กู้ชูหน่วนพยายามอย่างสุดความสามารถโดยไม่หันกลับไปมองข้างหลัง นางรู้เพียงนางต้องรีบเร่ง รีบเร่ง และรีบเร่งเท่านั้น
"เฟี้ยวๆๆ......"
"ตู้มๆๆ......"
"ปังๆๆ......"
ประตูลับแต่ละบานถูกปิดลง ทว่าประตูลับกลับถูกทำลายลงอย่างต่อเนื่อง
กู้ชูหน่วนสามารถรับรู้ได้ว่า จักรพรรดินีตามหลังนางมาไม่ไกลนัก และอีกเพียงนิดเดียวก็สามารถไล่ตามทันแล้ว
หลังจากที่ไล่ตามทัน สิ่งที่ทั้งสองคนต้องเผชิญก็คือความตายเท่านั้น
ท่านผู้เฒ่าหนิงรีบกล่าวขึ้นมา "ข้าได้กลายเป็นคนพิการไร้ความสามารถไปแล้ว เจ้าพาข้าไปด้วยเช่นนี้ก็มีแต่ละเป็นภาระให้เจ้าเท่านั้น เจ้าหนีไปเถอะ ปล่อยข้าไว้ที่นี่ ไม่ต้องสนใจข้า"
"มีข้าอยู่ทั้งคน นางไม่มีทางทำอะไรท่านได้"
ประตูหินถูกทำลายลงอีกบาน และเศษก้อนหินเกือบกระเด็นมาโดนใบหน้าของกู้ชูหน่วน
"คิดหนีหรือ ฝันไปเถอะ ข้าจะจับพวกเจ้ามาถลกหนัง จะสับพวกเจ้าให้ละเอียดและนำไปโยนให้สุนัข ฮ่าๆๆ......"
จักรพรรดินีไล่ตามมาใกล้มากเหลือเกิน
ใกล้จนแทบจะมองเห็นเงาของนางแล้ว
กู้ชูหน่วนรู้สึกร้อนใจอย่างมาก
ท่านผู้เฒ่าหนิงก็ร้อนใจเป็นอย่างมาก
หากกระดูกของเขาไม่ถูกหักไปทั้งตัว เขาก็คงกระโดดลงไปนานแล้ว
เขาอายุมากปูนนี้แล้ว แก่จนแทบจะลงโลงแล้ว ไม่มีประโยชน์ที่จะอยู่เป็นภาระเด็กสาววัยรุ่นคนหนึ่งต่อไป
เมื่อเห็นว่าใกล้จะถึงห้องลับห้องนั้นที่สำหรับกักขังจักรพรรดินีตัวจริง กู้ชูหน่วนกัดฟันและเร่งความเร็วอย่างสุดชีวิต
นางวิ่งพลางกัดนิ้วมือของตัวเองพลาง เพื่อให้เลือดที่ไหลออกมาผนึกเข้าไปยังประตูหิน
"ตู้มๆๆ......"
จักรพรรดินีเหาะมา
กู้ชูหน่วนนั่งหอบเหนื่อยอยู่ข้างกำแพงหิน
นางวิ่งอย่างต่อเนื่องอยู่นาน ทำให้เรี่ยวแรงของนางแทบจะหมดลงแล้ว
และหวังเพียงแค่ประตูหินบานนี้จะสามารถปิดกั้นจักรพรรดินีเอาไว้ได้
เมื่อเห็นว่าประตูหินยังไม่ปิดลง
จักรพรรดินีก็พุ่งมาถึงข้างหน้าแล้ว กู้ชูหน่วนจนอดไม่ได้และลุกขึ้นไปรีบปิดประตูหินลงอย่างรวดเร็ว
ท่านผู้เฒ่าหนิงรู้สึกลุ้นระทึกจนหัวใจแทบหยุดเต้น
โชคดีที่
ประตูหินได้ปิดลงแล้ว
อีกเพียงนิดเดียว
อีกเพียงนิดเดียวเท่านั้น จักรพรรดินีเกือบพุ่งเข้ามาในประตูหินเสียแล้ว
"ตู้มๆๆ......"
