“วิเวียน คอยดูเถอะ ฉันจะกลับมาแก้แค้น เรายังไม่หมดธุระกันหรอกนะ และเราจะได้รู้กันว่าใครจะเป็นคนหัวเราะในตอนท้าย” อีฟเวลินพึมพำขณะที่กัดอาหารเข้าปาก
ฟังดูเหมือนเธอกำลังให้คำสัตย์สาบานว่าจะเป็นศัตรูกับวิเวียน
หลังจากกินเสร็จแล้ว อีฟเวลินก็คิดแผนการทำร้ายวิเวียนอีกครั้งในขณะที่เธอเข็นตัวเองเข้าไปในตรอกร้างแคบๆ โดยไม่รู้ตัว
ขณะที่เธอกำลังจะเลี้ยวออกจากตรอก เธอก็ได้ยินเสียงของชายสองสามคนดังขึ้นมา
เสียงของพวกเขาเต็มไปด้วยความหยาบคายและความคึกคะนองซึ่งทำให้อีฟเวลินรู้สึกขยะแขยง เสียงเหล่านั้นฟังดูแย่กว่ามากเมื่อเทียบกับเสียงของฟินนิค
นั่นเป็นสิ่งที่อีฟเวลินคิด
แต่ในทันทีทันใด อีฟเวลินก็ตระหนักได้ถึงสถานการณ์ที่เธอกำลังเผชิญอยู่
ในตอนนั้น เธออยู่ลำพังในตรอกเปลี่ยวแคบๆ กับผู้ชายแข็งแรงหลายคนที่ยืนขวางทางอยู่ พวกเขามาเพื่อเงินและร่างกายของเธอ
ไม่ว่าทางไหน อีฟเวลินก็ไม่มีวันหนีรอดไปได้
เธอนำเงินติดตัวมาด้วยเพื่อใช้ซื้อตั๋วเครื่องบิน เธอจึงไม่มีวันยอมให้พวกเขาปล้นไปได้ง่ายๆ ในขณะเดียวกัน เธอก็จะยอมให้ผู้ชายคนเดียวแตะต้องตัวเธอได้ซึ่งคนคนนั้นคือฟินนิค เธอจะยอมให้ผู้ชายสกปรกๆ พวกนี้มาแตะต้องเธอได้อย่างไร?
ความคิดเหล่านั้นทำให้สันหลังของอีฟเวลินเย็นวาบ ตรงทางแยกนั้น เธอดูเหมือนเจ้าหญิงที่อับจนหนทางกำลังรอเจ้าชายทรงเสน่ห์ให้มาช่วยเหลือเธอ
เจ้าชายคนเดียวที่ผุดขึ้นในความคิดเธอคือฟินนิค ดังนั้นความคิดที่เต็มไปด้วยความหวังนั้นจึงไม่มีวันเป็นจริง
สิ่งเดียวที่เกิดขึ้นได้จริงมีเพียงแค่ความกลัวลึกๆ ในใจเธอ เธอกลัวถึงผลที่จะตามมาจากสถานการณ์ตรงหน้านี้
ชายร่างกำยำทั้งสามคนเข้ามาหาอีฟเวลิน ระหว่างที่ย่างสามขุมเข้ามา พวกเขาก็ถูมือไปมาราวกับเตรียมพร้อมจะจัดการกับเหยื่อชั้นดี
ไขมันที่พอกอยู่บนหน้าพวกเขาจับกันเป็นก้อน ทุกคนดูราวกับเป็นหมูตกมัน และมันทำให้พวกเขาดูน่ากลัวมาก
อีฟเวลินไม่มีอารมณ์จะล้อเล่นกับแรงกดดันที่ผู้ชายเหล่านี้มอบให้เธอ ความรู้สึกสยองขวัญค่อยๆ คืบคลานเข้ามาหาเธอ
“ไม่ อย่านะ” อีฟเวลินรู้ได้ในทันทีว่าพวกเขาต้องการร่างกายของเธอ และเธอก็เริ่มเข็นรถของตัวเองหมุนถอยหลัง
บางทีถ้าเธออยู่ห่างจากพวกเขาอีกหน่อย เธอก็คงปลอดภัย
น่าเสียดายที่มันเป็นภาพลวงตาเธอเท่านั้นเอง
“สาวน้อย เธอคงต้องโทษตัวเองแล้วล่ะที่เที่ยวไปไหนมาไหนกลางดึกอย่างนี้ เห็นแก่ว่าเธอเป็นสาวบริสุทธิ์ เราจะให้เงินเธอไว้ไปซื้อเสื้อผ้าใส่นะ ส่วนเงินที่เหลือ เราจะเอาไปก็แล้วกัน”
เมื่อได้ยินสิ่งที่พวกเขาพูด อีฟเวลินก็หมดสติลงไปกองกับพื้น แต่ไม่นานหลังจากนั้น เธอก็ตั้งสติได้
เธอเหลือบมองเงินที่อยู่บนพื้น มันมีเพียงแค่สองสามร้อยเท่านั้น ตอนแรกเธอเอาเงินหมื่นติดตัวมาด้วย และจากนั้นก็เหลือเพียงแค่ไม่กี่ร้อยเท่านั้นเอง
ทันใดนั้นเอง อีฟเวลินก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี เธอรู้สึกราวกับเป็นสุนัขจรจัดที่ถูกแย่งชิงทุกอย่างไป และทำอะไรไม่ได้แม้แต่การจะหาทางกลับบ้าน
กระทั่งสิ่งที่สำคัญที่สุดที่เธอยึดถือเอาไว้ให้คนที่เธอรักที่สุดก็ยังสูญเสียไปด้วยเมื่อคืนนี้
อีฟเวลินหมดความหวังที่จะมีชีวิตต่อไป แต่เมื่อเธอนึกถึงฟินนิค เธอก็บังคับตัวเองให้เข้มแข็ง เธอจับกำแพงไว้ขณะที่เธอคลานไปอย่างยากลำบากและค่อยๆ เข้าใกล้รถเข็นซึ่งถูกโยนทิ้งไปข้างๆ จนกระทั่งนาทีที่เธอนั่งอยู่บนนั้นได้ เธอก็ยังคงมีความฝันอันสวยงามอยู่ในก้นบึ้งของหัวใจ
เธอคิดว่าฟินนิคจะยกโทษให้เธอและล้างแค้นให้เธอด้วยอย่างแน่นอน
เมื่อคิดได้อย่างนั้น อีฟเวลินก็รวบรวมสติและเข็นตัวเองไปตามถนน เมื่อเห็นร้านค้าข้างถนนที่เจ้าของร้านเผลอไผล เธอก็ขโมยเสื้อผ้าคนชรามาสองสามชิ้นก่อนจะตรงไปที่สนามบิน
เธอถือตั๋วเครื่องบินที่เธอซื้อมาไว้ในมือ และกำลังรอขึ้นเครื่องบิน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ความรักสีคราม
สนุกมาก...