เป็นเยี่ยจิ่งหานจริง ๆ อย่างนั้นหรือ?
ต่อให้เป็นเยี่ยจิ่งหานในช่วงที่รุ่งเรืองที่สุด เขาก็ไม่อาจทำเช่นนี้ได้
ยิ่งไปกว่านั้นเวลานี้เขาไร้ซึ่งวรยุทธ์ ร่างกายเจ็บปวดสาหัส ทำให้เหล่าลูกน้องต้องดูแลเขาอย่างใกล้ชิด
เกรงว่า......
ปัญหาน่าจะเกิดขึ้นในจากภายในของรัฐฉู่
หรืออาจจะเป็นบุคคลลึกลับที่อยู่เบื้องหลังของรัฐฉู่ผู้นั้น
รัฐฉู่ถอนทัพ การประชุมในราชสำนักก็จบลงโดยธรรมชาติ
ด้านนอกของท้องพระโรง เยี่ยเฟิงยืนรอการกลับมาของกู้ชูหน่วนตามปกติ
“นายท่าน......”
“รัฐฉู่ถอนทัพแล้ว”
“รัฐฉู่ถอนทัพ เจ้าไม่ดีใจอย่างนั้นหรือ?”
“จะไม่ดีใจได้อย่างไร แต่รู้สึกว่ามันแปลกไปเล็กน้อย”
“ข้าจะพาเจ้ากลับตำหนัก”
“ไม่จำเป็น ข้าอยากกลับไปที่จวนหานอ๋อง”
ดวงตาของเยี่ยเฟิงมีแสงปรากฏออกมา ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป เพียงแค่คุ้มครองนางเงียบ ๆ อยู่ข้างกาย
“สายลับที่ส่งออกไปสืบเรื่องราวของเยี่ยจิ่งหาน ยังไม่ได้ข่าวอะไรกลับมาเลยงั้นหรือ?”
“ยังไม่ได้อะไรกลับมาเลย”
ดวงตาของกู้ชูหน่วนมืดลง นางยังคงเดินต่อไปอย่างโดดเดี่ยว
“ทุกคนต่างบอกว่า หากเบื้องบนปฏิบัติตัวไม่ดี ด้านล่างก็จะปฏิบัติตาม เจ้าเชื่อมันหรือไม่?”
กู้ชูหน่วนหันกลับมา “เจ้าอยากจะพูดอะไร?”
“ไม่มีอะไร ข้าเพียงรู้สึกว่า บางครั้งสิ่งที่มองเห็นนั้นอาจจะไม่ใช่ความจริงหรือสิ่งที่ถูกต้อง”
“ลั่วอิ่ง เหตุใดข้าจึงรู้สึกว่ามีบางอย่างแอบแฝงอยู่ในคำพูดของเจ้า?”
เยี่ยเฟิงยิ้มออกมา ท้องฟ้ามืดลงด้วยความประหลาดใจ
กู้ชูหน่วนเองก็ถูกทำให้งุนงงด้วยรอยยิ้มของเขา
“เรื่องอื่นล้วนไม่สำคัญ สิ่งที่สำคัญที่สุดขอเพียงชีวิตนี้ได้อยู่ข้างกายเจ้า ปกป้องเจ้าตลอดไป”
ประตูทางเข้าจวนหานอ๋อง
กู้ชูหน่วนมองไปรอบ ๆ ด้วยอารมณ์และความรู้สึก
ความทรงจำในอดีตหลั่งไหลเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง ยิ่งหลั่งไหลเข้ามา นางก็ยิ่งรู้สึกคิดถึงเยี่ยจิ่งหาน
จวนหานอ๋องยังคงเหมือนเดิมทุกประการ สิ่งที่ไม่เหมือนก่อนหน้านี้มีเพียงอย่างเดียว เมื่อก่อนที่นี่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย สนุกสนาน แต่เวลานี้เต็มไปด้วยความเยือกเย็น รกร้างไม่มีใครสนใจ
แม้แต่ยามที่เฝ้าประตูยังหลับ
“เอี๊ยด......”
ประตูจวนขนาดใหญ่เปิดออก ชิวเอ๋อร์ออกมาพร้อมกับตะกร้าในมือ ทันใดที่ได้เห็นกู้ชูหน่วน ดวงตาทั้งสองข้างของนางก็เบิกกว้างทันที
“คุณ......คุณหนู......คุณหนูใช่ไหม? ข้าไม่ได้ตาฝาดไปใช่หรือเปล่า”
“อ่า......หน้าตาคล้ายกับเยี่ยเฟิงคุณชายเยี่ยเฟิงเป็นอย่างมาก แม้แต่ท่าทางและพฤติกรรมก็เหมือนกันทุกอย่าง”
คนพูดไม่คิดอะไร แต่คนฟังนั้นเต็มไปด้วยความคิดมากมาย ทำให้กู้ชูหน่วนขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย
หัวใจของเยี่ยเฟิงเต้นไม่เป็นจังหวะ
ชำเลืองมองการตอบสนองของกู้ชูหน่วน เห็นว่านางไม่ได้มีทีท่าอะไร แค่พูดคุยกับชิวเอ๋อร์ถึงเรื่องจิปาถะทั่วไปเท่านั้น
นอกจากนี้เขาก็มองไม่ออกว่า แท้จริงแล้วกู้ชูหน่วนกำลังสงสัยเขาอยู่หรือไม่
ด้วยความระมัดระวังของนาง ไม่แน่ว่านางอาจจะสังเกตเห็นอะไรบางอย่างไปแล้วก็ได้
ด้านในของจวนอ๋องเยือกเย็นและเงียบสงบเสียยิ่งกว่าด้านนอก มีวัชพืชเติบโตขึ้นมากมาย เหล่าคนรับใช้ก็เอาแต่ซ่อนตัวอยู่ด้านข้างอย่างกระสับกระส่ายและหย่อนยาน
“เหตุใดจวนหานอ๋องถึงกลายเป็นเช่นนี้?”
