ความรักสีคราม นิยาย บท 1368

ในขณะนั้น สีหน้าของเจสันเด็ดเดี่ยว ฟาเบียนไม่เคยเห็นเจสันจริงจังขนาดนี้มาก่อน

“นายรู้อะไรมา?” ฟาเบียนไม่สามารถระงับความอยากรู้อยากเห็นได้อีกต่อไป

“ลีน่ากำลังวางแผนบางอย่างเพื่อทำลายฮันน่าและวินสัน” เจสันกล่าว

“นายกำลังพูดเรื่องอะไร?”

ฉันคิดว่ามันยากที่จะเชื่อ เจสันรู้เรื่องนี้ได้ยังไง? แม้ว่าลีน่าจะเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดอีกคน แต่เธอก็ไม่ใช่คนโง่ ทำไมเธอถึงเสี่ยงที่จะตามล่าฮันน่าอีก? เธอต้องรู้ว่าตอนนี้ฉันดูแลฮันน่าไม่คลาดสายตา เธอจะไม่มีโอกาสได้ทำเช่นนั้นแน่

"มันเป็นเรื่องจริง ให้ผมพูดให้จบก่อน”

เจสันยืดตัวขึ้นและโน้มตัวเข้าหาฟาเบียน เขารู้ได้ว่าอีกฝ่ายยังคงไม่เชื่อในสิ่งที่เขาพูด “ฟาเบียน นับตั้งแต่อุบัติเหตุครั้งนั้น ผมก็สงสัยลีน่า ดังนั้นผมจึงร่วมมือกับเพื่อนอีกสองสามคนคอยจับตาดูลีน่า จนกระทั่งเช้าวันนี้สายลับคนหนึ่งของเราแจ้งข่าวมาว่าช่วงนี้ลีน่าได้จัดเตรียมสัญญา เนื้อหาในสัญญามีหลายหน้าที่ไม่ได้สำคัญอะไรแต่ส่วนสุดท้ายของสัญญาเป็นข้อตกลงการโอนหุ้น”

คำพูดของเจสันทำให้ฟาเบียนจับต้นชนปลายไม่ถูก สัญญา? แต่เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับฮันน่า? ฮันน่าไม่ได้มีหุ้นของแบล็กวูดกรุ๊ป แล้วเธอจะมีอันตรายได้ยังไง?

“นายกำลังจะบอกฉันว่าลีน่ากำลังพยายามจะเอาหุ้นของวินสันไป แต่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับฮันน่าใช่มั้ย?”

เจสันเห็นสีหน้าสับสนของฟาเบียน เขาจึงอธิบายต่อว่า “ใช่ สัญญานี้ไม่เกี่ยวข้องกับฮันน่า แต่ดูนี่นะ ตอนที่พวกเขาพิมพ์สัญญา พวกเขาพิมพ์เอกสารออกมาอีกฉบับ ซึ่งเอกสารฉบับนั้นเป็นข้อตกลงเกี่ยวกับการซื้อขายอาวุธปืน”

"ฮะ? เธอคิดว่าเธอจะให้ร้ายใครก็ได้อย่างนั้นเหรอ?” ความกังวลของฟาเบียนลดลงเล็กน้อยหลังจากที่เขารู้ว่าพวกเขาไม่ได้ต้องการเอาชีวิตของฮันน่า

นี่มันเรื่องตลกอะไรกัน เธอคิดว่าตำรวจทุกคนในประเทศโง่เหรอ?

“แน่นอนว่าเธอมีแผนการ จากที่ผมได้ยินมา แบล็กวูดกรุ๊ปจะเปิดตัวนโยบายใหม่ในวันพรุ่งนี้ เป็นเรื่องเกี่ยวกับผลประโยชน์สำหรับพนักงานอาวุโสซึ่งถูกพูดถึงไปทั่วว่าเป็นรายแรกในอุตสาหกรรมประเภทนี้ ฮันน่าได้รับเชิญให้ทำการสัมภาษณ์ มีขั้นตอนที่จะต้องให้เธอลงนามเป็นพยาน ถ้าพวกเขาได้ลายเซ็นต์ของฮันน่าไป พวกเขาก็จะสามารถนำไปใช้ได้”

ในขณะนั้น หัวใจของฟาเบียนเต็มไปด้วยความโกรธเคืองในตัวลีน่า คุณกล้าดียังไงมาวางแผนใส่ร้ายฮันน่า! ถ้าฮันน่าเซ็นต์เอกสารเหล่านั้น แม้แต่ฉันซึ่งเป็นประธานของฟีนิกซ์กรุ๊ปก็ไม่สามารถช่วยเธอได้ ตอนนั้นมันคงจะสายเกินไปแล้ว

“ฟาเบียน ทั้งหมดที่ผมจะพูดมีเท่านี้ ผมรู้ว่าคุณยุ่ง ดังนั้นผมจะออกไปแล้ว ส่วนเรื่องนี้ผมให้คุณเป็นคนตัดสินใจ” เจสันคิดว่าเขาควรให้ฟาเบียนได้อยู่กับตัวเองเพื่อคิดทบทวนเรื่องราวต่างๆ