วิเวียนกลับไปที่บริษัทนิตยสาร
ไม่รู้ว่าทำไมคำพูดของเบเนดิกต์สะกิดใจเธอ และเธอตั้งใจแน่วแน่ที่จะหาให้เจอว่าเขาหมายถึงอะไร
เนื่องจากเจนนี่ทำงานที่บริษัทนิตยสารมานานที่สุด วิเวียนจึงตัดสินใจถามเธอเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อน
เจนนี่ครุ่นคิดเกี่ยวกับสิ่งที่เธอถามอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพลิกดูสมุดบันทึกในปีนั้นของเธอ
ในที่สุด เธอก็ตอบว่า “เมื่อ 10 ปีที่แล้วธุรกิจของตระกูลมอร์ริสันเจอวิกฤตหนักอย่างที่ไม่เคยเจอมาก่อน บริษัทขนาดใหญ่หลายแห่งรวมตัวกันเพื่อโค่นล้มธุรกิจของพวกเขา สิ่งต่างๆเลวร้ายลงจนถึงขนาดที่ธุรกิจของกลุ่มมอร์ริสันใกล้จะถูกกลุ่มธุรกิจเหล่านั้นซื้อกิจการไป ตั้งแต่ตระกูลขนาดใหญ่ 3 ตระกูลในเมืองซันไชน์รวมตัวกันเหตุการณ์นี้เป็นเหตุการณ์ที่ทำให้ทุกคนตกใจอกสั่นขวัญแขวน หากหนึ่งในนั้นประสบความสำเร็จตระกูลอื่นก็จะประสบความสำเร็จ ในทางกลับกันก็เช่นเดียวกัน ไม่ต้องพูดถึงว่าตระกูลแจ๊คสันและตระกูลนอร์ตันต่างก็ตื่นตระหนกกับสิ่งที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม พวกเขากลับไม่ได้ช่วยเหลือตระกูลมอร์ริสันอย่างจริงจังแต่พวกเขากลับยืนดูอยู่เฉยๆ”
วิเวียนห้ามตัวเองไม่ได้และพูดขัดขึ้นว่า “ทำไมพวกเขาไม่ช่วยพวกมอร์ริสันล่ะ ฉันคิดว่าตระกูลของพวกเขาเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันเสียอีก”
“ช่าย ในสถานการณ์ปกติพวกเขาคงจะช่วยพวกมอร์ริสันล่ะนะ แน่นอนว่าพวกเขาไม่ต้องการให้พวกมอร์ริสันล่มสลายหรอก โชคไม่ดีที่ปีนั้นเป็นปีที่แย่สำหรับทุกคน พวกเขาก็ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลกเช่นเดียวกัน นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเขาทำได้แค่เฝ้าดูอย่างช่วยไม่ได้จากข้างสนามเท่านั้น”
วิเวียนตั้งใจฟังเมื่อเจนนี่อธิบายทุกอย่างให้เธอรู้
“มันยังไม่จบแค่นั้นนะ”
“มีอะไรมากกว่านั้นอีกเหรอ”
“อืม สิ่งที่ฉันกำลังจะบอกเธออาจจะไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการยึดครองกิจการกลุ่มมอร์ริสัน แต่อีฟเวลิน มอร์ริสันก็ถูกลักพาตัวไปในช่วงเวลานั้นเช่นกัน พวกมอร์ริสันที่น่าสงสาร พวกเขาแทบไม่ได้หยุดพัก”
ดังนั้นสิ่งเหล่านี้อาจเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อการลักพาตัวเมื่อหลายปีก่อนสินะ
“ในตอนนั้น ฟินนิคและอีฟเวลินก็…” เจนนี่เว้นวรรค ไม่แน่ใจว่าเธอควรบอกวิเวียนเพิ่มเติมเกี่ยวกับการลักพาตัวหรือไม่
วิเวียนกระตุ้นเธอว่า “ไม่เป็นไรเจนนี่พูดต่อเถอะ ฟินนิคบอกฉันเรื่องที่พวกเขาถูกลักพาตัวแล้ว”
เจนนี่ผ่อนคลายขึ้นและเล่าต่อ “โชคดีที่ตระกูลนอร์ตันตัดสินใจเข้ามายุ่งเกี่ยว ถึงแม้ว่าอีฟเวลิน มอร์ริสันจะเสียชีวิตในเหตุไฟไหม้ครั้งนั้น แต่ตระกูลมอร์ริสันก็ได้รับความช่วยเหลือจากตระกูลนอร์ตันและก้าวผ่านช่วง เวลาที่ยากลำบากมาได้ ไม่เช่นนั้นตระกูลมอร์ริสันก็คงถูกทำลายไปแล้ว”
ใช่แล้ว แต่ถึงแม้จะได้รับความช่วยเหลือจากตระกูลนอร์ตันแต่ตระกูลมอร์ริสันก็ตกต่ำลง ตอนนี้ทุกคนดูถูกพวกเขา ทำราวกับพวกเขาเป็นแค่อดีตเท่านั้น
อย่างไรก็ตามวิเวียนรู้สึกได้ว่าถ้าหากเบเนดิกต์บริหารจัดการบริษัทได้เป็นอย่างดี ตระกูลมอร์ริสันจะกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง
ทันทีที่ได้ยินวิเวียนตกตะลึงและงงงวย มาร์คเนี่ยนะ มาร์คเป็นคนช่วยพวกมอร์ริสันเหรอ
ก่อนที่วิเวียนจะคิดอะไรไปมากกว่านี้ จู่ๆท้องของเธอก็ปั่นป่วนและความรู้สึกคลื่นไส้ก็พลุ่งพล่านขึ้นมา
เจนนี่ตื่นตระหนกเมื่อสังเกตเห็นใบหน้าวิเวียนเปลี่ยนเป็นสีเขียว เธอร้องขึ้นว่า “เป็นอะไรไปวิเวียน ทำไมเธอดูแย่จัง”
วิเวียนเอามือปิดปากแล้วโบกมืออีกข้างหนึ่งให้เจนนี่ก่อนจะรีบวิ่งไปห้องน้ำ เมื่อเข้าไปในห้องน้ำได้เธอก็เริ่มอาเจียนทันที
ซาร่าห์รีบเข้ามาถามเจนนี่อย่างลนลานว่าเกิดอะไรขึ้น
ฝ่ายหลังตอบว่า “ไม่รู้เหมือนกัน เธอดูเหมือนอยากจะอาเจียนนะ”
“เธออยากจะอาเจียนอย่างนั้นเหรอ” ซาร่าห์ครุ่นคิดก่อนจะนึกขึ้นได้ เธอตะโกน “คิดว่าเธอท้องหรือเปล่า”
เมื่อได้ยินคำว่า “ท้อง” เสียงพึมพำก็ดังขึ้นทั้งสำนักงาน
ใครก็ตามที่ทำงานในบริษัทนิตยสารมักจะไวต่อการรับรู้เมื่อต้องการค้นหาข้อมูลบางอย่าง โดยธรรมชาติแล้วพวกเขาค่อนข้างสอดรู้สอดเห็นและชอบนินทา สถานะปัจจุบันของวิเวียนในฐานะคุณนายนอร์ตันเป็นเพียงการทำให้ข่าวน่าตื่นเต้นยิ่งขึ้นเท่านั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ความรักสีคราม
สนุกมาก...