ไม่นานนักลีน่าก็เดินออกมาจากอาคาร เธอแหงนหน้ามองตึกสูงตระหง่านด้วยแววตาที่เปี่ยมไปด้วยความชื่นชมขณะนั่งอยู่ในรถ ก่อนที่จะโพล่งหัวเราะออกมาดังลั่นเมื่อคิดว่าเธอกำลังจะได้ครอบครองตึกแห่งนี้ในเร็ววัน
พนักงานชายที่ลีน่ามอบหมายให้นำเอาสัญญาไปส่งยกยิ้มขึ้นอย่างพอใจหลังจากที่เห็นหญิงสาวนั่งรถออกไป เขาเดินไปยังสวนหย่อมหน้าบริษัทก่อนที่จะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาใครบางคน
“สวัสดีครับคุณเจสัน ตอนนี้เอกสารอยู่กับผมแล้ว จะให้ผมเอาไปให้เลยไหมครับ?”
“อืม นายแวะมาที่ฟีนิกซ์กรุ๊ปแล้วกัน ฉันจะลงไปรอที่ชั้นล่าง” เจสันตอบกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“โอเคครับ ผมจะเอาไปให้เดี๋ยวนี้เลย”
หลังจากวางสายใจชายหนุ่มรู้สึกร้อนวูบวาบขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น
“ฮ่าฮ่าฮ่า ฉันนี่มันฉลาดจริงๆ! ไม่เสียแรงที่ทำงานให้ฟาเบียนมาเนิ่นนานแถมยังได้เรียนรู้วิธีจับเสือมือเปล่าอีกต่างหาก อย่างนี้ต้องรีบลงไปเอาเอกสารแล้วสิ อยากรู้จังว่าหลังจากฟาเบียนได้รับเอกสารนี้ ฉันจะได้อะไรเป็นการตอบแทนกันนะ” ชายหนุ่มพึมพำออกมาคนเดียว
เจสันตื่นเต้นจนคิดอะไรต่างๆ นานาในหัวพลางยิ้มกว้างออกมา
ทางด้านเวนน์เดินไปรอบๆ ห้องทำงานอย่างครุ่นคิด เขาคิดไม่ตกว่าควรจะกลับลำตอนนี้เสียดีไหม? ชายหนุ่มกังวลว่าจะตกที่นั่งลำบากเอาได้หากยังคงทำตามคำขอของลีน่าที่ให้ไปทำร้ายเจ้านาย แต่ฉันก็ไม่มีทางเลือก อย่างไรหากเพื่อนคุณฟาเบียนคนใดคนหนึ่งรู้เข้าพวกนั้นก็จะเล่นงานฉันอยู่ดี
แต่…บางทีคุณฟาเบียนอาจจะให้อภัยถ้าฉันยอมสารภาพและเปลี่ยนใจตอนนี้? หึ ไม่มีทาง ฉันรู้จักคุณฟาเบียนดีว่าเขาต้องเอาฉันตายแน่
“ช่างเถอะ อะไรจะเกิดก็เกิด! ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วทำให้สุดไปเลยแล้วกัน! ถ้าทุกอย่างจบลงเมื่อไหร่ก็ค่อยบินหนีไปอยู่ต่างประเทศก็ได้หนิ โลกก็ตั้งกว้างใหญ่ไพศาล อย่างไรก็ต้องมีสักที่ที่สามารถซ่อนตัวจากคุณฟาเบียนได้บ้างล่ะน่า”
เวนน์พึมพำอย่างให้กำลังใจตัวเองฮึดที่จะทำสิ่งชั่วร้ายต่อไป
ไม่นาน เขาจึงเดินออกจากห้องทำงานเพื่อชะโงกหน้าดูให้แน่ใจว่าไม่มีใครอยู่รอบๆ ก่อนที่กลับเข้ามาในห้องอีกครั้งโดยไม่ลืมที่จะล็อคประตู
เวนน์หายใจเข้าเฮือกใหญ่ก่อนที่จะตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาลีน่า
ตู๊ด! ตู๊ด! ตู๊ด!
ก็อกๆ!
ทันใดนั้น เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
เวนน์รู้สึกตกใจเป็นอย่างมากจึงเผลอผงะเดินถอยหลังไปสองสามก้าวก่อนที่จะมองไปที่ประตู
ใครมา?
เวนน์ตัวสั่นเล็กน้อยเมื่อเห็นเจ้านายยกยิ้มให้ จึงรีบตอบกลับในทันทีเพื่อไม่ให้มีพิรุธ “ได้สิครับ คุณมีสิทธิ์เต็มที่อยู่แล้ว!”
ได้ยินดังนั้นฟาเบียนจึงเดินเข้าไปตบไหล่เวนน์เบาๆ ก่อนจะตั้งคำถามต่อเมื่อเห็นความผิดปกติบางอย่างของชายตรงหน้า “แล้วนี่เป็นอะไรไปล่ะ? ไม่สบายหรือเปล่า? ทำไมเหงื่อนายออกเยอะขนาดนี้?”
เวนน์จึงรีบเช็ดเหงื่อบนหน้าผากอย่างลนลานทันทีเมื่อได้ยินเจ้านายทักถามก่อนที่จะหันไปตอบด้วยท่าทีปกติ “ผมสบายดีครับ ไม่เป็นอะไร”
“ฮ่าฮ่า”
ฟาเบียนโพล่งหัวเราะออกมาทันที ก่อนที่จะเดินไปยังโต๊ะทำงานของเจ้าของห้องและทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ในที่สุด “หรือที่เหงื่อออกขนาดนั้นเป็นเพราะนายไปทำเรื่องไม่ดีอะไรไว้แล้วเกิดรู้สึกผิดขึ้นมาหรือเปล่า?”
“มะ-ไม่ใช่นะครับ ผมแค่รู้สึกร้อนเฉยๆ” เวนน์ยังคงยืนกรานในคำตอบ แต่โชคไม่ดีเท่าไหร่ที่น้ำเสียงเขาฟังดูสั่นเครือจนเป็นที่สังเกตได้
ฟาเบียนนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งขณะครุ่นคิดอะไรบางอย่างในหัว
คุณคิดว่าผมโง่มากงั้นเหรอ?
ไม่ว่าจะคิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออกว่าทำไมหมอนี่ถึงมาหักหลังผมแบบนี้? ทั้งๆ ที่ผ่านมาผมเป็นคนสอนงานให้และช่วยเหลือผลักดันทุกอย่างจนเขามีทุกวันนี้ได้ แล้วทำไมถึงกล้าทำเรื่องเช่นนี้ลงในตอนนี้ฟีนิกซ์กรุ๊ปเติบโตมาได้ขนาดนี้?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ความรักสีคราม
สนุกมาก...