บทที่ 636 เก็บตัวถือศีล
"จอมยุทธ์ลึกลับจิ่งเถิงจะทำการต่อสู้กับเฉินเฟิงหวาเซี่ยที่ทะเลสาบตะวันตกหวาเซี่ยในอีกสิบวันข้างหน้า!”
ขณะที่เฉินเฟิงกำลังตั้งใจศึกษาศิลปะการต่อสู้อยู่นั้น หนังสือท้าประลองนี้ก็ได้ประกาศบนฟอรั่มบูโดทั่วโลก ทำให้จอมยุทธ์ทั่วโลกพากันเสวนาไปต่างๆนานา
เพราะคนมากมายต่างรู้เรื่องการต่อสู้ที่ประสบความสำเร็จของเฉินเฟิงก่อนหน้านี้ ดังนั้นครั้งนี้ คนที่จอมยุทธ์ทุกคนให้ความสนใจจึงเปลี่ยนเป็นจิ่งเถิง
หนึ่งในกระทู้ มีการแนะนำจิ่งเถิงและตระกูลจิ่งอย่างละเอียด
"จากข้อมูลและรายงานที่ผมรวบรวมมาหลายๆด้าน วันนี้สามารถมั่นใจได้ว่า จิ่งเถิงที่ท้าประลองกับเฉินเฟิงนั้นมาจากตระกูลจิ่งซึ่งคือหนึ่งในตระกูลศิลปะการต่อสู้แห่งตระกูลใหญ่ของหวาเซี่ย จากข้อมูลในอดีตที่ผ่านมา ตระกูลจิ่งคือหนึ่งในตระกูลศิลปะการต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในหวาเซี่ย!”
"หนึ่งพันปีที่ผ่านมานี้ ตระกูลจิ่งเคยมีมหาปรมาจารย์แห่งบูโดถึงสามคน! ตระกูลจิ่งในวันนี้ ยังคงมีการสืบทอดกันอย่างสมบูรณ์แบบ ร้อยปีที่ผ่านมานี้ พวกเขาไม่ค่อยเข้ามายุ่งกับเรื่องทางโลก แต่เมื่อออกมาแล้ว ก็จะต้องทำให้บูโดของหวาเซี่ยเกิดเรื่องใหญ่และสั่นสะเทือนเป็นอย่างมาก! ยกตัวอย่าง เมื่อหนึ่งร้อยยี่สิบปีก่อน......"
ข้อมูลของประกาศนี้ครบถ้วนมาก ไม่เพียงแต่มีประวัติและการพัฒนาของตระกูลจิ่ง แต่ยังมีข้อมูลส่วนตัวของจิ่งเถิง รวมถึงเรื่องที่จิ่งถิงฝึกหมัดหยินหยางขั้นสุดยอดที่ไม่มีการสืบทอดตั้งแต่เล็กรวมถึงเรื่องที่เขาออกมาท่องโลกตอนที่อายุสิบหกปี และเรื่องที่เขาเอาชนะอัจฉริยะของสำนักใหญ่ต่างๆ
"เป็นจริงตามที่คิดเอาไว้ จิ่งเถิงเป็นอัจฉริยะที่แข็งแกร่งมาก ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่กล้าท้าประลองกับเฉินเฟิง" หลังจากอ่านเนื้อความของกระทู้แล้วนั้น ภายในใจของจอมยุทธ์ทั่วโลกพอจะคิดเอาไว้บ้างแล้ว เป็นไปตามที่พวกเขาคิด จิ่งเถิงเป็นจอมยุทธ์ที่แข็งแกร่งมาก!
