ลูกเขยมังกร นิยาย บท 702

บทที่ 702 โอกาสเพียงครั้งเดียว

“ถึงแม้จะว่าอย่างนั้นแต่แกก็ต้องจำไว้ พยายามฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างแกและเจ้าหญิงแอนนี่โดยเร็ว แกก็รู้ว่ามีเพียงความรู้สึกของคนสองคนลึกซึ้งเท่านั้นถึงจะทำให้ชีวิตหลังแต่งงานมีความสุขได้ อย่าเห็นแก่ผลประโยชน์ชั่วคราวจนทำให้เกิดผลเสียในระยะยาว”

อาเธอร์ไม่ค่อยวางใจนักจึงเอ่ยย้ำเตือนข่ายซ่าอีกครั้ง

“ครับ พี่วางใจได้ ผมจะจำคำพูดพี่ไว้!”

ข่ายซ่าที่อยู่อีกฟากของสายตอบรับอย่างขันแข็ง ถึงแม้เขาจะไม่รู้ว่าพ่อของตนเอ่ยถึงเรื่องการแต่งงานระหว่างพี่ชายและเจ้าหญิงแอนนี่ตอนไหน แต่เขารู้ว่าทำไมพี่ชายของเขาถึงปฏิเสธ นั่นก็เป็นเพราะว่าตั้งแต่พี่ชายของเขาเข้าไปเป็นราชองครักษ์ก็เกิดรักแรกพบกับธิดาเทพแห่งพรรคคูเรีย และนอกจากเธอคนนั้นแล้วจะไม่แต่งกับใครอีก

อีกทั้งที่พี่ชายพยายามฝึกฝนการต่อสู้ขนาดนี้ก็เป็นเพราะต้องการเรียกความสนใจจากธิดาเทพแห่งพรรคคูเรีย

และได้ยินมาว่าการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ระดับโลกในครั้งนี้ก็ได้รับความสนใจจากพระสันตะปาปา ซึ่งท่านต้องการคัดเลือกอัจฉริยะหนึ่งคนจากรุ่นเยาวชน จากนั้นจะจับคู่ธิดาเทพแห่งพรรคกับผู้ที่ถูกเลือก

อาเธอร์เองก็รับรู้ข่าวนี้ เกรงว่าผู้ชนะในการแข่งขันระดับโลกครั้งนี้เท่านั้นถึงจะเป็นเจ้าบ่าวให้กับธิดาเทพแห่งพรรคได้

ดังนั้นอาเธอร์จึงตั้งใจฝึกฝนการต่อสู้แม้ในยามกลางคืน เขาต้องแต่งธิดาเทพแห่งพรรคกลับเข้าบ้านให้ได้

หลังจากวางสาย อาเธอร์ก็มองไกลออกไปพลางคิดในใจ “การแข่งขันศิลปะการต่อสู้ในครั้งนี้ฉันจะต้องคว้าตำแหน่งนี้มาให้ได้ ฉันจะต้องเป็นคนที่แกร่งที่สุดในรุ่นเยาวชน แอนฉีเอ๋อรอฉันก่อนนะ!”

ณ หอคอยลอนดอนแห่งอังกฤษ

งานเลี้ยงวันเกิดของเจ้าหญิงแอนนี่จบลงแล้ว งานเลี้ยงครั้งนี้ถือว่าไม่เลวเลย แน่นอนว่าหากไม่มีข่ายซ่างานเลี้ยงก็จะสมบูรณ์แบบกว่านี้

แขกที่มาร่วมงานรวมถึงเฉินเฟิงเองล้วนแยกย้ายกันกลับไปแล้ว

เจ้าหญิงแอนนี่จัดการความเรียบร้อยอยู่พักหนึ่งก่อนจะเตรียมตัวกลับห้องพักไปอาบน้ำแล้วค่อยวิดีโอคอลหาเฉินเฟิง

ขณะนั้นเองสาวใช้ก็เดินเข้ามาเอ่ยกับเจ้าหญิงแอนนี่สองสามประโยค

“ท่านพ่อเรียกหาฉันหรือ?”

ถึงแม้แอนนี่จะไม่รู้ว่าบิดาเรียกหาเธอทำไม แต่แอนนี่ก็ไม่ชักช้ารีบเดินไปยังห้องที่บิดาของเธออยู่

“ท่านพ่อเรียกหาหนูมีเรื่องอะไรหรือคะ?”

