“คุณมองอะไร?” ฟินนิคพลิกตัวมาคร่อมวิเวียนด้วยการเคลื่อนไหวอย่างว่องไวเพียงครั้งเดียวและจ้องหน้าเธอ เขาตื่นได้สักพักหนึ่งแล้วและรู้สึกได้ถึงสายตาทะลุทะลวงคู่นั้น
แม้จะรู้ตัวว่ามีส่วนทำให้ผู้หญิงบอบบางในอ้อมกอดของตัวเองต้องเสียใจ แต่ฟินนิคก็มีความสุขที่ได้ใกล้ชิดเธอแบบนี้อีกครั้ง
ความยากลำบากคือภาระและส่วนหนึ่งของชีวิต ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
“ไม่มีอะไร” วิเวียนส่ายหน้า ฟินนิคมองเธอขณะลุกจากเตียงและแต่งเนื้อแต่งตัว ได้เวลากลับไปทำงานแล้ว เธอคิด ถ้าเราทำตัวให้ยุ่งเข้าไว้ ก็อาจไม่เหลือเวลามาจมปลักกับความเสียใจ
นี่คือสิ่งที่เธอประสบกับตัวเองตอนจากกับฟินนิคในครั้งนั้น
“วิเวียน อย่าไปทำงานเลย พักผ่อนอยู่บ้านเถอะ” ฟินนิครู้ว่าวิเวียนคิดจะออกไปทำงาน แต่เขาไม่อยากให้เธอกดดันตัวเองโดยไม่จำเป็น
เขาเจ็บปวดใจ รู้ว่านั่นคือวิธีของวิเวียนที่จะทำให้ตัวเองเดินต่อไปได้ แม้เขาจะหวังว่าเธอคงไม่พยายามข่มใจ แต่ก็รู้ว่าเมื่อวิเวียนตั้งเป้าหมายใดแล้วก็ไม่มีทางเปลี่ยนใจเธอได้เลย
ฟินนิคจึงหยุดหว่านล้อมวิเวียนและแอบหวังว่าเธอคงได้เรียนรู้ที่จะทำตัวเข้มแข็งกว่าเดิม แม้เขาจะลืมแลร์รี่ได้ยากพอกัน แต่ทั้งคู่ก็ต้องเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตต่อไป
หลังอาหารเช้า วิเวียนตั้งใจจะขับรถไปทำงาน แต่เมื่อเดินมาถึงประตูหน้าก็เห็นรถคันหนึ่งจอดรออยู่ กระจกหน้าต่างถูกเลื่อนลง เผยให้เห็นใบหน้าของฟินนิค
ตอนนั้นเองที่วิเวียนเข้าใจว่าทำไมเขาไม่กินอาหารเช้า ฟินนิคจ้องวิเวียนที่ยืนนิ่งและบีบแตร บุ้ยใบ้ให้เธอขึ้นรถ
ไม่เป็นไร เราจะเฝ้ารอให้เธอกลับมา ต่อให้เธอจะเย็นชาแค่ไหน นานเท่าไหร่ หรือต่อให้ต้องเหน็ดเหนื่อยแทบตาย เราก็จะรอ
“ถึงแล้ว คุณกลับเถอะ” วิเวียนพูดทันทีที่เห็นประตูทางเข้าบริษัท เธอมองฟินนิคอย่างสงสัยและจากไปโดยไม่รอคำตอบ
หรือเธอจะห่วงที่เราไม่ได้กินอาหารเช้า? การงดมื้อเช้าเป็นนิสัยที่ไม่ถูกต้อง วิเวียนเป็นห่วงเขาเสมอตั้งแต่รู้ว่าเขามีปัญหาเรื่องท้องไส้ในช่วงหลายปีที่ตรากตรำทำงานหนัก
ฟินนิคเบิกบานใจเมื่อรู้ว่าวิเวียนยังเป็นห่วง เขาขับรถไปที่ร้านอาหารแถวนั้นและนั่งกินคนเดียวพร้อมกับดูรูปของเธอในโทรศัพท์ไปด้วย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ความรักสีคราม
สนุกมาก...