“คุณมีชื่อเสียงพอตัวในฐานะคนหนุ่มที่ประสบความสำเร็จ ผมประทับใจนะ” เชสรินไวน์ให้ตัวเองและชูแก้วให้ฟินนิค
ฟินนิคจึงรินไวน์ให้ตัวเองอย่างมีมารยาทและสบตากับเชส
ทั้งคู่ดื่มให้กันรวดเดียวหมดแก้ว
“คุณเชส มาคุยธุรกิจกันเถอะ”
ฟินนิคร้อนรนเล็กน้อยเพราะพะวงกับวิเวียนที่อยู่บ้านคนเดียว เขาอยากบรรลุข้อตกลงสำคัญนั้นด้วยวิธีการที่รวดเร็วที่สุดเพื่อจะได้กลับบ้าน
ถ้าเขาเป็นคนคุมเกม คงจะตัดทุกอย่างที่ไร้สาระและไม่จำเป็นออกไปแล้วตรงเข้าประเด็นทันที
โชคร้ายที่เขารู้ว่าในโลกของธุรกิจต้องมีพิธีรีตองเสมอ นั่นคือเหตุผลที่เขาพยายามหลีกเลี่ยงงานสังคมเท่าที่จะทำได้
อีกเรื่องหนึ่งที่ทำให้เขาเกลียดงานสังคมก็คืองานพวกนั้นจะต้องมีบรรดาผู้หญิงอยู่ด้วยตลอด
ซึ่งโดยปกติเขาจะไม่ไปร่วมงานเพราะไม่อยากให้วิเวียนคิดมาก
“ได้ ในเมื่อคุณพูดแบบนี้ เราก็เลิกอ้อมค้อมกันดีกว่า”
เชสรู้แล้วว่าคู่เจรจาไม่ใช่คนประเภทชอบเข้าสังคม
…..
ในเวลาเดียวกัน วิเวียนกำลังขมีขมันปรุงซุปตามสูตรที่เพิ่งเรียนมา แทบจะรอชิมพร้อมกับฟินนิคไม่ไหว
การเจรจาเป็นไปอย่างรวบรัดแต่มีประสิทธิภาพ ทั้งสองฝ่ายได้ในสิ่งที่ต้องการ
พวกเขาตกลงกันว่าจะเซ็นสัญญาในงานแถลงข่าวที่จะมีขึ้นในอีกสามวัน
แต่ถึงอย่างนั้น การได้เห็นสิ่งที่ตัวเองลงทุนลงแรงมาหลายปีตกไปอยู่ในมือคนอื่นก็ทำให้ฟินนิคอดเสียความรู้สึกไม่ได้
แต่ล่วงเลยมาขนาดนี้แล้ว เขาก็ไม่มีทางเลือก
“ตกลงฮะ” แลร์รี่พยักหน้าและสบตาซามูเอลด้วยความอยากรู้
เท่าที่เด็กชายสัมผัส คุณทวดไม่ค่อยเล่านิทานและดูเป็นคนที่เอาจริงเอาจังอยู่เสมอ
นั่นทำให้เขาออกจะอึดอัดเวลาอยู่ใกล้ซามูเอลและไม่อาจบอกความรู้สึกของตัวเองออกไปตามตรงได้
ซามูเอลก็รู้ดี แต่เลือกจะปล่อยให้เป็นไปอย่างนั้น เขาคิดว่าในที่สุดแลร์รี่จะรู้จักตัวตนที่แท้จริงของเขาเอง และถึงตอนนั้นความสัมพันธ์ของพวกเขาก็จะดีขึ้น
“นานมาแล้ว ทวดอยู่ระหว่างการพักผ่อนในวันหยุดและเห็นเด็กสองคนคุยกัน พวกเขาดูจะกำลังถกเถียงเรื่องอะไรสักอย่าง ทวดเลยเข้าไปถามเหตุผล แต่ทั้งคู่ไม่สนใจและเถียงกันต่อ ทวดจึงอยู่ฟัง กลายเป็นว่าพวกเขากำลังแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันว่าควรดูแลพ่อแม่หรือไม่เมื่อพ่อแม่แก่ตัวลง เด็กคนที่คัดค้านได้พูดบางอย่างที่ฟังดูแย่มาก ถึงทวดจะนั่งอยู่ด้วย ทั้งสองคนก็ไม่ออมคำพูดเลย ดูเหมือนประเด็นนี้จะเป็นการบ้านของพวกเขา”
ซามูเอลเล่าจบก็มองหน้าเหลน เห็นอีกฝ่ายครุ่นคิดหนัก พยายามหาความหมายของเรื่องเล่า
สองสามนาทีต่อมา แลร์รี่ดูจะพอเข้าใจ คุณทวดกำลังสอนบทเรียนเรื่องความรับผิดชอบให้เรา ความรับผิดชอบของครูคือการสั่งการบ้าน ซึ่งเมื่อเราพยายามทำจนเสร็จ ก็ถือเป็นการเติมเต็มความรับผิดชอบในฐานะนักเรียน และในเวลาที่เราจดจ่ออยู่กับสิ่งที่ต้องรับผิดชอบ เราจะไม่หยุดเพียงเพราะใครคนหนึ่ง
เรื่องเล่านี้ช่างเหมือนฟินนิคกับวิเวียนที่กำลังมุ่งมั่นกับการทำหน้าที่ของพวกเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ความรักสีคราม
สนุกมาก...