“ถ้าอย่างนั้น ฉันขอตัวไปจัดการงานเอกสารให้เรียบร้อยระหว่างเธอเตรียมตัวก็แล้วกัน ส่วนเอกสารชุดนี้” เบเนดิกต์ยื่นเอกสารสัญญาการหย่าร้างให้วิเวียน “ฉันว่าเธอเป็นคนเก็บไว้ดีกว่า”
เบเนดิกต์กอดวิเวียนเบาๆ ก่อนออกจากบ้านไป เขารู้ว่าเธอต้องการพื้นที่ส่วนตัวบ้างเหมือนกัน
ขณะที่มองดูเอกสารสัญญาการหย่าร้างในมือ วิเวียนก็หวนนึกถึงวันที่เธอเจอฟินนิคกับอีฟเวลิน ยิ่งคิดเธอก็ยิ่งเกลียดฟินนิคมากขึ้น
ให้มันจบลงตรงนี้นี่แหละ ถ้าเราเจอกันอีกต่อจากนี้ก็ถือซะว่าไม่เคยรู้จักกัน
ห้าปีต่อมา ที่สนามบินของเมืองซันไชน์ หญิงสาวเจ้าเสน่ห์คนหนึ่งกำลังเดินตรงไปที่ทางออก เธอมีเรือนผมเงาวับและสวมแว่นกันแดดอันโตที่ปกปิดถึงหนึ่งในสามของใบหน้า เครื่องหน้าที่ไม่ได้ถูกปิดบังไว้มีเพียงจมูกสวยได้รูปและริมฝีปากสีแดงสด
เธอสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวและกางเกงขายาวสีดำตัวหลวม ชุดนี้เข้าคู่กันอย่างลงตัวบนเรือนร่างของเธอ แม้จะเป็นแนวการแต่งตัวที่ธรรมดา แต่หญิงสาวที่สวมใส่ชุดนั้นกลับดูโดดเด่นยิ่งนัก
นอกเหนือไปจากนั้น รองเท้าส้นสูงสีน้ำเงินเข้มของเธอยังบ่งบอกถึงรสนิยมการแต่งตัวที่โดดเด่นได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น เธอทำให้ผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาเห็นแล้วรู้สึกถึงความงามที่ทั้งเท่และมีระดับในเวลาเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม คนที่เดินผ่านเธอไปนั้นรู้สึกผิดหวังเมื่อสังเกตเห็นว่าเธอเดินเคียงข้างมาพร้อมกับเด็กชายตัวน้อย พวกเขาจึงคาดเดาว่าเธอคงมีเจ้าของแล้ว
เด็กชายคนนั้นน่ารักมากซึ่งแตกต่างจากความสวยเท่ของหญิงสาว
ผิวขาวๆ ของเด็กชาย รวมไปถึงองค์ประกอบบนใบหน้าที่งดงามนั้นทำให้เขาดูน่ารักน่าเอ็นดูเป็นอย่างมาก ดวงตากลมโตของเขากำลังสอดส่องสิ่งต่างๆ รอบตัวอย่างสนอกสนใจ ดวงตาคู่นั้นของเขาช่างดูบริสุทธิ์และใสซื่อราวกับว่าไม่เคยแปดเปื้อนมาก่อนเลย
หากมีใครมาสบตากับเขา เด็กชายตัวน้อยก็จะยิ้มแฉ่งออกมาซึ่งเผยให้เห็นฟันขาวราวกับไข่มุกที่แลดูน่าอิจฉา นักท่องเที่ยวหลายคนตกเป็นเหยื่อรอยยิ้มอันสดใสของเขา
“แม่ครับ คนอื่นจ้องผมเพราะว่าผมหน้าตาดีหรือเปล่าครับ” เด็กชายถามอย่างลำพองใจขณะที่ยังคงรักษารอยยิ้มน่ารักน่าเอ็นดูเอาไว้บนใบหน้า
หญิงสาวพูดไม่ออกไปชั่วขณะ แม้ว่าลูกชายของเธอจะเป็นเด็กดีที่เพียบพร้อมในทุกเรื่อง แต่ก็มีข้อเสียคือเป็นเด็กที่ค่อนข้างหลงตัวเอง ฉันสงสัยว่าเขาไปได้นิสัยแบบนี้มาจากใครกัน เพราะว่าไม่ได้มาจากฉันแน่ๆ ฉันเองไม่ได้มองตัวเองดีเด่อะไรขนาดนั้น
หลังจากออกมาจากสนามบินแล้ว หญิงสาวก็รู้สึกประหลาดใจกับทิวทัศน์เบื้องหน้าที่ดูคุ้นเคยแต่กลับแปลกตาไป เวลาผ่านมาได้ห้าปีแล้วตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่เธอเหยียบเท้าเข้ามาในเมืองที่เต็มไปด้วยความหลังอันแสนเศร้า
หญิงคนนี้เป็นใครอื่นไปไม่ได้นอกจาก วิเวียน วิลเลี่ยม ผู้ที่จากเมืองนี้ไปเมื่อห้าปีก่อน ตอนนี้เธอได้เปลี่ยนชื่อเป็น วิเวียน มอร์ริสัน
เด็กชายข้างกายเธอนั้นก็คือลูกชายของเธอเองที่มีชื่อว่าแลร์รี่ มอร์ริสัน และชื่อเล่นของเขาคือ เจ้าชายตัวน้อย เขาเป็นเด็กที่มีจินตนาการสูงและฉลาดหลักแหลมมาตั้งแต่เล็กๆ เขามีความฉลาดทางด้านอารมณ์และด้านสติปัญญามากเกินวัยของเขาเอง
ทีแรกวิเวียนไม่เคยมีความคิดที่จะกลับมาเมืองนี้เลยสักนิด แต่เมื่อครอบครัวมอร์ริสันกำลังประสบปัญหากับหุ้นส่วนจากบริษัทหนึ่งในเครือ เธอก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากกลับมาที่นี่พร้อมกับเบเนดิกต์เพื่อช่วยเขาแก้ไขปัญหานี้
เพราะปัญหานี้เป็นเรื่องที่เร่งด่วนมาก เบเนดิกต์จึงส่งเธอกลับมาก่อน
เมืองนี้เปลี่ยนไปมากในระยะเวลาห้าปีที่ผ่านมา เว้นแต่พวกตึกใหญ่ๆ วิเวียนแทบจำตึกรามบ้านช่องรอบๆ ไม่ได้เลยเพราะมีหลายตึกถูกปรับปรุงใหม่เป็นจำนวนมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ความรักสีคราม
สนุกมาก...