ความคิดนั้นเองเหมือนลมโหมใส่ใบเรือของเธอและเธอก็วิ่งฉิวราวกับไม่เคยวิ่งมาก่อน วิเวียนคิดไม่ออกเลยว่าต้องวิ่งไปอีกนานแค่ไหนแต่ดูเหมือนเธอจะสลัดพวกเขาหลุดแล้วในที่สุด
เธอค้อมตัวและหายใจลึกๆ ช้าๆ เธอเหลือบมองข้ามไหล่ตัวเองเป็นพักๆ หลังจากที่เธอมั่นใจว่าหนีพวกเขาพ้นแล้วในที่สุดเธอจึงค่อยผ่อนคลายลง
ทันทีที่เธอหายเหนื่อยวิเวียนหยิบโทรศัพท์ออกมาด้วยความตั้งใจที่จะโทรหาฟินนิคเพื่อถามว่าเขาจะอธิบายได้ไหมว่าทำไมถึงทำอย่างนั้น
ดวงตาของเธอลุกเป็นไฟด้วยความโกรธเมื่อเธอกดหมายเลขของเขาขณะที่เธอครุ่นคิดอยู่ในใจว่าเธอจะด่าว่าเขายังไงดี เขาทำเกินไปแล้วและคราวนี้เขาจะหวังให้เธอยกโทษให้ไม่ได้
ด้วยเหตุผลบางอย่างไม่มีใครรับสายหลังจากรออยู่นาน วิเวียนจึงยกเลิกการโทรและลองโทรใหม่อีกหลายครั้งแต่ก็ได้ผลแบบเดิม
ตอนนี้เขาไม่ยอมรับสายเธอเหรอ วิเวียนยับยั้งตัวเองไม่ให้เหวี่ยงโทรศัพท์ของเธอทิ้ง เมื่อเธอคิดถึงเรื่องนี้เธอเดาว่าเขาต้องไปแล้วและซ่อนตัวหลังจากโนอาห์รายงานว่าเธอหนีไปได้
เธอยืนอยู่ข้างถนนเพื่อสงบจิตสงบใจลงก่อนจะเรียกแท็กซี่
ถึงยังไงเขาก็ต้องกลับบ้านจนได้และเมื่อเขาทำอย่างนั้นเธอจะรออยู่ตรงนั้น คราวนี้เธอจะตอกย้ำกับเขาว่าทั้งคู่จะต้องหย่ากันถ้าเขายอมรับเด็กไม่ได้ ไม่จำเป็นต้องอาศัยวิธีต่ำช้าสามานย์เหล่านี้อีกต่อไป
วิเวียนไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนักเรื่องบาดแผลที่ขาของเธอระหว่างการหลบหนี เธอรีบมุ่งหน้าไปบ้านและทันทีที่เธอไปถึง ด้วยความพยายามที่จะเผชิญหน้ากับเขาซึ่งน่าจะถึงบ้านแล้ว
แต่นึกไม่ถึงว่าเมื่อเปิดประตูเธอกลับพบรองเท้าส้นสูงคู่หนึ่ง มันดูคุ้นตาเอามากๆ เธอทบทวนความทรงจำของตัวเองและนึกออกว่าเคยเห็นอีฟเวลินสวมรองเท้าแบบนี้
อีฟเวลินอยู่ในบ้านเหรอ เธอมาทำอะไรที่นี่
วิเวียนก้าวยาวๆ ผ่านประตูไปอย่างประหลาดใจ ภาพที่เห็นทำให้เธอยืนนิ่งไม่ไหวติง
เธอเห็นภาพหลอนเหรอ อะไรที่ทิ้งกระจัดจายทั่วพื้นห้องน่ะ สายตาของวิเวียนตามร่องรอยที่เกิดจากถุงน่อง กางเกงขาสั้น กระโปรงท่ามกลางบรรดาเสื้อผ้าอาภรณ์ที่ไปจบลงตรงชุดชั้นในผู้หญิงบางชิ้นบนบันไดใกล้กับห้องนอน
เสื้อผ้าพวกนี้คืออะไร ของอีฟเวลินเหรอ ฟินนิคอยู่ไหน
เธอรู้สึกว่าร่างกายของเธอสั่นระริกเมื่อเธอเชิดหน้าเดินไปยังห้องนอนบนชั้นสอง ฟินนิคกับอีฟเวลินกำลังอยู่ด้วยกันในนั้นเหรอ เธอไม่อยากจะคิดแบบนี้แต่อดไม่ได้ที่จะคิดไปในทางร้าย
เธอลากสังขารไปยังห้องนอนอย่างยากลำบาก กว่าจะก้าวเท้าได้แต่ละก้าววิเวียนไม่เคยรู้สึกว่าการเดินของเธอจะหนักอึ้งแบบนี้มาก่อนเลย
ขณะที่เธอขยับใกล้เข้าไปมากขึ้นเรื่อยๆ เธอก็ได้ยินเสียงอู้อี้เล็ดลอดออกมาจากข้างใน เธอยังไม่อยากจะเข้าไปใกล้กว่านั้น จิตใต้สำนึกกรีดร้องให้เธอหันหลังกลับไป เธอขนลุกเมื่อนึกภาพว่าเธอจะตอบโต้ยังไงดีถ้าเธอเห็นพวกเขาอยู่ในนั้นจริงๆ
ดูเหมือนขาของเธอจะไม่ยอมเชื่อฟังเธอขณะที่มันพาเธอเข้าไปใกล้ห้องนอนทั้งๆ ที่เธอไม่อยากเลย
ในที่สุดเมื่อเธออยู่ตรงหน้าประตูเธอพบว่ามันแง้มอยู่ เสียงครวญครางอย่างเร้าอารมณ์ของหญิงคนหนึ่งสอดประสานกับเสียงคำรามแหบห้าวของชายคนหนึ่งดังเข้าหูของเธออย่างชัดเจน
“ฮะฮะ...คุณเก่งจังเลยฟินนิค...อ๊า อา...อย่า...หยุด...ฟินนิค...” เสียงผู้หญิงเหมือนเข็มทิ่มแทงหัวใจของวิเวียน เสียงที่คุ้นหูนั่นคือเสียงของอีฟเวลินใช่ไหม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ความรักสีคราม
สนุกมาก...