บริษัทต้องการฟินนิค แต่ในขณะเดียวกัน พวกเราให้เขาปกป้องตอนอยู่ที่บ้านด้วย
ถ้าหากฟินนิคถูกพาตัวไป ครอบครัวของพวกเราก็จะสูญเสียเสาหลักเพียงหนึ่งเดียวของเราไป ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะพังครืนลง
ดังนั้นพวกเขาจะพาตัวเขาไปไม่ได้!
“มันเขียนเอาไว้ตรงนี้อย่างชัดเจนแล้วครับ คุณนอร์ตัน ได้โปรดให้ความร่วมมือระหว่างที่พวกเราปฏิบัติหน้าที่ด้วย” ตำรวจคุ้นเคยกับฟินเนอร์กรุ๊ปเป็นอย่างดีเพราะเขาเองก็เป็นผู้ที่ซื้อสินค้าของฟินเนอร์เป็นจำนวนมากเช่นกัน
ดังนั้นเขาจึงรู้สึกแย่มากที่ไม่เพียงต้องมาเห็น แต่ยังต้องมาจับกุมตัวประธานของฟินเนอร์ กรุ๊ปอีกด้วย
เขาตอบไปตามนั้นเนื่องจากคุณนอร์ตันเป็นภรรยาของประธานฟินเนอร์ กรุ๊ปไถ่ถามถึงเหตุผลที่พวกเขามาจับกุมตัว
วิเวียนกวาดสายตามองอักษรตัวหนาที่อยู่ด้านบนสุดของหมายจับ: ข้อกล่าวหาทางอาญาว่าด้วยการฉ้อโกงหุ้น ไม่อยากเชื่อเลยว่ามันจะเป็นเรื่องจริง เธอเบิกตากว้างแล้วกระพริบตาปริบๆ ให้กับข้อกล่าวหาพวกนั้น
แต่ไม่ว่าเธอจะหลับตาและลืมตาสักกี่ครั้ง ข้อกล่าวหาทางอาญาตัวหนาทึบก็ยังคงอยู่เช่นเดิม
วิเวียนมองเขาอย่างอับจนหนทาง ไหล่ของเธอลู่ตกราวกับว่าความหวังทั้งมวลได้เหือดหายไปจากตัวเธอ
ฟินนิคไม่พูดอะไรอีก แต่เขากลับตอบสนองด้วยการลูบศีรษะปลอบโยนเธอ
ที่จริงแล้ว เขาไม่รู้ว่าต้องทำหรือพูดปลอบใจวิเวียนเช่นไรดีต่างหากเล่า
เพราะเขารู้ว่าไม่มีอะไรที่จะบรรเทาความทุกข์ใจที่เธอต้องสัมผัส ดังนั้นเขาจึงค่อนข้างนิ่งเงียบ
สิ่งนี้ทำให้พวกเขาตกอยู่ท่ามกลางความเงียบที่น้าอึดอัดใจ
จากนั้นฟินนิคก็ยื่นข้อมือให้ตำรวจ พร้อมที่จะให้ใส่กุญแจมือแล้ว
หลังจากนี้จัดการธุระแล้วใส่กุญแจมิให้ฟินนิค เขาก็มองวิเวียนเพื่อบ่งบอกว่าฟินนิคต้องไปแล้ว ก่อนที่พวกเขาจะออกจากประตูไป
วิเวียนเดินเคียงกันออกมาพร้อมกับฟินนิค ให้ความรู้สึกราวกับว่าเธอกำลังส่งสามีออกไปทำงานในวันปกติ
เมื่อเห็นสามีสีหน้าหม่นหมองและสิ้นหวัง เธอก็รู้ว่าตัวเองทำพลาดไปแล้ว เธอไม่ควรตามเขาออกมาหรือปล่อยให้ตัวเองต้องมาเป็นพยานในการจับกุมตัวเขา
ราวกับว่าเธอได้ก่อความผิดร้ายแรงด้วยการปล้นชิงศักดิ์ศรีที่เหลืออยู่ของผู้ชายคนหนึ่งไป
จะมีอะไรเลวร้ายไปกว่าการที่ภรรยาของตัวคุณเองต้องมาเห็นคุณถูกใส่กุญแจมือแล้วโดนตำรวจพาตัวไปอีกเล่า?
ไม่มีหรอก เธอตอบตัวเองอย่างขมขื่นใจ
แต่วิเวียนกลับรู้สึกกลัวเสียจนไม่กล้ามองหน้าเขาเป็นครั้งสุดท้ายจึงไม่ได้จดจำดวงตาพาดเฉียงกับรูปปากของเขา เพราะเธอเกรงว่าพวกเขาจะไม่ได้เจอหน้ากันอีก
นักข่าวกลุ่มใหญ่ได้มารวมตัวกันพร้อมสายตาสอดส่ายหาเรื่องซุบซิบอยู่ข้างนอก
ฟินนิคไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงหุ้น ดังนั้นเขาจึงเชื่อว่าโชคชะตาจะพิสูจน์ให้เห็นถึงความบริสุทธิ์และเปิดเผยความอยุติธรรมของเขา
ฟินนิคนั่งอยู่ในรถตำรวจ
ขณะที่รถค่อยๆ เคลื่อนตัวออกไป เขาก็สัมผัสได้ถึงสายตาไม่ยินยอมของวิเวียนที่จ้องมองมาที่เขาเพียงผู้เดียว แต่เขาไม่ได้หันกลับไปมองเธอเลย
เมื่อเห็นเช่นนี้ บรรดานักข่าวก็เริ่มแยกย้ายกันไป พวกเขารู้ว่าไม่มีประโยชน์ที่จะสืบข้อมูลจากวิเวียนเพราะเธอมีท่าทีสิ้นหวังมากเกินไป
วิเวียนทรุดตัวลงกับเฉลียงอย่างหมดท่า ขณะที่มองดูรถตำรวจขับห่างออกไปไกลเรื่อยๆ
ในขณะนั้น เธอก็เต็มไปด้วยความเกลียดชังตนเอง ทำไมฉันต้องยืนกรานที่จะเดินทางเสียให้ได้ด้วยนะ?
ก่อนหน้านี้ถ้าหากเธอเธอไม่ยืนกรานขนาดนั้น เช่นนั้นฟินนิคก็คงพบว่ามีเรื่องผิดปกติเกิดขึ้นกับบริษัท เขาก็จะได้แก้ปัญหาและป้องกันไม่ให้เรื่องพรรค์นี้เกิดขึ้น
ทว่าตอนนี้สายเกินไปเพราะฟินนิคถูกพาตัวไปแล้ว ครอบครัวของพวกเขาถูกบดขยี้จนเป็นผุยผงไปเสียแล้ว
“มะ ไม่ ฟินนิคไม่ได้ทำ! เขาไม่...” วิเวียนปาดน้ำตาแล้ววิ่งกลับไปที่ห้องตนเอง
ฟินนิคไม่เคยทำเรื่องผิดกฎหมาย! เขาจะไม่ทำเรื่องพรรค์นั้นแนๆ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ความรักสีคราม
สนุกมาก...