“ได้ครับ” บ็อบตอบและพูดคุยกับแดเรียสเล็กน้อยก่อนออกมาจากห้อง อย่างน้อยปัญหานี้ก็มีคนดูแลต่อแล้วเขารู้สึกโล่งอก แต่ก็แปลกอยู่ที่วันนี้นโปเลียนจิ๋วที่ชอบตะคอกใส่ทุกคนทุกครั้งที่มีโอกาสกลับตกปากรับคำเขาง่ายเหลือเกินในวันนี้
แดเรียสยิ้มเยาะหลังจากบ็อบเดินออกไปจากห้องและหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายหาอีเวตต์ “นี่พี่เองนะ เรียบร้อยแล้วเธอรอดูได้เลย” แดเรียส วันเดอร์ คือลูกพี่ลูกน้องของอีเวตต์และเขาไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของบ็อบอยู่แล้ว
“เฮ้ นายใจลอยไปไหนน่ะ?” เฮเลนตบไหล่ของวินสันเมื่อเห็นว่าเขากำลังใจลอย
เจสันกระโดดด้วยความตกใจทำให้เธออดขำไม่ได้ “ฉันใจลอย เพราะไม่อยากจ้องหน้าตาอันขี้เหร่ของเธอ จนอ้วกน่ะสิ” เขาเอ่ยตอบ
“นายจะบอกว่าฉันขี้เหร่เหรอ? เกินไปแล้วนะ! ฉันน่ะสวยราวกับนางฟ้ารู้หรือเปล่า? นายควรภูมิใจที่มีฉันเป็นเพื่อนนะ” เธอทำหน้ามุ่ยและพึมพำกับตัวเอง
“พูดจริงเหรอ? ไม่ล่ะ ขอบคุณ”
ฮันน่าจอดรถของเธอแล้วดินมาหาพวกเขาและบอกกับฟาเบียนอย่างเขินอายว่า “ทำไมคุณถึงมาด้วยได้ล่ะเนี่ย?”
“ฟังเหมือนกับคุณไม่อยากให้ผมมาเลยนะ” เขายิ้มให้เธอ
“ฉันคิดว่าคุณน่าจะกำลังยุ่ง ก็เลย” เธอเอ่ยตอบเขา
เขายิ้มออกมาอย่างสดใสและมองเธอด้วยความสนใจ “คุณสำคัญกว่าอะไร คุณก็รู้นี่”
“นี่มันเป็นงานฝีมือเก่าแก่ที่งดงามมาก” ฟาเบียนเอ่ยชื่นชม
เก่าเหรอ? งั้นพวกนี้ก็มีราคาน่ะสิ นี่คือความคิดแรกที่ผุดเข้ามาในหัวของฮันน่า เดี๋ยวก่อนนะ ทำไมฉันถึงคิดแต่เรื่องเงินล่ะ? แม่ทิ้งบ้านไว้ให้ฉันอยู่นะ
เธอส่ายหัวและเดินเข้าไปด้านใน
“เฮ้ ฮันน่า ฉันนึกว่าแม่ไม่ให้เราปลูกต้นไม้ในสนามหญ้าซะอีก ทำไมถึงมีต้นไม้สองต้นตรงนั้นล่ะ?” เฮเลนประหลาดใจที่ได้เห็นต้นไม้หลายต้นในสนามหญ้า
“แม่ไม่ได้บอกแบบนั้นสักหน่อย ตั้งใจฟังสิ ให้ตายเถอะ แม่บอกว่าเราปลูกต้นไม้เพียงต้นเดียวไม่ได้ เราต้องปลูกมากกว่านั้น”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ความรักสีคราม
สนุกมาก...