บทที่ 67 ฉันเป็นหมา
ความเป็นจริง ขณะนั้นหานหลงสับสนยิ่งกว่าใคร เขาอยู่บนทางสายนี้มากว่าสามสิบปี จะไม่รู้ได้ยังไงว่าเฉินเฟิงกำลังหลอกเขา แต่ถ้าหนึ่งในหมื่นล่ะ?
ถ้าความเป็นไปได้หนึ่งในหมื่นเฉินเฟิงไม่ได้หลอกเขา และให้เขาเลือกแค่สองทางจริงๆ ไม่เป็นหมา ก็ตาย!
หานหลงจะกล้าเอาชีวิตตัวเองเป็นเดิมพันรึเปล่า?
เขาไม่กล้า!
ชีวิตของหานหลงส่วนใหญ่อยู่ในพายุแห่งการนองเลือด กว่าจะสร้างรากฐานมาได้จนถึงวันนี้มันไม่ง่าย ตอนนี้ก็ถึงวัยที่จะได้เพลิดเพลินกับความสุขสักที จะให้ไปตาย? เขาทนไม่ได้!
ถึงแม้ว่าการเป็นสุนัขรับใช้ใครจะไม่สง่างาม เรียกได้ว่าน่าอับอาย
แต่ถ้าเทียบกับชีวิตแล้ว ของอย่างหน้าตา ก็ไม่ต้องพูดถึงเลย!
“ฉันจะเป็นหมา!” หานหลงยิ้มอย่างเศร้าใจ สุดท้ายแล้วก็เลือกไปแล้วทางหนึ่ง
เมื่อสิ้นเสียงพูดของเขา แรงบีบที่คอก็คลายลง จากนั้นทั้งตัวก็ถูกทิ้งลงกับพื้น
“ท่านหาน!”
“เฮ้ย! ฆ่ามัน!”
เหล่าลูกน้องที่เต็มไปด้วยความขุ่นเคืองก็คิดอยากจะจัดการเฉินเฟิงขึ้นมา พวกเขาขอไม่พูดถึงคุณธรรมอะไรนัก นอกจากนี้หานหลงก็ยังถูกคุกคาม
“หยุด!” หานหลงตะโกนอย่างเย็นชา หยุดทุกคนเอาไว้
ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยคิดจะกลับคำ แต่ตอนที่เฉินเฟิงปล่อยเขาลงกับพื้นโดยไม่ได้คิดจะให้เขายืนยันใดๆ เลยนั้น มันชัดเจนแล้วว่าเฉินเฟิงมั่นใจในตัวเองอย่างเต็มที่ โดยไม่กลัวเลยสักนิดว่าเขาจะหักหลัง!
ส่วนความมั่นใจนั้นมาจากไหน หานหลงมีคำตอบในใจอยู่แล้ว
เฉินเฟิง คือคนที่เขาต่อกรดด้วยไม่ได้!
“ท่านหาน พวกเรามีคนตั้งมากขนาดนี้....”ลูกน้องที่ไม่เชื่อ ไม่ได้รู้สึกว่าเฉินเฟิงมีอะไรขนาดนั้น
“ไม่ต้องพูดแล้ว!” หานหลงโบกมือ มองเฉินเฟิงด้วยใบหน้านิ่งสงบ “คุณเฉิน ตั้งแต่วันนี้ ผมหานหลงคือสุนัขตัวหนึ่งของคุณ ถ้าคุณสั่งให้ผมไปกัดใคร ผมก็จะกัด!”
“ดี!”
