กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ นิยาย บท 750

กู้ชูหน่วนออกจากถ้ำไปยืนอยู่จุดสูงสุดแล้วมองลงไป เมื่อมองลงไปแล้วก็พบว่าว่าเผ่าเพลิงฟ้าอันกว้างใหญ่มีเพลิงไฟลุกขึ้นสู่ฟ้า และเต็มไปด้วยเงาของการเข่นฆ่ากัน

ท่ามกลางพวกเขา ตำหนักสวรรค์นั้นรุนแรงที่สุด

สู้กันถึงเพียงนี้แล้ว เชื่อว่าอีกประเดี๋ยวก็คงสิ้นสุดแล้วล่ะ

เป็นเวลาสามวันเต็มที่กู้ชูหน่วนยืนมองดูการเคลื่อนไหวทุกฝีก้าวของเผ่าเพลิงฟ้าอยู่หน้าถ้ำ

เพลิงไฟที่ลุกอย่างรุนแรงในตอนแรก บัดนี้ได้ค่อยๆ เบาลงไปแล้ว

ในนั้นมีหลายแห่งที่มองไม่เห็นเพลิงไฟแล้ว นอกจากตำหนักสวรรค์ ตรงนั้นถูกไฟลุกลามเผาไหม้อย่างต่อเนื่องเป็นเวลาสามวันสามคืน

หากเผากันเช่นนี้ต่อไป เกรงว่าทั้งตำหนักสวรรค์คงจะถูกเผาจนไม่เหลือซากแล้ว

สามวันมานี้ กู้ชูหน่วนได้แบกความโกรธไว้ในใจ

เหวินเส่าอี้ผู้โดดเดียวไร้พลังและความสามารถ ถูกรองหัวหน้าเผ่าซือคงฆ่าอย่างเหี้ยมโหด

“รายงาน…นายท่าน ไอ้คนเลวทรามซือคงมิรู้ว่าไปนำมือสังหารตัวฉบังมาจากที่ใดกัน ตอนนี้ทั้งเผ่าเพลิงฟ้าจึงถูกมันควบคุมไว้หมดแล้ว”

มือสังหาร?

หอวิญญาณทมิฬ?

หอวิญญาณทมิฬถูกนางทำลายไปแล้วมิใช่หรือ?

มือสังหารที่เหลือก็ตายอยู๋ในจวนแม่ทัพทั้งหมด เหตุใดจึงยังมีคนมากมายเพียงนั้นเชียว?

เมื่อมองลงไป บริเวณตำหนักสวรรค์และเผ่าเพลิงฟ้าหลายแห่งมีเงาร่างของคนชุดดำอยู่อัดแน่นเต็มไปหมด ดูก็รู้เลยทันทีว่ามีคนไม่น้อย

“ทูลนายท่าน หอวิญญาณทมิฬถูกทำลายจริง ทว่านอกเสียจากหอวิญญาณทมิฬแล้ว ยังมีองค์กรมือสังหารองค์กรหนึ่งชื่อว่า หอดาวประดับฟ้า ซึ่งหอดาวประดับฟ้าก็เป็นพลังอำนาจที่ไอ้คนเลวทรามซือคงฝึกฝนเลี้ยงดูออกมาเองกับมือ เพียงแต่โดยปกติแล้วหอดาวประดับฟ้าจะไม่ปรากฏตัวบนยุทธจักรเท่าไรนัก เพราะเช่นนั้นคนในยุทธจักรจึงมิค่อยรู้จักพวกมันนัก”

“ครั้งนี้ นอกจากหอดาวประดับฟ้าแล้ว ไอ้คนเลวทรามซือคงยังร่วมมือกับหุบเขาตันหุยด้วย มิรู้เหมือนกันว่าพวกมันให้อะไรกับหุบเขาตันหุย หุบเขาตันหุยที่ยิ่งใหญ่เพียงนั้นถึงได้เคลื่อนไหวลูกศิษย์แทบทั้งหุบเขา เพื่อรวมพลังกับไอ้คนเลวทรามซือคงเช่นนี้ได้”

“มิเพียงเท่านี้ หุบเขาตันหุยยังนำยาทั้งหมดที่สะสมมานานหลายร้อยปีให้กับไอ้คนเลวทรามซือคงด้วย ทำให้ฝั่งไอ้คนเลวทรามซือคงมีพลังเพิ่มมากขึ้นไปอีก”

หุบเขาตันหุย?

กู้ชูหน่วนแปลกใจเล็กน้อย

จากที่นางรู้มา นายน้อยแห่งหุบเขาตันหุยจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องราวในยุทธจักรโดยไม่มีเหตุผล เพียงแค่อยากเอาตัวรอดเท่านั้น

ช่วยเหลือไอ้คนเลวทรามซือคงแล้ว ก็เสมือนเป็นศัตรูกับหออันดับหนึ่งในใต้หล้าอย่าง นิกายอสูร เผ่าหยก เผ่าน้ำแข็งและอื่นๆ นายน้อยแห่งหุบเขาตันหุยคงไม่ประมาทเช่นนี้หรอก

น่าหลานหลิงลั่วเองก็มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อนางอยู่บ้าง การเป็นศัตรูกับพวกนางนั้นไม่เป็นผลดีใดๆ กับพวกเขาเลย

ต้องมีลับลมคมในอย่างแน่นอน

“เหวินเส่าอี้ล่ะ?” กู้ชูหน่วนถาม

“ยังติดอยู่ในตำหนักสวรรค์ มิสามารถออกมาได้ บ่าวรับใช้ของเขาต่างก็บาดเจ็บสาหัส คาดว่าทนต่อไปได้ไม่นานแล้ว”

