หัวใจของวิเวียนเต้นไม่เป็นจังหวะ
ทั้งหมดที่เธอทำได้คือเออออเห็นด้วยกับซาร่าห์พลางหัวเราะกระอักกระอ่วน "มันไม่มีอะไรหรอก เขาไม่ได้ทำอะไรมาก มันเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับเขา อย่าคาดหวังจากเขามากเกินไปนักเลย"
ซาร่าห์พูดต่อ "ฉันไม่สนใจหรอก เขาเป็นผู้กอบกู้บริษัทของเรา วิเวียน คราวนี้เธอต้องพาสามีของเธอมาเที่ยวกับบริษัทนะ พวกเราต้องขอบคุณในสิ่งที่เขาทำ เขาคือผู้ช่วยชีวิตตัวจริง ฉันพูดถูกไหม ทุกคน"
"ถูกต้องชัดเจน" ทุกคนเห็นด้วยกับข้อเสนอของซาร่าห์
แชนนอนนั่งลง เธอหงุดหงิดและกำลังขุ่นเคือง เธอคิด ใช่ ใช่ พลางคลี่ยิ้มออกมา เธอข้ามหัวภรรยาของหัวหน้าบ.ก.ไปแล้ว ดูเหมือนว่าแอชลีย์คือคนที่เธอไม่ควรข้ามหน้าข้ามตานะ มาคอยดูกันสิว่าเธอจะมีความสุขไปได้อีกนานแค่ไหน วิเวียน
ทุกคนในบริษัทต่างกระตือรือร้นที่จะได้เจอสามีของวิเวียน
อย่างไรก็ตาม วิเวียนและฟินนิคยังคงเมินเฉยต่อกัน เธอหัวตื้อตันไปหมด เธอคิดไม่ออกว่าควรจะตอบเขาไปว่าอะไรดี
เธอรู้สึกขัดแย้งในใจ
เธอยังคงโกรธฟินนิคและเธอไม่อยากพาเขามาเที่ยวกับบริษัท แต่ถ้าเธอไม่พาเขามา ทุกคนคงเริ่มสงสัยในตัวเธอ
แต่ถ้าเธอพามาเขามา ทุกคนก็จะรู้ว่าสามีของเธอคือฟินนิค นอร์ตัน ประธานคนดังของฟินเนอร์กรุ๊ป อย่างหลังนี่เลวร้ายยิ่งกว่า
วิเวียนแกล้งทำเป็นนึกอะไรขึ้นมาได้ในทันที เธอบอกกับซาร่าห์ว่า "ซาร่าห์ ฉันวางกระเป๋าทิ้งไว้ที่ชั้นล่าง ฉันขอลงไปเอากระเป๋านะ ช่วยรับโทรศัพท์ให้ฉันหน่อยสักแปบนึง"
หลังจากนั้น วิเวียนเดินหน้าแดงก่ำออกจากบริษัทไปด้วยความอับอาย
เพื่อนร่วมงานของเธอเริ่มถกเถียงกัน พวกเขาสงสัยกันว่าถ้าสามีของเธอหน้าตาอัปลักษณ์ และถ้านั่นคือเหตุผลที่เธออับอายเกินกว่าจะพาสามีมาด้วยกันล่ะ พวกเขาสงสัยแม้กระทั่งว่าเธออาจจะไม่มีสามีจริงๆก็ได้ ไม่แน่ว่ามันอาจจะเป็นรักต้องห้ามหรือไม่ก็เป็นแค่เพื่อนเก่ากัน แล้วถ้าอย่างนั้นทำไมคนๆนั้นถึงช่วยเธอเอาไว้ คนนั้นอาจจะถึงคราวเคราะห์ก็ได้ ถ้าฟินนิครู้เรื่องเข้า ชีวิตของพวกเขาจบเห่แน่นอน
ตอนนั้นเอง แชนนอนเติมเชื้อไฟให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปอีก "ดูแหวนราคาถูกบนนิ้วของเธอสิ แล้วพวกเธอจะรู้ว่าสามีของหล่อนเป็นคนแบบไหนกัน เขาต้องไม่ใช่คนสลักสำคัญอะไร เขาคงเป็นแค่พนักงานต๊อกต๋อยในฟินเนอร์กรุ๊ป ไม่เคยมีใครโอ้อวดสรรพคุณของเขาเลยสักครั้ง ทำไมพวกเราถึงจำเป็นต้องมาคิดเรื่องนี้กันด้วย"
เจนนี่ทนฟังต่อไปไม่ไหว เธอพูดอย่างฉุนเฉียวว่า "แชนนอน เธอรู้อะไรไหม เธอเป็นคนเดียวที่พูดดูถูกคนอื่นลับหลัง เป็นคนดีกว่านี้ไม่ได้รึไง ทำไมถึงพูดให้ร้ายสามีคนอื่นแบบนั้น"
วิเวียนไม่รู้จะพูดอะไรกับฟินนิคเมื่อเธอเห็นเขา
หลังจากที่เมินเฉยใส่กันและกันมาสักพัก ทั้งคู่ต่างเบื่อที่มัวแต่คิดหาทางคืนดี แต่นั่นแหละ พวกเขาทะนงตนเกินกว่าที่จะเป็นฝ่ายขอโทษก่อน
ฟินนิคคว้าจดหมายเชิญพลางใช้ความคิด บางทีนี่อาจจะเป็นโอกาสดีที่ฉันจะได้แก้ไขความสัมพันธ์ของเรา
วิเวียนเมินใส่เขานานหลายวันแล้ว และเขาเองก็เหงา รอยยิ้มหายไปจากใบหน้าของเขาและเขาก็เอาแต่หน้านิ่วคิ้วขมวด เห็นได้ชัดเลยว่าเขาเจ็บปวดจากความเฉยชาที่มีให้กัน
ฟินนิคยื่นจดหมายเชิญให้วิเวียนแล้วกระซิบว่า "วิเวียน นี่เป็นจดหมายเชิญไปงานประมูลการกุศล ไปด้วยกันนะ"
วิเวียนรับจดหมายเชิญเอาไว้แต่ไม่ได้ชายตามองมันเลย
เธอยังให้อภัยเขาไม่ได้เพราะเธอโกรธอยู่ เธอโกรธที่ฟินนิคแกล้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาไม่สนใจความรู้สึกของฉันเลยสักนิด เขาไม่คิดเลยด้วยซ้ำว่าแผลเป็นในใจฉันมันยังไม่หายดี
เธอตอบว่า "ฉันไม่เคยไปงานประมูลการกุศลที่หรูหราขนาดนี้มาก่อน ฉันเกรงว่าฉันจะทำให้เราทั้งคู่ต้องขายขี้หน้า"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ความรักสีคราม
สนุกมาก...