เฉินเฟิงหรี่ตา ตอบอย่างเรียบง่าย หานหลงคนนี้ ยกได้วางได้ไม่ยึดติด ทั้งยังเป็นนึงอันดับหนึ่ง ถ้าไม่บังเอิญมาเจอเขา คงจะสร้างชื่อเสียงกระฉ่อนในชางโจวได้จริงๆ
แต่การตามเขามา ก็ไม่ได้แปลว่าหานหลงจะย่ำแย่กว่าในอดีต กลับกันจะเป็นเวทีที่ใหญ่ขึ้นอีก
“จุนเหวิน เรื่องก่อนหน้านี้ของนายกับคุณเฉิน ลุงเข้าไปยุ่งด้วยไม่ได้แล้ว แต่ลุงแนะนำว่าก้มหัวให้คุณเฉินแล้วขอโทษซะ คนใจกว้างอย่างเขาก็คงจะไม่คิดเล็กคิดน้อยอะไรกับนาย”สายตาของหานหลงหันมาที่เสิ่นจุนเหวินอีกครั้ง อันที่จริงถ้าให้บอกคนที่เขาเกลียดที่สุด ตอนนี้เสิ่นจุนเหวินต้องติดสามอันดับแรกแน่ ยังไงเสียก็เป็นเพราะเสิ่นจุนเหวิน เขาถึงได้มาจมปลักแบบนี้
แต่เรื่องมันก็มาถึงนี่แล้ว เขาก็ไม่มีทางทำอะไรเสิ่นจุนเหวินได้ ถึงยังไงคนที่หนุนหลังเสิ่นจุนเหวินอยู่ก็ยังมีเสิ่นหงชัง จึงทำได้แค่เป็นผู้สร้างสันติ แก้ไขความขัดแย้งระหว่างเสิ่นจุนเหวินกับเฉินเฟิง ไม่อย่างนั้น หากเฉินเฟิงจะให้เขาจัดการกับเสิ่นจุนเหวิน เขาจะทำยังไง?
เสิ่นหงชังเองก็ไม่ใช่คนที่เขาจะไปเล่นด้วย!
เสิ่นจุนเหวินหน้าซีดเผือด เหงื่อเย็นผุดขึ้นเต็มหน้าผาก เมื่อมองตาของเฉินเฟิง เขารู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาเป็นครั้งแรก ความกลัวนี้ ถึงเฉินเฟิงจะคว่ำบอดี้การ์ดนับสิบของเขาลง ก็ไม่เคยมีมาก่อน
แต่ตอนนี้ เขากลัวแล้ว!
ตอนนี้หานหลงไม่กล้าจะดูถูกเฉินเฟิงอีกต่อไป เดิมทีเขาคิดว่า เฉินเฟิงเป็นเพียงคนบ้าบิ่นที่มีทักษะเยี่ยมยอด ตอนนี้ดูเหมือนว่า ระดับจิตใจของเฉินเฟิงเองก็ไม่เลวเลยเช่นกัน
ถ้าพูดในอีกด้านหนึ่ง เฉินเฟิงนั้นเหมาะสมจะเป็นผู้นำยิ่งกว่าเขาเสียอีก
“งั้นฉันก็ขอขอบคุณคุณเฉินแทนพี่น้องทุกคนด้วย” หานหลงเอ่ยอย่างจริงใจ เขารู้แจ้งแล้วว่าตอนนี้ตัวเขาคือคนของเฉินเฟิงแล้ว แทนที่จะบอกว่าเงินนี้เป็นเงินที่เสิ่นจุนเหวินให้เขา ควรจะบอกว่าเป็นเฉินเฟิงที่ให้เขามากกว่า
“ไม่ต้องหรอก”เฉินเฟิงส่ายหน้า เขาในตอนนี้ไม่ได้ขาดแคลนเงิน บัตรที่เฉินจงให้เขามาเมื่อครั้งก่อน ในบัตรมีเงินฝากอยู่หมื่นล้าน เฉินเฟิงจนตอนนี้ยังไม่ได้ใช้เลยสักสลึง
ส่วนเหตุผลที่เขาให้เงินนี้กับหานหลง ด้านหนึ่งก็เพราะไม่อยากให้หลินหลันได้เงินนี้ ส่วนอีกทางกลับกันก็เพื่อเอาใจหานหลงกับพวกลูกน้องของเขาสักหน่อย ถึงยังไงก่อนนี้เขาก็เคยทำลายหน้าตาของหานหลงมาก่อน
จากนี้หานหลงก็คือคนของเขาแล้ว ตามปกติไม่ควรให้หานหลงทิ้งความขุ่นเคืองหลงเหลืออยู่ในใจ
เมื่อเห็นว่าเฉินเฟิงไม่มีท่าทีจะหาความอะไรกับตัวเองแล้ว ในที่สุดเสิ่นจุนเหวินก็ถอดหายใจอย่างโล่งอก ขณะคิดจะเข้าไปใกล้เฉินเฟิง โทรศัพท์ก็กลับดังขึ้น คนที่โทรมานั้นคือเสิ่นหงชัง
“คุณลุง....”
