ความรักสีคราม นิยาย บท 831

วิเวียนไม่สนใจว่ารถม้าจะโยกไปทางซ้ายหรือขวาในขณะที่พวกเขานั่งอยู่

พวกเขาโชคดีที่ทุ่งหญ้าอยู่ไม่ไกลจากโรงแรมมากนัก มิฉะนั้นกว่าที่พวกเขาจะไปถึงทุ่งหญ้าได้ฟ้าก็คงจะมืดเสียก่อน

เมื่อไปถึงทุ่งหญ้า วิเวียนก็ลงจากรถม้า โดยมีแลร์รี่คอยติดตามอยู่ข้างๆ

ฟินนิคจ่ายค่ารถและเดินตามทั้งสองคนไป

หญิงสาววิ่งเหยาะๆ ไปด้วยเพราะตื่นเต้นเกินไป ชายหนุ่มจึงรู้สึกว่าเป็นการยากที่จะเดินไล่ตามพวกเขาให้ทัน

ท้ายที่สุดเขาจำต้องวิ่งเหยาะๆ เพื่อตามภรรยาและลูกชายของเขาให้ทัน

ฟินนิคคิดว่าเป็นการดีที่สุดที่จะอยู่ใกล้ภรรยาและลูกชายเอาไว้ เพราะเขาคิดว่าพวกเขากำลังอยู่ในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย

หลังจากเดินเล่นสักพัก ชายคนนั้นก็ผิวปากไปที่ทุ่งหญ้า ส่งสัญญาณให้เจ้าหน้าที่นำม้ามาให้วิเวียนและตัวเขา

ชายบนหลังม้าเดินเข้ามาหาพวกเขา

“คุณผู้ชายต้องการขี่ม้าเหรอครับ?” ชายวัยกลางคนมีผมหงอกเล็กน้อย แต่ดูร่าเริงและมีชีวิตชีวามาก

มองเพียงครั้งเดียวก็เห็นได้ชัดว่าชายผู้นี้ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่บนหลังม้า

“ใช่ครับ” ฟินนิคตอบ และขอให้ชายคนนั้นพาพวกเขาไปที่คอกม้าก่อนจะเปลี่ยนเสื้อผ้า

“ว้าว พวกมันสวยมากๆ เลย” วิเวียนอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจเมื่อพวกเขาไปถึงคอกม้า

เธอจับจ้องไปที่ม้าสีขาวตัวหนึ่งและคิดว่าฟินนิคคงจะดูห้าวหาญไม่น้อยถ้าได้ขี่ม้าขาวตัวนั้น ซึ่งแม้แต่เจ้าชายทรงเสน่ห์ก็ยังไม่อาจเทียบเท่าได้กับสามีของเธอ

“ถ้างั้น เอาตัวนี้ละกันครับ” ฟินนิคพูดขณะที่เขาเห็นม้าที่วิเวียนกำลังหมายตาไว้ สัตว์ตัวนี้ดูเชื่องและว่านอนสอนง่าย

เห็นได้ชัดว่าม้าตัวนั้นชอบเธอ

เขารับชุดขี่ม้ามาจากชายวัยกลางคนสำหรับตัวเขาเองและวิเวียน และพวกเขาก็เข้าไปในห้องเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า

สำหรับแลร์รี่ ไม่มีชุดขี่ม้าใดที่เหมาะกับเขาเพราะเขานั้นยังเด็กเกินไป ดังนั้นเขาจึงสวมเพียงเสื้อผ้าธรรมดาเท่านั้น

ฟินนิคจับมือลูกชายและนำม้าไปที่ทุ่งหญ้า

ทั้งสามคนขี่ม้าตัวเดียวกัน โดยมีแลร์รี่ประกบวิเวียนที่ด้านหน้าและฟินนิคที่ด้านหลัง

อย่างไรก็ตามอานนั้นแออัดเกินไป ดังนั้นฟินนิคจึงตัดสินใจให้วิเวียนและแลร์รี่ผลัดกันขี่ม้ากับเขา

แลร์รี่ได้ขี่ก่อนเป็นคนแรก เนื่องจากเขายังเด็ก เขาไม่กล้าที่จะไปเร็วนัก

ม้าเดินไปตามทุ่งหญ้า ในตอนแรกเด็กชาย จับฟินนิคด้วยความหวาดวิตกและกระวนกระวายจากการอยู่บนหลังม้า

แต่เวลาเพียงไม่นานเด็กชายก็สามารถสร้างความคุ้นเคยกับประสบการณ์การขี่ม้าในครั้งนี้ เขาก็รู้สึกผ่อนคลายอย่างเห็นได้ชัดหลังจากการขี่ม้าพร้อมกับฟินนิคในครั้งที่สอง

ฟินนิครู้สึกปลาบปลื้มในตัวลูกชายเป็นพิเศษ

เขาตั้งความหวังเอาไว้สูงมากสำหรับลูกชายของเขา และกำลังปลูกฝังให้เขาเป็นผู้สืบทอดในอนาคต

อย่างไรก็ตาม เขารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งเมื่อสังเกตเห็นด้านที่กล้าหาญและชื่นชอบในการผจญภัยของลูกชาย