ผู้คนในเผ่าหยกต่างดีใจ

มีเพียงกู้ชูหน่วนคนเดียวที่สีหน้าดูไม่ดีใจเลย

นางมองที่ตำหนักสวรรค์เนิ่นนาน ริมฝีปากบางๆ ยกสูงขึ้น และกล่าวเบาๆ ว่า “เสี่ยวลู่ เจ้าไปที่ตำหนักสวรรค์กับข้าที”

ผู้อาวุโสของเผ่าหยกก็ตามมาด้วย เมื่อได้ยินที่นางพูด ก็อดมิได้ที่จะถาม “หัวหน้าเผ่า ท่านจะไปที่ตำหนักสวรรค์ทำไมกัน บริเวณนั้นเป็นบริเวณที่วุ่นวายที่สุดของเผ่าเพลิงฟ้าแล้ว ไม่ว่าในพวกเขาใครจะชนะใครจะแพ้ ก็ไม่เกี่ยวกับเรา รอให้สงครามจบลงพวกเราค่อยไปก็ไม่สาย”

“ข้าเป็นหัวหน้าเผ่า หรือเจ้าที่เป็นหัวหน้าเผ่ากัน”

“ขอรับ...”เหล่าผู้อาวุโสมิกล้าพูดมากอีก ทำได้เพียงถอยกลับอย่างไม่พอใจ

กู้ชูหน่วนกับเสี่ยวลู่แปลงกายเป็นคนหน้าตาอัปลักษณ์เช่นเคย ด้วยวิชาตัวเบาที่คล่องแคล่วชำนาญรวมทั้งตัวละครที่พิเศษ จึงได้เดินทางมาถึงตำหนักสวรรค์อย่างไร้อุปสรรค

เลือดกระจายไปทั่วทุกทิศ ย้อมติดเป็นสีแดงไปทั่วพื้นดิน ศีรษะของเขาตกลงบนพื้น ดวงตาของลูกศิษย์ที่ตายไปเบิกกว้าง เห็นได้ชัดว่าเขาตายตาไม่หลับ

ลูกศิษย์คนอื่นๆ ที่ถูกจับเป็นเชลยจ้องน่าหลานหลิงลั่วเขม็งตาแทบจะแยกออกจากกัน

เสียงก่นด่าของซ่งอวี้ดังออกมาจากตำหนักสวรรค์

“ซือคง พวกเขาเป็นศิษย์เผ่าเพลิงฟ้าทั้งนั้น เจ้ายอมทนเห็นคนนอกฆ่าพวกเขาต่อหน้าเช่นนี้งั้นหรือ?”

รองหัวหน้าเผ่าซือคงกล่างอย่างช้าๆ “พวกเขาเป็นศิษย์เผ่าเพลิงฟ้าจริง แต่ทว่าพวกมันทรยศเผ่าเพลิงฟ้า หากพวกเจ้าไม่ยอมแพ้โดยเร็ว ก็อย่าโทษว่าข้าไร้น้ำใจแล้วกัน”

ผู้อาวุโสสูงสุดซ่งหยวนกล่าว “น่าหลานหลิงลั่ว พวกเราไม่มีความแค้นความบาดหมางต่อหุบเขาตันหุย เหตุใดเจ้าถึงได้นำคนของเจ้ามาฆ่าพวกข้าเช่นนี้กัน”

“เผ่าเพลิงฟ้ากับหุบเขาตันหุยความสัมพันธ์ดีกันมาตลอด พวกเจ้าจับหัวหน้าเผ่าเป็นตัวประกัน พวกข้าแค่ต้องการคืนความยุติธรรมให้กับหัวหน้าเผ่าเพลิงฟ้าเท่านั้น”

“ถุย ภายนอกดูศักดิ์สิทธิ์ แต่ภายในไร้ศีลธรรมและยางอาย”

“เวลาหนึ่งกระบอกทรายจะหมดลงแล้ว พวกเจ้าคิดดีหรือยัง?”

ภายในตำหนักสวรรค์มีเสียงรีบร้อนกังวลดังออกมา ราวกับกำลังพูดคุยอะไรกันอยู่

ลูกศิษย์ที่ถูกจับเป็นเชลยอยู่นอกตำหนักก็หัวเราะขึ้นมาในบัดดล “ก็แค่ตายมิใช่หรือ จะไปกลัวอะไรกัน ผ่านไปยี่สิบปีก็กลายเป็นคนคนหนึ่งแล้ว ไอ้คนทรยศซือคง เจ้าจะฆ่าก็รีบฆ่าซะ ข้าไม่กลัวหรอก”

“ฉับ…”

ศีรษะของลูกศิษย์ตกลงมาอีกหนึ่งคน

ผู้สังหารยังคงเป็นน่าหลานหลิงลั่วเช่นเคย

รองหัวหน้าเผ่าซือคงดูสบายใจมากนัก ลูกศิษย์เผ่าเพลิงฟ้าคนอื่นๆ มีบางคนที่ทนไม่ไหว แต่ก็ไม่มีผู้ใดกล้าร้องขอไว้ชีวิตได้

กู้ชูหน่วนมองน่าหลานหลิงลั่วที่แววตาเย็นชา เต็มไปด้วยจิตสังหาร นางไม่อยากเชื่อเลยว่าน่าหลานหลิงลั่วที่นางรู้จักในอดีตที่ซุกซน อ่อนโยน และมีอารมณ์ขันคนนั้น จะเป็นน่าหลานหลิงลั่วที่ฆ่าคนโดยไม่ต้องกระพริบตาเลยคนนี้

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์