กู้ชูหน่วนลูบคางตัวเอง
ฟังดูเหมือนว่าอี้หยุนเฟยจะรู้เรื่องดวงวิญญาณดวงนั้น และดวงวิญญาณนั้นมีความสำคัญกับเขามาก
มีเสียงดังขึ้นบริเวณหน้าประตูเรือนอี้หยุน
สีหน้าของอี้หยุนเฟยเปลี่ยนไปเล็กน้อย
กู้ชูหน่วนลูบศีรษะของเขาและกล่าวว่า "เจ้าพักผ่อนเยอะๆ จะได้มีเรี่ยวแรงในการเดินทางพรุ่งนี้ ข้าไม่รบกวนเจ้าแล้ว"
กู้ชูหน่วนเดินออกไปโดยไม่รอให้อี้หยุนเฟยตอบ
"ชิ้ว...."
เงาใครคนหนึ่งปรากฏขึ้นพร้อมกับคุกเข่าลงรายงาน "เยี่ยจิ่งหานเขาบอกว่าต้องการเข้าเฝ้าฝ่าบาท"
"เขาเป็นสนมคนหนึ่งในวังหลัง ข้าก็เช่นกัน ฝ่าบาทมาหาข้ายังต้องขออนุญาตเขาด้วยหรือ? ไล่ออกไป"
"ขอรับ"
ไม่ไกลจากประตูหลังของเรือนอี้หยุน
กู้ชูหน่วนเดินออกไปไม่นานก็พบเข้ากับเยี่ยจิ่งหานที่กำลังนั่งอยู่บนรถเข็นใต้ต้นไม้
นางเดินหันหน้าไปทางอื่นทันที
จากนั้นเสียงอันทุ้มต่ำของเยี่ยจิ่งหานก็ดังขึ้น
"ดึกๆ ดื่นๆ ฝ่าบาทจะไปไหนหรือพ่ะย่ะค่ะ?"
เมื่อได้ยินเข้า ทำให้กู้ชูหน่วนจำเป็นต้องหันไปหา
"นอนไม่หลับก็เลยออกมาเดินเล่น เหตุใดเจ้าถึงอยู่ที่นี่?"
"บังเอิญเหลือเกิน กระหม่อมก็นอนไม่หลับ เดินไปเดินมาก็เดินมาถึงประตูหลังของเรือนอี้หยุน"
อ๋า.....
บังเอิญขนาดนั้นเลยเหรอ?
เห็นได้ชัดว่าจงใจมาหานางที่นี่ชัดๆ
เหตุผลนางถึงรู้สึกว่ากำลังถูกจับผิดอยู่ตลอดเวลา
"ในเมื่อฝ่าบาทนอนไม่หลับ งั้นกระหม่อมจะอยู่เป็นเพื่อนฝ่าบาทเอง....."
"ไม่ต้อง ตอนนี้ข้ารู้สึกข้าง่วงเหลือเกิน ข้าจะกลับไปนอนแล้ว"
เดินไปได้ไม่กี่ก้าว กู้ชูหน่วนก็ขมวดคิ้วถาม "เยี่ยจิ่งหาน เจ้าตามข้ามาทำไม?"
"เดินเล่นนานกระหม่อมเริ่มรู้สึกง่วง เดี๋ยวกระหม่อมจะไปนอนปรนนิบัติดูแลฝ่าบาทเอง"
"แน่นอนอยู่แล้ว ไม่รู้ว่าทองคำห้าแสนตำลึงเมือไรจะ....."
"กระหม่อมจะให้ก็ต่อเมื่อกระหม่อมพอใจ"
ท่ามกลางแสงจันทร์ กู้ชูหน่วนเข็นรถเข็นไปพร้อมกับเงาหนึ่งคล้อยกับเสียงหัวเราะหยอกเย้ากันไปมา
อี้หยุนเฟยจ้องมองอย่างเหม่อลอย
เดิมทีเขาคิดว่าเยี่ยจิ่งหานอยู่ที่ประตูใหญ่และลังเลใจว่าจะให้กู้ชูหน่วนอยู่ที่เรือนอี้หยุนอยู่ข้ามคืนด้วยกันดีไหม จากนั้นจึงได้รีบวิ่งมา
ทว่ากลับทำให้เขาเห็นฉากที่น่าสะเทือนใจ
เขาถามไปยังคนที่อยู่ข้างๆ
"ตอนนี้การแข่งขันดุเดือดเช่นนั้นเลยหรือ? จ่ายห้าแสนตำลึงเพื่อให้นางอยู่ด้วยแค่หนึ่งคืน? แบบนี้ไม่เกินไปหน่อยหรือ?"
คนรับใช้กล่าวด้วยอาการตัวสั่น "ตั้งห้าแสนตำลึงเชียวนะ ต่อให้เขาจะร่ำรวยเงินทองมากแค่ไหน แต่เขามีเยอะกว่านายท่านอีกหรือ? เขา.....หรือเขาจะหลอกลวงฝ่าบาท ไม่เช่นนั้น....นายท่านก็ลงเงินหนักๆ เพื่อให้ฝ่าบาทมาค้างคืนที่เรือนอี้หยุนของเราดีไหมขอรับ?"
อี้หยุนเฟยก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน
ทันใดนั้นเองเขาก็กระทืบเท้า
"มีสิทธิ์อะไร ตอนนี้นางเป็นจักรพรรดินี ข้าเป็นหวงกุ้ยจวิน นางไม่ได้เป็นสนมของข้าสักหน่อย ตามหลักแล้วนางควรจะดูแลเลี้ยงดูข้า เหตุใดถึงเปลี่ยนเป็นข้าไปเลี้ยงดูนาง"
"แต่....แต่ฝ่าบาทไม่มีเงินนะขอรับ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่แปลให้อ่านนะคะ อ่านถึง 1174 แล้วรอตอนต่อไปอยู่ค่ะ...
ไม่อัพจบเหรอคะ...
เป็นนางเอกที่นิสัยแย่ที่สุดตั้งแต่เคยอ่านมา...
คือตัวเองไม่มีเงิน แต่คิดจะเอาทุกอย่างด้วยราคาสูงเสียดฟ้า แล้วก็หาคำพูดให้คนอื่นจ่ายแทน ตัวเองหาประโยชน์จากคนใกล้ตัวแต่กลับเอาใจให้คนอื่นตลอดเนี่ยนะ...
แม่นางกู้เกินเยียวยาแล้วเด้อ 555...
เยี่ยเฟิงเป็นคนดีมาก แต่เขาทนงตัวเกินไป ชีวิตที่ผู้อื่นฝ่าฟันเพื่อแย่งชิงลมหายใจเขาไว้ แต่เขาก็ดิ้นรนกลับไปหาความตายอยู่เรื่อย...
ท่านอาจารย์พูดให้คิดดีมากเลย แต่อาหน่วนจะเข้าใจไหม นางดูมั่นหน้า มั่นใจเกิตเหตุแบบไม่สนสี่สนแปดใดใดเลย...
อยากให้กลับมาอัพเดทไวๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ...
สรุปเรื่องนี้มีตอนจบมั้ยค่ะ...
รอตอนจบอยู่นะคะ ใจบางไม่ไหวแล้วทรมาน...