"ฝ่าบาทจักรพรรดินีจะมีพระสวามีสองคนไม่ได้ เป็นสิ่งที่ผิดธรรมเนียม ฝ่าบาทได้โปรดไตร่ตรอง"
"ฝ่าบาทได้โปรดไตร่ตรอง"
"เช่นนั้นพวกเจ้าบอกข้ามาว่าใครสามารถนำมองคำห้าสิบล้านตำลึงมาให้ข้าได้ในตอนนี้"
"เอ่อ....."
เหล่าขุนนางต่างปาดเหงื่อ
อย่าว่าแต่รัฐปิงเลย ต่อให้รัฐใดรัฐหนึ่งก็ไม่มีทางนำทองคำห้าสิบล้านตำลึงออกมาได้
หยางโม่กล่าว "ฝ่าบาท ทองคำห้าสิบล้านตำลึงมีมูลค่ามหาศาลอย่างมาก กระหม่อมเกรงว่าเยี่ยกุ้ยเหรินคงไม่มีทองคำจำนวนมากเช่นนั้นพ่ะย่ะค่ะ"
"เช่นนั้นแล้วทองคำหนึ่งแสนตำลึงล่ะ พวกเจ้ามีใครสามารถนำออกมาให้ข้าได้หรือไม่"
แม้ว่าทองคำหนึ่งแสนล้านตำลึงจะเป็นจำนวนที่มาก แต่ก็ไม่ได้มากขนาดที่ไม่สามารถนำออกมาได้
แต่หลังจากที่นำออกมาแล้ว ก็อาจหลีกเลี่ยงที่จะกลายเป็นคนบาปไม่ได้
"ฝ่าบาท....."
"เรื่องนี้ข้ามีวิธีจัดการของข้า ทำตามนี้แล้วกัน กาวกงกงนำพระราชโองการออกไปประกาศได้"
"พ่ะย่ะค่ะ"
หลังจากที่จักรพรรดินีองค์ใหม่ขึ้นครองราชย์ก็ได้แต่งตั้งพระสวามี และวันนี้ก็กลายเป็นพระสวามีสองคน ทำให้เป็นข่าวคราวที่ถูกพูดถึงไปทั่วทุกหย่อมหญ้าและทุกตรอกซอกซอย
เผ่าเพลิงฟ้าเป็นกลุ่มที่รู้สึกโกรธเคืองอย่างมาก
แต่งงานมาแล้วหลายวันแต่กลับไม่เดินทางกลับมาที่เผ่าเสียที และวันนี้ก็แต่งตั้งพระสวามีอีกคน นี่ไม่เป็นการทำให้หัวหน้าเผ่าของพวกเขาอับอายขายหน้าหรอกหรือ?
ไม่เห็นพวกเขาอยู่ในสายตาเลยหรือไง
"รองหัวหน้าเผ่า จักรพรรดินีแห่งรัฐปิงทำเกินไปแล้ว ข้าคิดว่าไม่เช่นนั้นเราก่อกบฏเสียให้สิ้นเรื่องไปเลย"
"เผ่าเพลิงฟ้ามีกฎของเราอยู่ว่าจะไม่เป็นศัตรูกับราชวงศ์ของรัฐปิง"
"แต่ท่านดูสิว่าจักรพรรดินีรัฐปิงทำอะไรลงไปบ้าง หัวหน้าเผ่าของเราแต่งงานกับนางถือเป็นเรื่องที่แย่อย่างมาก"
"ก็ถูก ตั้งแต่อดีตกาลนานมาจักรพรรดินีมีพระสวามีเพียงคนเดียว ทว่านางกลับแต่งตั้งอีกหนึ่งคน และสิ่งที่สำคัญก็คือ เยี่ยจิ่งหานถือเป็นศัตรูตัวฉกาจของเผ่าเพลิงฟ้าของเรา เยี่ยจิ่งหานได้ฆ่าสังหารพี่น้องของเราไปแล้วเท่าไร เห็นได้ชัดว่าที่จักรพรรดินีทำเช่นนี้ก็เพราะต้องการเป็นศัตรูกับเรา"
รองหัวหน้าเผ่าขมวดคิ้ว
เขาก็ไม่พอใจอย่างมาก
แต่การจะก่อกบฏต่อรัฐปิงก็ถือเป็นเรื่องใหญ่
ในเผ่าเองก็มีกฎที่พวกเขาจำเป็นต้องยึดถือปฏิบัติ
"รองหัวหน้า ก่อกบฏเถอะ คนเหล่านี้ไม่มีใครดีสักคน ข้ารู้สึกสงสารแทนหัวหน้าเผ่าเหลือเกิน"
"รอดูไปก่อนแล้วกัน หากหัวหน้าเผ่ามีคำสั่งเราค่อยปฏิบัติตาม"
"เฮ้อ....."
