กู้ชูหน่วนรู้สึกว่าเรื่องทั้งหมดมันไร้เหตุผล
“เหตุใดอาม่อถึงต้องทำเช่นนั้น?”
“เรื่องนี้......เรื่องนี้ข้าน้อยเองก็ไม่แน่ใจ แต่ได้ยินมาว่าเขาต้องการทำขนมไส้ดอกไม้หรืออะไรบางอย่าง”
“ทำขนมไส้ดอกไม้ เหตุใดถึงต้องใช้ภาชนะมากมายถึงเพียงนั้น? เหตุใดต้องขโมยเสื้อผ้า?”
คนรับใช้ปาดเหงื่อ
“ข้าน้อย...ข้าน้อยเองก็ไม่ทราบ รู้เพียงแค่ว่าม่อกุ้ยจวินเผาเสื้อผ้าของเฟิงโห้วไปแล้ว เฟิงโห้วโกรธมาก จึงสั่งให้คนใช้ของเขาบุกมายังตำหนักม่อ และนำเสื้อผ้าของม่อกุ้ยจวินไปเผา”
กู้ชูหน่วนแทบจะเป็นลม
ในแต่ละวัน นางเหนื่อยล้าและไร้ซึ่งเรี่ยวแรง
แต่ผู้ชายในหวังหลังของนางกลับไม่มีใครทำให้นางสบายใจเลยสักคน
“ตำหนักเว่ยหยางเล่า? เวลานี้เป็นอย่างไรบ้าง?”
“ทูลฝ่าบาท ห้องจำนวนมากในตำหนักเว่ยหยางถูกเผา โชคดีที่ดับไฟได้ทันเวลา ไม่ได้ถูกเผาไปทั้งหมด เวลานี้...เวลานี้เฟิงโห้วต้องการให้ฝ่าบาทมอบความยุติธรรมให้แก่เขาด้วย”
“ไปเรียกม่อกุ้ยจวินมา”
“ขอรับ”
“ไม่ต้องแล้ว ข้าไปจะหาเขาด้วยตัวเอง”
ซือม่อเฟยเป็นจอมมาร แม้จะไร้ซึ่งวรยุทธ์ แต่ความแข็งแกร่งของเขาก็ไม่อาจมองข้ามได้
ครั้งที่แล้วตอนที่สู้กับฮวาอิ่ง ภาพจำเหล่านั้นยังคงฝังลึกอยู่ในดวงตาของนาง พรสวรรค์ของการสร้างค่ายกลเช่นนั้น เกรงว่าบนโลกใบนี้คงไม่มีใครเทียบเคียง
“เช่นนั้น...ทางด้านของเฟิงโห้ว...? เวลานี้เกรงว่าตำหนักเว่ยหยาง...ตำหนักเว่ยหยางคงไม่สามารถอาศัยอยู่ได้แล้ว”
กู้ชูหน่วนกำลังเดินออกไป แต่ทันใดนั้นก็หยุดชะงัก กล่าวออกมาด้วยความสงสัย “อาม่อพอคนไปยังตำหนักเว่ยหยาง? เขาต้องการเผา เหวินเส่าอี๋ก็ให้เขาเผางั้นหรือ”
“คือ...เขาพาคนไปค่อนข้างมาก แน่นอนว่าเฟิงโห้วไม่ยอมให้เขาเผา แต่หลังจากนั้น...หลังจากนั้นม่อกุ้ยจวินทะเลาะกับเฟิงโห้ว เฟิงโห้วกล่าวว่าอยากเผาก็เผา ต่อให้ตำหนักเว่ยหยางหลังนี้ถูกเผา เขาก็ยังมีตำหนักเว่ยหยางแห่งใหม่ให้อยู่ในอนาคต”
“ดังนั้น...เหวินเส่าอี๋จึงเป็นคนยุยงให้ม่อกุ้ยจวินเผามัน?”