เพราะความแข็งแกร่งของจิ่งเถิง บนฟอรั่มจึงมีการเปลี่ยนแปลงไปทิศทางอื่น
ตอนที่เรื่องนี้เพิ่งแพร่ออกมานั้น แทบจะทุกคนในฟอรั่มต่างก็คิดว่าจิ่งเถิงไม่เจียมตัว รนหาที่ตาย ทว่าหลังจากข้อมูลของตระกูลจิ่งและจิ่งเถิงแพร่ออกมา ทิศทางในการเสวนาของผู้คนก็ค่อยๆเปลี่ยนไป เริ่มมีคนคิดว่าคนที่จะชนะในตอนสุดท้ายคือตระกูลจิ่ง
และคำพูดเหล่านี้ จนถึงตอนนี้ กลายเป็นกระแสหลักของฟอรั่มไปแล้ว โดยมีสองเหตุผล
ข้อหนึ่ง นอกจากข้อมูลของตระกูลจิ่งและจิ่งเถิงถูกเปิดเผย ยังมีคนให้ข่าวใหญ่ บอกว่าบนโลกใบนี้ยังมีตระกูลที่เก็บซ่อนความสามารถเอาไว้เหมือนกับตระกูลจิ่ง อิทธิพลของผู้นำครอบครัวแต่ละคนเทียบเท่ากับความแข็งแกร่งของอันดับเทพสิบอันดับแรก ผู้สืบทอดของอิทธิพลล้วนเป็นคนหนุ่มที่มีความสามารถด้านการต่อสู้แข็งแกร่งที่สุด ห่างไกลจากอัจฉริยะในวงการศิลปะการต่อสู้ตอนนี้มาก ทว่าเฉินเฟิงแม้ความสามารถที่แสดงออกมาจะแข็งแกร่งมาก แต่เมื่ออยู่ตรงหน้าอิทธิพลด้านวิทยายุทธที่ซ่อนตัวเอาไว้นั้น เขาไม่มีข้อดีอะไรเลย
ข้อสอง จิ่งเถิงได้ส่งหนังสือท้าประลองนานกว่ายี่สิบสี่ชั่วโมงแล้ว แต่เฉินเฟิงไม่ยอมตอบรับคำท้า ซึ่งก็หมายความว่าเฉินเฟิงไม่มั่นใจว่าจะสามารถเอาชนะจิ่งเถิงได้ อีกทั้งยังคิดว่าตนเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ของจิ่งเถิง ไม่กล้ารับคำท้าประลอง!
เฉินเฟิงจะตอบรับคำท้าไหม? ถ้าเฉินเฟิงตอบรับคำท้า เขาจะสามารถเอาชนะจิ่งเถิงที่แสนลึกลับได้ไหม? ตอนที่ผู้สืบทอดตระกูลจิ่งส่งหนังสือท้าประลองไปให้เฉินเฟิง แทบจะทุกคนที่ให้ความสนใจกับการประลองครั้งนี้ ภายในใจล้วนมีคำถามสองข้อ
ตามวันเวลาที่เดินผ่าน ความสงสัยและคาดหวังในใจของทุกคนยิ่งมากขึ้น
ทว่าเฉินเฟิงที่แข็งแกร่งมาโดยตลอด ไม่ได้เป็นอย่างที่ทุกคนคิดเอาไว้ ว่าเขาจะให้คำตอบอย่างรวดเร็ว
ห้าวัน
เวลาห้าวันเต็มๆ เฉินเฟิงยังไม่ให้คำตอบใดๆ
ในเวลาเดียวกันสิ่งนี้ทำให้คนที่สนใจการประลองครั้งนี้ใจร้อนสุดจะทน และอดไม่ได้ที่จะพูดกันไปต่างๆนาน
"ผ่านไปห้าวันแล้ว เฉินเฟิงไม่ปรากฏตัวออกมา ไม่ให้คำตอบ ซึ่งสามารถอธิบายได้ข้อหนึ่ง——เขาคิดว่าความสามารถของตนเองเทียบกับจิ่งเถิงไม่ได้ ไม่กล้ารับคำท้าของจิ่งเถิง!”