ภายในห้องตำราหลวง
ท่านอ๋องเสวี่ยคอยชื่นชมความฉลาดของกู้ชูหน่วนไม่หยุด
แม้จะไม่เป็นไปตามกฎของบรรพบุรุษและธรรมเนียมที่มีมาแต่เดิม แต่ก็เป็นเรื่องที่สามารถหาเงินจำนวนมหาศาลได้อย่างง่ายดาย หากเยี่ยจิ่งหานทำได้อย่างที่พูด เช่นนั้นแล้วภัยพิบัติและวิกฤตการณ์ของรัฐปิงก็จะคลี่คลายและถูกแก้ไขลงได้
"ฝ่าบาท องค์ชายของรัฐอี้ก็ไม่เลว กระหม่อมได้พูดคุยกับจักรพรรดิอี้แล้ว องค์ชายของรัฐอี้ไม่สนใจตำแหน่งพระสวามี ขอเพียงตำแหน่งหวงกุ้ยจวินก็ได้พ่ะย่ะค่ะ หากฝ่าบาทแต่งงานกับเขา เช่นนั้นเสบียงอาหารของรัฐปิงก็จะไม่มีปัญหาอีกต่อไป"
"เจ้าก็เร็วใช่ย่อยเลยนะ"
เขาขายนางอีกครั้งในระยะเวลาอันสั้นเช่นนี้
"เรื่องที่สำคัญของรัฐปิง แน่นอนว่ากระหม่อมจะต้องพยายามทำทุกวิถีทาง หากฝ่าบาทไม่ปฏิเสธ ไม่เช่นนั้นก็จัดให้มีงานพระราชพิธีอภิเษกสมรสขึ้นในเดือนหน้า ต้นเดือนหน้าถือเป็นฤกษ์ดีพ่ะย่ะค่ะ"
"วันนี้วันที่ยี่สิบแปด ต้นเดือนหน้าก็อีกเพียงสามวันเท่านั้น?"
"เอ่อ.....พ่ะย่ะค่ะ แต่ก็ถือว่าเป็นเดือนหน้าแล้วพ่ะย่ะค่ะ"
"เจ้าพูดมาตรงๆ ว่าอีกสามวันข้างหน้าก็จบเรื่อง"
ท่านอ๋องเสวี่ยหัวเราะชอบใจ
กู้ชูหน่วนกล่าว "รัฐอี้และรัฐปิงอยู่ห่างไกลกันมากเวลาเพียงสามวันสามารถจัดให้มีพิธีแต่งงานไดหรือ?"
"องค์ชายของรัฐอี้ได้มาอยู่ในรัฐปิงเรียบร้อยแล้วพ่ะย่ะค่ะ ขอเพียงฝ่าบาทตอบตกลง งานอภิเษกสมรสก็จะถูกจัดขึ้นทันที"
กู้ชูหน่วนวางโองการสาส์นลงและแทบคิดว่าตัวเองได้ยินผิดไป
"ท่านอ๋องเสวี่ย เจ้าไม่คิดว่าเรื่องนี้จะอะไรชอบมาพากลอย่างนั้นหรือ? รัฐอี้ตอบตกลงง่ายดายเช่นนี้?"
"เอ่อ.....รัฐอี้มีเพียงเงื่อนไขเดียว คือพระธิดาที่เกิดจากองค์ชายแห่งรัฐอี้และฝ่าบาทจะต้องได้เป็นองค์รัชทายาทแห่งรัฐปิง และพระโอรสจะต้องเป็นองค์รัชทายาทแห่งรัฐอี้ เช่นนี้ทั้งสองรัฐก็จะมีสัมพันธ์อันดีต่อกันตลอดไป"
"เอ่อ.....แม้แต่เรื่องนี้ก็คิดรวมไปแล้วหรือ? ท่านอ๋องเสวี่ยช่างคิดการณ์ไกลเสียเหลือเกิน"
"เพื่อฝ่าบาท เพื่อรัฐปิง กระหม่อมยอมทำทุกอย่างพ่ะย่ะค่ะ"
"พอได้แล้ว ข้าไม่อยากพูดอะไรกับเจ้าอีกแล้ว ข้าจะบอกอะไรเจ้า การแต่งงานนี้ข้าไม่ตกลง"
"ฝ่าบาท"
"ฝ่าบาท เอ่อ....."