“เรื่องนี้...ข้าน้อยเองก็ไม่แน่ใจ”
“ออกไปเถิด”
คนรับใช้ยังอยากจะถามว่าต้องชดใช้ให้กับทางฝั่งของเฟิงโห้วอย่างไร แต่เมื่อเห็นสีหน้าและแววตาของกู้ชูหน่วน เขาก็ทำได้เพียงเงียบปากไว้
ตำหนักม่อ
ทันทีที่กู้ชูหน่วนก้าวเข้ามาเขาก็ได้ยินเสียงไหม้อย่างรุนแรง
คนรับใช้บางคนหมอบลงบนพื้นเพื่อหยิบชามและจานที่แตก
คนรับใช้บางคนรีบไปที่ห้องครัวพร้อมฟืนในมือ
คนรับใช้บางคนวิ่งไปวิ่งมาพร้อมกับกองเสื้อผ้าในมือของพวกเขา
เป็นอย่างที่คิด ตำหนักม่อสร้างความวุ่นวายอีกเช่นเคย
แม้แต่นางเดินเข้ามา เหล่าคนรับใช้ยังไม่สังเกตเห็นเลยด้วยซ้ำ
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน สุดท้ายก็มีคนรับใช้สังเกตเห็นนาง
“ฝ่า...ฝ่าบาท ถวายบังคมฝ่าบาท ขอให้ฝ่าบาทอายุยืนหมื่นปี หมื่น หมื่นปี”
“ลุกขึ้นเถิด พวกเจ้ากำลังทำอะไรงั้นหรือ?”
“กราบทูลฝ่าบาท ม่อกุ้ยจวินกล่าวว่าต้องการเข้าครัวด้วยตัวเอง เพื่อทำขนม”
“ข้าเข้าใจได้ว่าต้องใช้ฟืนในการปรุงอาหาร และถ้วยชามที่แตกเหล่านี้ก็พอเข้าใจได้ แต่เสื้อผ้าที่ถืออยู่มันคือสิ่งใด?”
กู้ชูหน่วนพยายามอย่างถึงที่สุดเพื่อระงับความโกรธของตนเอง
ฟืนทั้งหมดในพระราชวังถูกขนมายังตำหนักม่อ
ถ้วย ชาม และภาชนะเหล่านั้นก็เช่นกัน
แตกกระจายไปทั่วพื้นของตำหนักม่อ หัวใจของนางเองก็แหลกสลายเช่นกัน
นี่มันไม่ต่างอะไรกับการนำเงินมาละลายน้ำ
เมื่อสัมผัสได้ถึงความโกรธของกู้ชูหน่วน คนรับใช้จึงพูดอย่างสั่นสะท้านว่า “คือ...กราบทูลฝ่าบาท ม่อกุ้ยจวินกล่าวว่าต้องการนำผ้ามาเป็นเชื้อเพลิง ขนมหวานที่ทำออกมาถึงมีรสชาติอร่อย”
กู้ชูหน่วนกล่าวออกมาด้วยเสียงสูง “ใช้ผ้าเป็นเชื้อเพลิง?”
บ้านของซือม่อเฟยผลิตทองคำอย่างนั้นหรือ?
ถึงได้นำผ้าไหมมาเป็นเชื้อเพลิง
ผู้ชายที่งดงามคนหนึ่ง ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยสิ่งสกปรก มอมแมมจนดูไม่ได้
และวันนี้ ผมของเขายุ่งเหยิง และถูกไฟไหม้ไปหลายจุด
ใบหน้าของเขาถูกปกคลุมด้วยขี้เถ้า แป้ง และกลีบดอกไม้บางส่วน
เสื้อผ้าของเขาขาวจนแทบมองไม่ออกว่าเป็นอะไร มองไม่เห็นเค้าโครงเดิม
แม้แต่มือของเขาก็มีแผลถูกลวกเล็กน้อย
หากไม่รู้มาก่อนว่าเขาคือซือม่อเฟย กู้ชูหน่วนก็คงมองไม่ออกว่าเขาเป็นใคร
“ทำให้พระราชวังต้องรกร้างถึงเพียงนี้ ทั้งหมดก็เพื่อทำขนมไส้ดอกไม้งั้นหรือ?”
“ใช่ พี่หญิงไม่ชอบขนมไส้ดอกไม้อย่างนั้นหรือ? เฉินเฟย...เมื่อก่อนเพื่อนของข้าคนหนึ่งเคยสอนข้าทำขนมไส้ดอกไม้ที่เจ้าชอบ แต่นี่ก็ผ่านมานานมากแล้ว ข้าเองก็ลืมไปว่ามันทำอย่างไร ดังนั้น...แต่ก็ยังดีที่ข้าทำออกมาได้ พี่หญิง เจ้าลองชิมมันเร็ว นี่เป็นรสชาติในความทรงจำของเจ้าหรือไม่”
“แค่ทำขนมไส้ดอกไม้ เหตุใดจึงต้องเก็บดอกไม้ทั้งพระราชวังมาที่นี่?”