ฝ่ามือทั้งสองของจักรพรรดินียังคงโจมตีประตูหินอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดเสียงดังกึกก้อง
ทำให้เส้นทางลับเกิดการสั่นสะเทือนขึ้นอีกครั้ง
ท่านผู้เฒ่าหนิงกล่าวว่า "เจ้าอย่าสนใจข้าเลย เจ้ารีบหนีไปเถอะ หากนางทำลายประตูหินได้จะลำบากเอาเสีย"
กู้ชูหน่วนถอนหายใจและมีเหงื่อไหลหยดย้อย "วางใจเถอะ ประตูหินนี้ ต่อให้เป็นยอดฝีมือระดับเจ็ดก็ไม่อาจทำลายได้"
ท่านผู้เฒ่าหนิงไม่เข้าใจ บนโลกใบนี้ยังมีอะไรที่สามารถขัดขวางวรยุทธ์ของยอดฝีมือระดับเจ็ดได้อีกอย่างนั้นหรือ? "ประตูหินนี้มีน้ำหนักกว่าห้าร้อยตัน ต่อให้นางมีวรยุทธ์ระดับเจ็ด นางก็คือคน ไม่ใช่เทวดา เช่นนั้นแล้วนางจะทำลายลงได้อย่างไร? อีกทั้งภายในประตูหินยังมีเครื่องรางอาคมที่เหนือชั้นกว่าระดับเจ็ดเสียอีก"
พูดไปเช่นนั้น ทว่าประตูหินถูกโจมตีอย่างหนักและมีเสียงระเบิดดังอย่างต่อเนื่อง กู้ชูหน่วนจึงหามท่านผู้เฒ่าหนิงเดินไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง
ไม่รู้ว่าเดินไปนานมากเพียงใด ทว่าเสียงระเบิดไม่ได้ดังรุนแรงเหมือนเดิมแล้ว จากนั้นกู้ชูหน่วนจึงได้วางท่านผู้เฒ่าหนิงลง และทำการห้ามเลือดและรักษาอาการบาดเจ็บให้เขา
ท่านผู้เฒ่าหนิงกล่าวออกมาอย่างอ่อนล้า "ไม่จำเป็นแล้ว ข้า......ข้าใกล้จะไม่ไหวแล้ว"
กู้ชูหน่วนรู้สึกเจ็บปวดใจอย่างมาก
ท่านผู้เฒ่าหนิงไม่เพียงถูกหักกระดูกทั้งร่างกาย ดวงตาของเขาก็ถูกควักออกไปข้างหนึ่ง อีกทั้งร่างกายของเขาก็เต็มไปด้วยบาดแผลที่มีเลือดออกอย่างสาหัส มีบาดแผลทั้งภายในและภายนอกเต็มไปหมด ต่อให้เทวดามาโปรดก็เกรงว่าจะรักษาไม่หาย
"ไม่เป็นเช่นนั้นหรอก ข้าจะทำการห้ามเลือดให้ท่านก่อน และหลังจากออกไปจากที่นี่ได้ ข้าจะทำการรักษาอาการบาดเจ็บของท่านเป็นอย่างดี"
"ไม่......ไม่มีประโยชน์แล้ว ข้าโชคดีมากที่พลังของข้าไม่ถูกนางผู้หญิงบ้าคลั่งคนนั้นดูดพลังไป ไม่เช่นนั้น......หากวรยุทธ์ของนางเพิ่มขึ้นอีก ไม่รู้จะทำร้ายคนอื่นอีกเท่าไร"
เมื่อพูดถึงพลังวรยุทธ์ ดูเหมือนท่านผู้เฒ่าหนิงจะนึกอะไรขึ้นได้
เขาดูมีสติมากขึ้นและมองไปยังกู้ชูหน่วน
"เด็กน้อย เจ้าจับมือข้าไว้"
กู้ชูหน่วนจับมืออันเหี่ยวย่นของเขาไว้ และนางคิดว่าเป็นเพราะเขาเอ็นดูนาง จึงคิดอยากจะจับมือนางก่อนจะตายจากโลกนี้ไป
นึกไม่ถึงว่าหลังจากที่จับมือท่านผู้เฒ่าหนิงแล้ว จะมีพลังงานอันแข็งแกร่งส่งผ่านฝ่ามือเข้าสู่ร่างกายของนาง และเข้าไปถึงแขนขาทั้งสองข้าง ทำให้ร่างกายของนางรู้สึกสบายและอุดมสมบูรณ์อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
กู้ชูหน่วนรู้สึกตกใจอย่างมากและคิดอยากจะดึงมือตัวเองกลับ ทว่าทำอย่างไรก็ไม่สามารถดึงกลับไปได้
"ตาเฒ่า ท่านทำอะไรน่ะ รีบหยุดเดี๋ยวนี้"
"วรยุทธ์ของข้านี้ ข้าขอส่งมอบให้กับเจ้ายังดีเสียกว่าที่จะตายไปพร้อมกับข้า มันอาจจะมีประโยชน์กับเจ้าบ้าง อะแอ่ม......"