“เจ้าเด็กบ้า! ตอนนี้แกอยู่ที่ไหน?!”เสิ่นจุนเหวินไม่ทันพูดจบ เสิ่นหงชังที่อยู่อีกฝั่งก็สวนกลับด้วยน้ำเสียงโกรธเกรี้ยว
“ลุง ผมอยู่ที่อาคารหวงเห้าครับ”เสิ่นจุนเหวินอึ้ง ไม่รู้ว่าทำไมเสิ่นหงชังถึงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟขนาดนี้
“คุณชายเฉินอยู่ข้างๆ แกรึเปล่า?”เสิ่นหงชังระงับความโมโหไว้ในใจก่อนถาม เขาเพิ่งจะลงจากเครื่องบินก็ได้ยินข่าวที่เหมือนฟ้าผ่าในวันแจ่มใส เสิ่นจุนเหวินเปิดการถ่ายทอดสด เปิดเผยเกี่ยวกับเสี้ยเมิ่งเหยา โดยตั้งใจที่จะฉีกหน้าเฉินเฟิง
ในตอนนั้น เสิ่นหงชังรู้สึกเหมือนท้องฟ้าจะถล่ม เขาเข้าสู่ตระกูลเฉินผ่านเฉินเฟิงอย่างยากลำบาก แต่สุดท้ายหลานชายตัวเองดันไปหลงรักภรรยาของเฉินเฟิงเข้า
เสิ่นหงชังแทบจะลมจับเพราะข่าวนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร
คือรำคาญพระเอกแนวนี้มากมีเงินรวยแต่ทำตัวติดดินให้คนดูถูกตัวเอง ดูถูกตัวเองก็ไม่เท่าไรเมียตัวเองต้องมาทนโดนดูถูกไปด้วยเพื่อ..ตระกระความคิดนี้มันยังไง ไม่ต้องอวดรวยก็ได้ แค่รู้จักปรับลุคตัวเอง ให้ไม่ดูติดดินเกินไปจนคนอื่นดูถูกแค่นี้ก็ยากเกินไปรึไง ไม่รำคาญพวกโง่วิ่งมาหาเรื่อง ก็ควรนึกถึกว่าพวกโง่จะหาเรื่องเมียตัวเองด้วยสิ...
งง ตั้งแต่ตอน800มาเนี่ยเหมือนคนละเรื่องเลย แค่พระเอกชื่อเด่วกัน จู่ๆพระเอกก้อไปจีบหลินหวั่นชิวซะงั้น ตัวละครเก่าหายหมด มีแต่ตัวละครใหม่ผุดขึ้นมา ต่อสู้กันแบบไมม่มีสาเหตุ...
อ่านมาถึงตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าอ่านไปปวดหัวไป เล่าประวัติพระเอกมาว่าเป็นเด็กที่ถูกตระกูลทอดทิ้ง แม่ตายออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่เล่ามาซะอย่างกับพระเอกเก่ง ฉลาด ทันคน มีความรู้ อ่านแล้วหงุดหงิดใจริงๆ...