซื้อของจากร้านหนึ่งไปยังอีกร้านหนึ่งเพื่อซื้อเสื้อผ้าและเครื่องประดับที่เธอชอบ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ความรักสีคราม
สนุกมาก...