วรยุทธ์ในร่างกายของกู้ชูหน่วนยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อยๆ และดูเหมือนจะสามารถเพิ่มระดับขึ้นไปได้
ทว่าท่านผู้เฒ่าหนิงกลับอ่อนล้าลงเรื่อยๆ ใบหน้าที่เหี่ยวย่นอยู่แล้ว กลับดูดซูบเซียวลงราวกับหนังหุ้มกระดูก เพราะสูญเสียวรยุทธ์ไปจำนวนมาก
เส้นผมของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีหงอกอย่างรวดเร็ว ไม่มีเส้นผมสีดำเลยแม้แต่เส้นเดียว
กู้ชูหน่วนสามารถรับรู้ได้ว่าลมหายใจของเขากำลังจะหมดไปในไม่ช้า
นางร้อนรนอย่างมาก "ตาเฒ่า ข้าไม่ต้องการวรยุทธ์ของท่านข้าก็สามารถเพิ่มระดับวรยุทธ์ไปถึงระดับเจ็ดได้ ท่านรีบหยุดเถอะ"
"ตระกูลหนิงมีวิชาเฉพาะจำนวนมาก นี่เป็นวิชาหนึ่งในนั้น ต่อให้กระดูกของข้าจะแตกหักไปทั้งหมด แต่ข้ายังคงสามารถส่งมอบวรยุทธ์ของข้าให้แก่เจ้าได้ เด็กน้อย เจ้าหยุดพูดได้แล้ว รีบตั้งใจดูดพลังเถอะ"
กู้ชูหน่วนจะมีสมาธิตั้งใจดูดพลังได้อย่างไร
เดิมทีท่านผู้เฒ่าหนิงก็บาดเจ็บสาหัสมากแล้ว และยิ่งเป็นเช่นนี้ เขาจะต้องตายลงอย่างแน่นอน
ร่างกายของนางเสมือนกับลูกบอลที่ลอยอยู่ในอากาศที่ถูกเป่าลมครั้งแล้วครั้งเล่า
เป่าจนนางแทบจะแตก
"ตู้ม......"
เมื่อร่างกายอดทนจนถึงขั้นสุด กู้ชูหน่วนได้เพิ่มระดับวรยุทธ์ไปถึงระดับสี่ขั้นสูง และเพิ่มไปถึงระดับห้า......
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่แปลให้อ่านนะคะ อ่านถึง 1174 แล้วรอตอนต่อไปอยู่ค่ะ...
ไม่อัพจบเหรอคะ...
เป็นนางเอกที่นิสัยแย่ที่สุดตั้งแต่เคยอ่านมา...
คือตัวเองไม่มีเงิน แต่คิดจะเอาทุกอย่างด้วยราคาสูงเสียดฟ้า แล้วก็หาคำพูดให้คนอื่นจ่ายแทน ตัวเองหาประโยชน์จากคนใกล้ตัวแต่กลับเอาใจให้คนอื่นตลอดเนี่ยนะ...
แม่นางกู้เกินเยียวยาแล้วเด้อ 555...
เยี่ยเฟิงเป็นคนดีมาก แต่เขาทนงตัวเกินไป ชีวิตที่ผู้อื่นฝ่าฟันเพื่อแย่งชิงลมหายใจเขาไว้ แต่เขาก็ดิ้นรนกลับไปหาความตายอยู่เรื่อย...
ท่านอาจารย์พูดให้คิดดีมากเลย แต่อาหน่วนจะเข้าใจไหม นางดูมั่นหน้า มั่นใจเกิตเหตุแบบไม่สนสี่สนแปดใดใดเลย...
อยากให้กลับมาอัพเดทไวๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ...
สรุปเรื่องนี้มีตอนจบมั้ยค่ะ...
รอตอนจบอยู่นะคะ ใจบางไม่ไหวแล้วทรมาน...