กู้ชูหน่วนโยนตั๋วเงินในมือลงและกัดฟันกรอด "เยี่ยจิ่งหาน เจ้ากล้าโกหกข้า ส่งคนไปที่หอราตรีเดี๋ยวนี้"
"พ่ะย่ะค่ะ"
บรรยากาศในวังหลวงเริ่มแปลกไป
คนในวังไม่กล้าแม้แต่จะหายใจเสียงดัง และแทบอยากจะมุดลงไปในรูดิน กลัวจะมีใครมาทำให้ฝ่าบาทกริ้วจนตัวเองต้องตาย
"ตึ่ง……"
กู้ชูหน่วนเตะประตูออกและถามด้วยใบหน้าที่มืดมน
"เงินอยู่ที่ไหน"
"มอบให้เจ้าไปแล้วไม่ใช่หรือ?"
"เยี่ยจิ่งหาน เจ้ากำลังล้อเล่นอะไรอยู่ เจ้านำกระดาษไร้ค่าจำนวนมากมาจะมีประโยชน์อะไร?"
"เจ้าไม่ได้บอกว่าเจ้าใช้ได้แค่เงินตำลึงของรัฐปิงนี่นา"
"เจ้าหมายความว่าอย่างไร เจ้าคงไม่ได้หมายความว่าตั๋วเงินเหล่านั้นเป็นตั๋วเงินที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในรัฐเยี่ยของพวกเจ้าหรอกนะ"
"ใช่"
"ตั๋วเงินของรัฐเยี่ย เจ้านำมาให้ข้าจะมีประโยชน์อะไร"
"นั่นมันเรื่องของเจ้า ข้ารับผิดชอบเพียงนำเงินมาให้เจ้า อ้อใช่ ข้าจำได้ว่าเจ้ากลัวว่าข้าจะเสียใจและปฏิเสธในภายหลังก็เลยให้ข้าเขียนเอาไว้ ในหนังสือก็เขียนเอาไว้ว่าข้าจ่ายด้วยทองคำห้าสิบล้านตำลึงหรือทรัพย์สินอะไรก็ได้ที่มีมูลค่าเทียบเท่า จากนั้นเจ้าก็จะแต่งตั้งให้ข้าเป็นพระสวามี โดยไม่มีทางยกเลิกตำแหน่งนี้ของข้าไปตลอดชีวิตไม่ใช่หรือ?"
กู้ชูหน่วนโกรธมาก "ฉะนั้นที่เหลือเจ้าก็ไม่คิดจะนำออกมาใช่หรือไม่? ก็ได้ เยี่ยจิ่งหาน เจ้ากล้ามาก"
ไม่นานก็มีพระราชโองการอีกฉบับประกาศออกมาทั่วรัฐปิง
พระสวามีแบ่งเป็นพระสวามีเอก และพระสวามีรอง
พระสวามีเอกคือเหวินเส่าอี๋ พระสวามีรองคือเยี่ยจิ่งหาน และวังหลังก็ยังคงเป็นเหวินเส่าอี๋ที่คอยเป็นคนดูแล
เยี่ยจิ่งหานไม่พอใจ
"เจ้าวางแผนชั่วร้าย"
"ไม่ชั่วร้ายเท่าเจ้า ทองคำห้าสิบล้านตำลึงล่ะ มาถึงมือข้าเพียงทองคำยี่สิบล้านตำลึงเท่านั้น จำนวนลดลงมากจนทนดูไม่ได้"
การแต่งตั้งตำแหน่งพระสวามีนั้น นอกจากเยี่ยจิ่งหานจะมีตำแหน่งที่สูงส่งขึ้นแล้วนั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่แปลให้อ่านนะคะ อ่านถึง 1174 แล้วรอตอนต่อไปอยู่ค่ะ...
ไม่อัพจบเหรอคะ...
เป็นนางเอกที่นิสัยแย่ที่สุดตั้งแต่เคยอ่านมา...
คือตัวเองไม่มีเงิน แต่คิดจะเอาทุกอย่างด้วยราคาสูงเสียดฟ้า แล้วก็หาคำพูดให้คนอื่นจ่ายแทน ตัวเองหาประโยชน์จากคนใกล้ตัวแต่กลับเอาใจให้คนอื่นตลอดเนี่ยนะ...
แม่นางกู้เกินเยียวยาแล้วเด้อ 555...
เยี่ยเฟิงเป็นคนดีมาก แต่เขาทนงตัวเกินไป ชีวิตที่ผู้อื่นฝ่าฟันเพื่อแย่งชิงลมหายใจเขาไว้ แต่เขาก็ดิ้นรนกลับไปหาความตายอยู่เรื่อย...
ท่านอาจารย์พูดให้คิดดีมากเลย แต่อาหน่วนจะเข้าใจไหม นางดูมั่นหน้า มั่นใจเกิตเหตุแบบไม่สนสี่สนแปดใดใดเลย...
อยากให้กลับมาอัพเดทไวๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ...
สรุปเรื่องนี้มีตอนจบมั้ยค่ะ...
รอตอนจบอยู่นะคะ ใจบางไม่ไหวแล้วทรมาน...