"ทองคำห้าแสนตำลึงไม่มากเกินไปหน่อยหรือ......ช่างเถอะ คิดเสียว่าเป็นการช่วยเหลือราษฎรของนางก็แล้วกัน เตรียมทองคำห้าแสนตำลึงมอบให้น้องสาว แล้วให้นางมาหาข้าพรุ่งนี้"
"นายท่าน.....ท่านลืมไปแล้วหรือว่าพรุ่งนี้เช้าท่านต้องเดินทางกลับไปที่รัฐอี้กับฝ่าบาท"
"เช่นนั้นก็แสดงว่าระหว่างทางยังมีโอกาส?"
"เอ่อ.....ฝ่าบาทกล่าวว่าจะเดินทางข้ามวันข้ามคืน ฉะนั้น......ฉะนั้น......"
"เช่นนั้นก็ให้นางนั่งรถม้าคันเดียวกับข้า"
"เอ่อ.....ขอรับ"
"เดี๋ยวก่อน ไม่ดีกว่า หากนางมีใจนางก็คงมานั่งรถม้าคันเดียวกับข้าเอง นึกถึงเรื่องหลักเป็นสำคัญดีกว่า หวังว่าเสด็จพ่อทางนั้นจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น"
เมื่อคนรับใช้ได้ยินเข้าก็เหมือนจะพูดอะไรแต่หยุดไว้ "นายท่าน ได้ยินว่าพระสวามีรองได้ติดสินบนต่อคนข้างกายฝ่าบาทเพื่อขอให้ฝ่าบาทนั่งรถม้าคันเดียวกับเขา"
"เยี่ยจิ่งหานบ้าไปแล้วหรือ? นอกจากน้องสาวแล้ว คิดว่าบนโลกนี้ไม่มีผู้หญิงคนอื่นอีกแล้วหรืออย่างไร? เขาอิจฉาริษยาถึงขั้นนี้เลยหรือ"
"เยี่ยจิ่งหานไร้ยางอาย แต่....แต่หากอิงตามกฎของรัฐปิงแล้วละก็ หากฝ่าบาทเสด็จไปไหนแล้วมีพระสวามีติดตามไปด้วย พระสวามีจะต้องนั่งรถม้าคันเดียวกัน"
จากนั้นอี้หยุนเฟยก็รู้สึกหุนหันขึ้นมาทันที "ฉะนั้น ข้างกายของนางจึงมีเหวินเส่าอี๋และเยี่ยจิ่งหานสองคน?"
ผู้ชายสองคนนี้มีศิลปะการต่อสู้และหน้าตาที่โดดเด่น แถมยังมีความเก่งกาจในทุกๆ ด้าน?
แล้วเขาล่ะ?
ระยะทางการเดินทางไปรัฐอี้นั้นยาวนาน น้องสาวมีพวกเขาสองคนคอยอยู่ข้างๆ และถึงตอนนั้นนางคงไม่เห็นเขาในสายตาอย่างแน่นอน
"ไม่ว่าจะจ่ายเงินจำนวนมากแค่ไหน พรุ่งนี้ข้าจะต้องให้น้องสาวนั่งรถม้าคันเดียวกับข้า"
"ขอรับ....."
หลังจากที่อี้หยุนเฟยจากไป เหวินเส่าอี๋ก็เดินออกมาพร้อมกับลูกน้องอีกหนึ่งคน
"นายท่านต้องการให้ข้าน้อยไปจัดการให้ฝ่าบาทนั่งรถม้าคนละคันกับนายท่านหรือไม่ขอรับ"
"เพราะเหตุใด? พวกเขาทั้งสองจ่ายเงินเพื่อให้ฝ่าบาทนั่งรถม้าคันเดียวกับพวกเขา ข้าไม่ต้องจ่ายก็สามารถทำเช่นนั้นได้ เหตุใดข้าต้องปฏิเสธด้วย?"
คนรับใช้ของเขารู้สึกคาดเดาความคิดของเขาไม่ออก
นายท่านไม่ชอบให้คนอื่นเข้าใกล้ไม่ใช่หรือ
และไม่ชอบให้ใครนั่งรถม้าคันเดียวกับเขา โดยเฉพาะเยี่ยจิ่งหาน?
เหตุผลถึงยอม.....?
"ออกไปได้แล้ว"
"ขอรับ ข้าน้อยขอตัวก่อนขอรับ"
เยี่ยจิ่งหานกล่าว "เดินทางมาหลายวันหลายคืนแล้ว ต่อให้คนไม่เหนื่อย แต่ม้าก็เหนื่อยเป็น หยุดพักสักหน่อยดีกว่า"
ฝูกวงลูบศีรษะของตัวเอง "นายท่าน เราจะหยุดพักดีไหมขอรับ"
"หยุดพักสักหน่อยแล้วกัน"
"ขอรับ"
เหวินเส่าอี๋กล่าว "การหยุดพักจะทำให้รัฐอี้อันตรายมากขึ้นทุกขณะ ความร้ายกาจของผู้หญิงชั่วช้าคนนั้น ฝ่าบาทคงจะรู้ดีใช่ไหมพ่ะย่ะค่ะ"
"ข้าเกรงว่ายังไปไม่ถึงรัฐอี้ แต่จะทำให้ตัวเองเหนื่อยตายเสียก่อนน่ะสิ"
"พี่เหวิน พี่อี้ พี่หญิงเหนื่อยแล้ว เราหยุดพักสักหน่อยดีกว่าเถอะ"
ซือม่อเฟยดึงมือของเหวินเส่าอี๋พร้อมกับดึงมือของอี้หยุนเฟยและพูดกับเขาอย่างเคล้าคลอ
เหวินเส่าอี๋ไม่ชอบที่ซือม่อเฟยเข้าใกล้และทำตัวสนิทสนมเช่นนี้
ก่อนที่จะสูญเสียความทรงจำไป พวกเขามักทะเลาะเบาะแว้งกันบ่อยครั้ง
อี้หยุนเฟยเองก็ไม่คุ้นชินเช่นกัน
ทว่าซือม่อเฟยกลับขยับเข้าใกล้เขาจนแทบจะกลืนกิน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่แปลให้อ่านนะคะ อ่านถึง 1174 แล้วรอตอนต่อไปอยู่ค่ะ...
ไม่อัพจบเหรอคะ...
เป็นนางเอกที่นิสัยแย่ที่สุดตั้งแต่เคยอ่านมา...
คือตัวเองไม่มีเงิน แต่คิดจะเอาทุกอย่างด้วยราคาสูงเสียดฟ้า แล้วก็หาคำพูดให้คนอื่นจ่ายแทน ตัวเองหาประโยชน์จากคนใกล้ตัวแต่กลับเอาใจให้คนอื่นตลอดเนี่ยนะ...
แม่นางกู้เกินเยียวยาแล้วเด้อ 555...
เยี่ยเฟิงเป็นคนดีมาก แต่เขาทนงตัวเกินไป ชีวิตที่ผู้อื่นฝ่าฟันเพื่อแย่งชิงลมหายใจเขาไว้ แต่เขาก็ดิ้นรนกลับไปหาความตายอยู่เรื่อย...
ท่านอาจารย์พูดให้คิดดีมากเลย แต่อาหน่วนจะเข้าใจไหม นางดูมั่นหน้า มั่นใจเกิตเหตุแบบไม่สนสี่สนแปดใดใดเลย...
อยากให้กลับมาอัพเดทไวๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ...
สรุปเรื่องนี้มีตอนจบมั้ยค่ะ...
รอตอนจบอยู่นะคะ ใจบางไม่ไหวแล้วทรมาน...