"ฉันรู้แล้ว เจ้าเด็กนั่นกำลังเก็บตัวถือศีล ไม่มีเวลาสนใจไอ้เด็กที่ชื่อจิ่งเถิงอะไรนั่น" เจ้าสามหวงปรายตามองสี่พี่น้องตระกูลเฉิน แล้วพูด
"ที่แท้ก็กำลังเก็บตัวถือศีลนี่เอง ฉันก็ว่า อาจารย์อาเฉินไม่ใช่คนที่ไม่กล้ารับคำท้า" ได้ยินคำตอบของเจ้าสามหวง สี่พี่น้องตระกูลเฉินก็โล่งใจ ก่อนหน้านี้พวกเขายังเป็นกังวล คิดว่าเฉินเฟิงไม่กล้ารับคำท้าจริงๆ
"จากนิสัยของอาจารย์อาเฉิน ลาศีลเมื่อไหร่ ต้องให้คำตอบทันทีแน่ๆ พูดให้ถูกก็คือรับคำท้า จากนั้นก็ฆ่าจิ่งเถิงนั่นซะ! อาจารย์ ฉันรู้สึกว่าเมื่อเทียบกับสำนักอู่ตัง พวกเราควรจะไปสักหน่อย ไปดูอาจารย์อาเฉินสู้จนจิ่งเถิงกลายเป็นหมาตายตัวหนึ่ง!”เฉินจื๋อหลี่พูดเสนออย่างมีความสุข
"ได้!”เจ้าสามหวงพยักหน้าเล็กน้อย ทว่าภายในใจกลับเป็นกังวล พวกเฉินจื๋อหลี่ไม่รู้ถึงความน่ากลัวของจิ่งเถิง พวกเขาไม่เคยคิดว่าเฉินเฟิงจะแพ้......
"อ้างอิงจากคนที่อยู่ใกล้ชิดกับเฉินเฟิง ที่เฉินเฟิงไม่ออกมาพูดอะไร ไม่ได้เป็นเพราะไม่กล้ารับคำท้า แต่เป็นเพราะกำลังเก็บตัวถือศีลฝึกวรยุทธ์ รอให้ลาศีลก่อนแล้วจะตอบจิ่งถิงอย่างแน่นอน!”
เย็นวันนั้น มีคนนิรนามโพสบอกบนฟอรั่มบูโด
จากนั้น คำพูดนี้ก็กระจายไปอย่างรวดเร็ว เข้าสู่หูของทุกคนที่ให้ความสนใจในเรื่องนี้ อีกทั้งยังทำให้เกิดการพูดคุยดุเดือด
"ฉันรู้สึกว่าข้อมูลนี้เชื่อถือได้"
"จากข้อมูลที่พูดมานี้ ไม่ว่าเฉินเฟิงจะรับหรือไม่รับคำท้า สุดท้ายแล้วก็จะให้คำตอบ"
"หยุดพูดเรื่องที่ว่าเฉินเฟิงจะรับหรือไม่รับคำท้าไปก่อนชั่วคราว วิเคราะห์จากข้อมูลแล้ว เฉินเฟิงไม่มีความมั่นใจในการเอาชนะจิ่งเถิง ไม่อย่างนั้นก็คงรอจนถึงเก็บตัวถือศิลจบแล้วค่อยให้คำตอบ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร
คือรำคาญพระเอกแนวนี้มากมีเงินรวยแต่ทำตัวติดดินให้คนดูถูกตัวเอง ดูถูกตัวเองก็ไม่เท่าไรเมียตัวเองต้องมาทนโดนดูถูกไปด้วยเพื่อ..ตระกระความคิดนี้มันยังไง ไม่ต้องอวดรวยก็ได้ แค่รู้จักปรับลุคตัวเอง ให้ไม่ดูติดดินเกินไปจนคนอื่นดูถูกแค่นี้ก็ยากเกินไปรึไง ไม่รำคาญพวกโง่วิ่งมาหาเรื่อง ก็ควรนึกถึกว่าพวกโง่จะหาเรื่องเมียตัวเองด้วยสิ...
งง ตั้งแต่ตอน800มาเนี่ยเหมือนคนละเรื่องเลย แค่พระเอกชื่อเด่วกัน จู่ๆพระเอกก้อไปจีบหลินหวั่นชิวซะงั้น ตัวละครเก่าหายหมด มีแต่ตัวละครใหม่ผุดขึ้นมา ต่อสู้กันแบบไมม่มีสาเหตุ...
อ่านมาถึงตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าอ่านไปปวดหัวไป เล่าประวัติพระเอกมาว่าเป็นเด็กที่ถูกตระกูลทอดทิ้ง แม่ตายออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่เล่ามาซะอย่างกับพระเอกเก่ง ฉลาด ทันคน มีความรู้ อ่านแล้วหงุดหงิดใจริงๆ...