“พวกเจ้าพาองครักษ์ไปยังตำหนักม่อ นำเสื้อผ้าทั้งหมดของเขาออกมาเผา หากเหลือแม้แต่ตัวเดียว หัวของพวกเจ้าจะหลุดจากบ่า”
“ขอรับ......”
เด็กรับใช้ถอยออกไปด้วยความหวาดกลัว
ตั้งแต่เฟิงโห้วฟื้นขึ้นมา ราวกับว่ามีบางอย่างผิดปกติไป เขาเยือกเย็นจนน่าตกใจ
ความเงียบเข้ามาปกคลุมตำหนัก มีเพียงเหวินเส่าอี๋ผู้เดียวเท่านั้นที่ยังนั่งอยู่ด้วยความไม่พอใจ
ทันใดนั้นเอง ร่างหนึ่งก็กระโดดเข้ามาจากทางหน้าต่าง
เขามีรูปร่างที่แข็งแกร่ง เคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็วราวกับเสือ แม้แต่องครักษ์ของตำหนักเว่ยหยางเองก็ไม่สังเกตเห็น
“นายท่าน......”
“เหตุใดถึงปรากฏตัวออกมาเวลานี้”
“ฝ่าบาทสั่งปิดตำหนักเว่ยหยาง ไม่ง่ายเลยกว่าพวกข้าจะเข้ามาได้”
“เป็นอย่างที่คิด......ฮึ......”
ใบหน้าที่สง่างามของเหวินเส่าอี๋ปรากฏรอยยิ้มแห่งความเหยียดหยาม ราวกับว่าเขารู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นเช่นนี้
“นายท่าน แผ่นอักษรสีเหลืองปรากฏออกมาแล้ว มันปรากฏออกมาที่แท่นทหารเดียวดายแห่งชานฉุ่ย ผู้อาวุโสของเผ่าหลายท่านเดินทางไปยังชานฉุ่ย หวงกุ้ยจวินเองก็ต้องการแย่งชิงแผ่นอักษรสีเหลือง โดยให้เหตุผลว่ามันเกี่ยวโยงกับชีวิตแล้วความตายของหวงกุ้ยจวิน มีเพียงแผ่นอักษรสีเหลืองเท่านั้นที่สามารถช่วยเขาได้ ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันมาเป็นเวลาหลายเดือน ทำให้มีผู้บาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก”
“เพื่อแย่งชิงแผ่นอักษรสีเหลือง รองหัวหน้าเผ่าจึงถูกคนของหวงกุ้ยจวินเล่นงานจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ทุกวันนี้เป็นหรือตายก็ยังไร้ซึ่งร่องรอย”
“ไม่กี่วันก่อนหน้านี้ ฝ่าบาททรงฟื้นขึ้นมา บอกว่าหากพวกเราถอยทัพ นางจะช่วยพวกเราตามหาตัวรองหัวหน้าเผ่า แต่ทุกวันนี้ก็ยังไม่ได้ข่าวของรองหัวหน้าเผ่าเลยแม้แต่น้อย”
เหวินเส่าอี๋กล่าวอย่างเฉยเมย “รองหัวหน้าเผ่าหายตัวไป? หายไปนานแค่ไหน? ก่อนที่จะหายตัวไป เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสงั้นหรือ?”
“นายท่าน รองหัวหน้าเผ่าหายตัวไปเป็นเวลาเดือนกว่าแล้ว ก่อนหายตัวไปเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส ข้าน้อย......ข้าน้อยเองก็ไม่ค่อยเข้าใจ รู้เพียงแค่ว่ารองหัวหน้าเผ่าได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการถูกรุมทำร้าย”
“คนในเผ่าของพวกเราตามหารองหัวหน้าเผ่ามาโดยตลอด แต่ราวกับรองหัวหน้าเผ่าระเหยเป็นไอ ไม่ว่าจะตามหาอย่างไรก็ไร้ซึ่งร่องรอย”
“แม้......แม้แต่คนของหวงกุ้ยจวินเองก็กำลังตามหาเขาอยู่ และยังคงไม่มีข่าวคราวแต่อย่างใด รู้เพียงแค่ว่าเขาหายตัวไปจากธารน้ำแข็งชานฉุ่ย”
“จากการคาดเดาของผู้อาวุโสหลายคนในเผ่า เป็นไปได้ว่ารองหัวหน้าเอาอาจจะตกลงไปในลำธาร จากนั้นลำธารแข็งตัว ประกอบกับกระแสน้ำวนด้านล่าง บางที......บางที......”