จอมมารพูดอย่างลูกผู้ชาย “เนื่องจากครั้งแรกที่อาม่อทำขนมไส้ดอกไม้ มันมักจะไม่อร่อย และมันจำเป็นต้องใช้ดอกไม้จำนวนมาก อีกอย่างอาม่อต้องการเลือกดอกไม้ที่ดีที่สุด มีเพียงสิ่งที่ดีที่สุดเท่านั้นที่คู่ควรกับการกินของพี่หญิง”
“ตำหนักม่อไม่มีฟืนอย่างนั้นหรือ? เหตุใดถึงต้องนำฟืนมามากมายถึงเพียงนี้?”
“เนื่องจากรูปร่างของฟืนพวกนี้ มองอย่างไรมันก็ไม่ปกติ”
“หมายความว่าอย่างไร?”
“ก็หมายความว่าฟืนพวกนี้มันมีรูปร่างและขนาดไม่เหมือนกับตอนที่อาม่อทำขนมไส้ดอกไม้ครั้งแรก ไม่เหมือนกับตอนที่เพื่อนของอาม่อสอน เวลาข้าทำขนมไส้ดอกไม้ออกมาจึงมีบางอย่างผิดไป”
มุมปากของกู้ชูหน่วนกระตุก
ต่อให้รูปร่างและขนาดต่างกันแล้วมันมีผลกระทบอะไร? แค่ติดไฟได้ก็พอแล้วไม่ใช่หรือ?
เมื่อมองไปที่ห้องครัวอีกครั้ง ฟืนที่ไหม้เกรียมทั้งเล็กและใหญ่ก็กระจายอยู่ทั่วห้องครัว
เห็นได้ชัดว่าเขาเผาฟืนไปครึ่งหนึ่งแล้วหยิบออกมาและโยนมันทิ้งไป
ถึงจะเป็นแค่ฟืน แต่ก็สิ้นเปลืองและไร้เหตุผลเช่นนี้ไม่ได้
และเมื่อมองไปยังเสื้อผ้าอันยุ่งเหยิงซึ่งถูกเผาไหม้ หัวใจของกู้ชูหน่วนรู้สึกเป็นทุกข์
ผ้าทุกชิ้นเป็นผ้าคุณภาพเยี่ยม แต่น่าเสียดายที่ทุกชิ้นมีรอยไหม้ ไม่สามารถนำมาใช้งานได้
“เช่นนั้นเหตุใดเจ้าจึงต้องไปยังตำหนักเว่ยหยาง และขโมยเสื้อของเหวินเส่าอี๋มา?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่แปลให้อ่านนะคะ อ่านถึง 1174 แล้วรอตอนต่อไปอยู่ค่ะ...
ไม่อัพจบเหรอคะ...
เป็นนางเอกที่นิสัยแย่ที่สุดตั้งแต่เคยอ่านมา...
คือตัวเองไม่มีเงิน แต่คิดจะเอาทุกอย่างด้วยราคาสูงเสียดฟ้า แล้วก็หาคำพูดให้คนอื่นจ่ายแทน ตัวเองหาประโยชน์จากคนใกล้ตัวแต่กลับเอาใจให้คนอื่นตลอดเนี่ยนะ...
แม่นางกู้เกินเยียวยาแล้วเด้อ 555...
เยี่ยเฟิงเป็นคนดีมาก แต่เขาทนงตัวเกินไป ชีวิตที่ผู้อื่นฝ่าฟันเพื่อแย่งชิงลมหายใจเขาไว้ แต่เขาก็ดิ้นรนกลับไปหาความตายอยู่เรื่อย...
ท่านอาจารย์พูดให้คิดดีมากเลย แต่อาหน่วนจะเข้าใจไหม นางดูมั่นหน้า มั่นใจเกิตเหตุแบบไม่สนสี่สนแปดใดใดเลย...
อยากให้กลับมาอัพเดทไวๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ...
สรุปเรื่องนี้มีตอนจบมั้ยค่ะ...
รอตอนจบอยู่นะคะ ใจบางไม่ไหวแล้วทรมาน...