ดวงตาของชิวเอ๋อร์มืดลง จากนั่นก็พึมพำออกมา “คุณหนูอาจจะไม่รู้ ตั้งแต่คุณหนูกับท่านอ๋องหายตัวไป จักรพรรดิก็กดดันจวนหานอ๋องของพวกเรามาโดยตลอด เอาแต่สร้างปัญหาให้พวกเรา จักรพรรดิต้องการทำลายจวนหานอ๋องให้สิ้นซาก แต่ยังดีที่พระพันปีออกมาหน้ามาปกป้องจวนหานอ๋องเอาไว้”
“หลังจากนั้นก็เกิดสงครามระหว่างสองประเทศขึ้นมา รัฐฉู่จ้องที่จะจัดการกับพวกเราจวนหานอ๋อง คนเก่าคนแก่มากมายในจวนหานอ๋องถูกรัฐฉู่ฆ่าตาย รัฐฉู่ยังกล่าวออกมาอีกว่า ตราบใดที่ยังเป็นคนของจวนหานอ๋อง แค่พวกเขาเห็น พวกเขาก็จะสังหารในทันที”
“ดังนั้น......ดังนั้นเหล่าผู้รับใช้ที่อยู่ในจวนหานอ๋องก่อนหน้านี้จึงได้ออกไปจากที่นี่ คนที่อาศัยอยู่ส่วนใหญ่ก็มีแต่ญาติพี่น้อง พวกเขาต้องการปกป้องจวนหานอ๋อง แต่ก็ได้แต่ทำงานไปวัน ๆ เนื่องจากพวกเขาไม่มีแรงใจที่จะทำงานกันแล้ว”
“จักรพรรดิต้องการทำลายจวนหานอ๋อง เรื่องนี้ข้ายังพอเข้าใจได้ แต่เหตุใดรัฐฉู่จึงต้องการทำลายจวนหานอ๋องด้วย?”
“เรื่องนี้ข้าเองก็ไม่รู้เช่นกัน ตรงกันข้าม หลังจากที่จักรพรรดิองค์ใหม่ขึ้นครองบัลลังก์แห่งรัฐฉู่ พวกเขาก็ยิ่งมุ่งเป้ามาที่จวนหานอ๋องของพวกเรา รวมถึงเพื่อเก่าของท่านอ๋อง หลายคนต่างถูกฆ่าตายด้วยเนื้อมือของพวกเขา”
เห็นว่าเหล่าคนรับใช้ผู้เกียจคร้านยังคงไม่เคลื่อนไหว ชิวเอ๋อร์จึงตะโกนออกมาว่า “พระชายากลับมาแล้ว พวกเจ้ายังไม่รีบออกมาต้อนรับพระชายากลับจวนอีกอย่างนั้นหรือ”
ในตอนนั้นเหล่าคนรับใช้ถึงค่อย ๆ ลุกขึ้นยืนและมองหน้ากัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่แปลให้อ่านนะคะ อ่านถึง 1174 แล้วรอตอนต่อไปอยู่ค่ะ...
ไม่อัพจบเหรอคะ...
เป็นนางเอกที่นิสัยแย่ที่สุดตั้งแต่เคยอ่านมา...
คือตัวเองไม่มีเงิน แต่คิดจะเอาทุกอย่างด้วยราคาสูงเสียดฟ้า แล้วก็หาคำพูดให้คนอื่นจ่ายแทน ตัวเองหาประโยชน์จากคนใกล้ตัวแต่กลับเอาใจให้คนอื่นตลอดเนี่ยนะ...
แม่นางกู้เกินเยียวยาแล้วเด้อ 555...
เยี่ยเฟิงเป็นคนดีมาก แต่เขาทนงตัวเกินไป ชีวิตที่ผู้อื่นฝ่าฟันเพื่อแย่งชิงลมหายใจเขาไว้ แต่เขาก็ดิ้นรนกลับไปหาความตายอยู่เรื่อย...
ท่านอาจารย์พูดให้คิดดีมากเลย แต่อาหน่วนจะเข้าใจไหม นางดูมั่นหน้า มั่นใจเกิตเหตุแบบไม่สนสี่สนแปดใดใดเลย...
อยากให้กลับมาอัพเดทไวๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ...
สรุปเรื่องนี้มีตอนจบมั้ยค่ะ...
รอตอนจบอยู่นะคะ ใจบางไม่ไหวแล้วทรมาน...