“ตามหา ตามหาต่อไป ไม่ว่าจะเป็นหรือตายก็ต้องตามหารองหัวหน้าเผ่าให้พบ”
“ขอรับ”
อาการป่วยของอี้หยุนเฟยรุนแรงขึ้นทุกวัน หัวใจของนางแทบจะแหลกสลาย ไม่ง่ายเลยว่าจะได้พัก แต่หลังจากนั้นไม่นาน ผู้รับใช้ก็วิ่งเข้ามารายงานด้วยความรีบร้อน
“ฝ่า......ฝ่าบาท คนของตำหนักเว่ยหยางนำเสื้อผ้าของม่อกุ้ยจวินทั้งหมดมาเผา ม่อกุ้ยจวินโกรธมาก จับคนของตำหนักเว่ยหยางขังไว้ จากนั้น......จากนั้นเขาก็เผาตำหนักเว่ยหยาง”
กู้ชูหน่วนแทบจะตกลงมาจากเก้าอี้
“เจ้าว่าอย่างไร? เหวินเส่าอี๋ให้คนนำเสื้อผ้าของอาม่อไปเผางั้นหรือ? เหตุใดเขาจึงทำเช่นนั้น?”
เสี่ยวหูเตี๋ยไม่ใช่คนหุนหันพลันแล่นเช่นนั้นไม่ใช่หรือ?
“ดูเหมือนว่า......ม่อกุ้ยจวินไปเก็บดอกไม้อันเป็นที่ชื่นชอบของเฟิงโห้ว เด็ดออกมาโดยไม่เหลือสักดอก และยังขโมยชาม ถ้วน หม้อ กระทะของตำหนักเว่ยหยางไปจนหมด แม้......แม้กระทั่งเสื้อผ้าของเฟิงโห้วก็ไม่เว้น เสื้อและกางเกงด้านในก็ไม่เหลือสักตัว”
ผู้รับใช้ไม่กล้ารายงานไปมากกว่านี้
ม่อกุ้ยจวินช่างเป็นคนพึ่งพาไม่ได้และไร้ประโยชน์เสียจริง
สามเรื่องที่กล่าวมานี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องไหนก็ไร้สาระทั้งสิ้น
ยิ่งไปกว่านั้นเขายังขโมยเสื้อและกางเกงด้านในของเฟิงโห้ว
เช่นนี้ใครจะไปทนไหว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่แปลให้อ่านนะคะ อ่านถึง 1174 แล้วรอตอนต่อไปอยู่ค่ะ...
ไม่อัพจบเหรอคะ...
เป็นนางเอกที่นิสัยแย่ที่สุดตั้งแต่เคยอ่านมา...
คือตัวเองไม่มีเงิน แต่คิดจะเอาทุกอย่างด้วยราคาสูงเสียดฟ้า แล้วก็หาคำพูดให้คนอื่นจ่ายแทน ตัวเองหาประโยชน์จากคนใกล้ตัวแต่กลับเอาใจให้คนอื่นตลอดเนี่ยนะ...
แม่นางกู้เกินเยียวยาแล้วเด้อ 555...
เยี่ยเฟิงเป็นคนดีมาก แต่เขาทนงตัวเกินไป ชีวิตที่ผู้อื่นฝ่าฟันเพื่อแย่งชิงลมหายใจเขาไว้ แต่เขาก็ดิ้นรนกลับไปหาความตายอยู่เรื่อย...
ท่านอาจารย์พูดให้คิดดีมากเลย แต่อาหน่วนจะเข้าใจไหม นางดูมั่นหน้า มั่นใจเกิตเหตุแบบไม่สนสี่สนแปดใดใดเลย...
อยากให้กลับมาอัพเดทไวๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ...
สรุปเรื่องนี้มีตอนจบมั้ยค่ะ...
รอตอนจบอยู่นะคะ ใจบางไม่ไหวแล้วทรมาน...