“ฮันน่า!” วินสันวิ่งไปหาเธอและยิ้มกว้าง หลังจากเห็นเธอมาถึง
“นายเยี่ยมที่สุดเลย วินสัน ไม่เหมือนใครบางคน” เธอเหลือบไปมองเฮเลนราวกับจะบอกว่าให้ดูตัวอย่างจากน้องชายของพวกเธอเอาไว้
พวกเขาพูดคุยกันเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้าไปในบ้านของแม่ การมาเยี่ยมครั้งก่อนล้มเหลวไม่เป็นท่า เพราะพวกเขาไม่ได้เตรียมตัวมา แต่เธอจะไม่ทำผิดแบบเดิมเป็นครั้งที่สอง ฮันน่าให้บางคนมาทำความสะอาดบ้านของแม่ไว้ก่อนแล้ว
“โอเค ผมเข้าใจแล้ว” ฟาเบียนวางสายและยิ้มแย้มซึ่งไม่ใช่อาการที่เขาแสดงออกบ่อยนัก เขาหยิบชุดสูทขึ้นมาจากเก้าอี้และพาดมันไว้บนแขนของตนก่อนจะออกไป
“ใช่ ถูกต้อง แล้วนายรู้เรื่องนั้นได้ยังไง?” เฮเลนเบิกตากว้างเห็นได้ชัดว่าเธอตกใจที่คนที่โทรมารู้บางอย่างที่พวกเขาไม่ควรรู้
“ทำไมล่ะ? ฉันไม่เจออะไรเลย มันต้องใช้ความพยายามมากนะ”
...
เฮเลนไม่สนใจคำตอบนั้นแต่อย่างใด “เลิกคุยโวสักที” เธอกลอกตาไปมา
ฮันน่าสงสัยว่าใครกันที่โทรมา แต่ดูจากท่าทีของเฮเลนเดาว่าคนที่โทรมาคงเป็นเจสัน
“ก็ได้ ก็ได้ รอฉันที่ทางเข้าเมืองแล้วกัน ฟาเบียนกับฉันจะไปที่นั่นทันที” และเจสันก็วางสายไป
เฮเลนกลืนน้ำลาย “เดี๋ยวนะ? ล้อกันเล่นหรือเปล่าเนี่ย?” เธอถามเจสัน แต่เขาได้วางสายไปก่อนแล้ว “นายวางสายใส่ฉันเหรอ? โอ้ นายโดนแน่” เธอกำโทรศัพท์แน่น
ฮันน่ายิ้มอย่างมีเลศนัยให้กับน้องสาว “เกิดอะไรขึ้น? เจสันว่าไง?”
“เอ่อ ฉันว่าฉันควรบอกเธอเรื่องนี้นะ” วินสันพูดอย่างเขินอาย
“ได้สิ นายไม่ต้องปิดบังอะไรจากฉันหรอก รู้ไหม ยังไงเราก็เป็นพี่น้องกัน” ฮันน่าเอ่ยตอบ
“โอเค” เขาพยักหน้าและเอ่ยต่อ “จริงๆ แล้ว ฉันนี่แหละที่บอกฟาเบียนเกี่ยวกับทริปนี้”
“อะไรนะ? นายบอกเขาเหรอ? ทำไมล่ะ?” ฮันน่าเกือบจะกระโดดด้วยความประหลาดใจ
“ฉันว่ามีเขาไปด้วยแล้วสนุกดีน่ะ” เขาตอบอย่างจริงใจ
งั้นเหรอ? เขาไม่จำเป็นต้องบอกฟาเบียนเรื่องนี้ก็ได้ ฟาเบียนติดสินบนเขาด้วยอะไรกันนะ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ความรักสีคราม
สนุกมาก...