แอนนี่ทำความเคารพบิดาทันทีที่ก้าวเข้าห้อง

“ฮ่าฮ่า มานี่มา งานเลี้ยงในครั้งนี้เป็นอย่างไรบ้าง?”

ใบหน้าของอิลัมโบประดับไปด้วยรอยยิ้มพลางมองแอนนี่อย่างรักใคร่

เขามีลูกชายหนึ่งคนหญิงหนึ่งคน ลูกชายเป็นเจ้าชายแห่งราชวงศ์อังกฤษและจะรับตำแหน่งพระราชาในอนาคต ส่วนลูกสาวก็คือเจ้าหญิงแอนนี่

สำหรับลูกสาวคนนี้ เรียกได้ว่าอิลัมโบทุ่มเทให้เป็นอย่างมากและให้ความรักกับเธอเป็นพิเศษ

“อืม!....ก็ดีค่ะ!”

เจ้าหญิงแอนนี่ลังเลพักหนึ่งทว่าก็ไม่ได้เล่าเรื่องที่ไม่น่ายินดีออกมา

ถึงเธอจะไม่พูดแต่อิลัมโบบิดาของเธอกลับเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นมา “ได้ข่าวว่าเฉินเฟิงจากประเทศหวาคนนั้นไล่ข่ายซ่าออกจากงานเลี้ยง เรื่องเป็นแบบนี้หรือไม่?”

“ใช่ค่ะท่านพ่อ ที่เป็นแบบนั้นก็เพราะว่าข่ายซ่าคนนั้นไม่เห็นใครอยู่ในสายตาเลย!”

เห็นได้ชัดว่าบิดาของเธอรู้เรื่องทั้งหมดแล้ว แอนนี่จึงไม่ได้ปิดบังและเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด

“เห้อ เกรงว่าลูกพ่อคงไม่ได้หมายถึงสาเหตุพวกนี้หรือเปล่า!”

เมื่อเห็นว่าแอนนี่ไม่พูด อิลัมโบก็เอ่ยต่อ “พ่อคิดว่าทั้งหมดนี้เป็นเพราะข่ายซ่าไม่เคารพเฉินเฟิงจากประเทศหวาคนนั้นมากกว่า ใช่ไหม?”

เมื่อบิดาพูดแทงใจ เจ้าหญิงแอนนี่ก็แก้มแดงระเรื่องทำตัวไม่ถูก

“ท่านพ่อบอกมาเลยค่ะ!” เจ้าหญิงแอนนี่จี้ถามต่อ

พระราชาอิลัมโบตาเป็นประกาย ฉับพลันก็นึกถึงการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ที่เป็นที่จับตามองในช่วงนี้ก่อนเอ่ยขึ้น “หากการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ในครั้งนี้เฉินเฟิงสามารถเอาชนะผู้เข้าแข่งขันทุกคนและคว้าแชมป์มาได้ เขาถึงจะมีสิทธิ์เป็นคู่แข่งกับข่ายซ่า โรโปรีเพื่อแต่งงานกับลูกได้!”

“ทราบแล้วค่ะ หนูหวังว่าท่านพ่อจะจดจำคำพูดในวันนี้ไว้ หากเฉินเฟิงคว้าแชมป์มาได้หลังจากนั้นเป็นต้นไปท่านพ่อห้ามมายุ่งเรื่องของหนูอีก!”

เจ้าหญิงแอนนี่เอ่ยด้วยน้ำเสียงมั่นใจเต็มเปี่ยม

“ลูก เรื่องนี้ไม่มีทางเป็นไปได้ เฉินเฟิงทำไม่ได้หรอก!”

พระราชาอิลัมโบส่ายหน้าพลางยิ้มอย่างระอา

“ท่านพ่อไม่รู้จักเฉินเฟิงดี จุดแข็งของเฉินเฟิงคือเปลี่ยนเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้!”

ใบหน้าของเจ้าหญิงแอนนี่ประดับไปด้วยรอยยิ้มราวกับเห็นเฉินเฟิงสง่างามอยู่บนเวที

วาติกันคือสถานที่การแข่งขันศิลปะการต่อสู้ในครั้งนี้ และโรงแรมวาติกันก็เป็นที่พักของบรรดาผู้เข้าแข่งขัน เรียกได้ว่าที่นี่มีความเพียบพร้อมในทุกด้าน การแข่งขันในครั้งนี้มีคนมาจากทั่วทุกมุมโลก และเพื่ออำนวยความสะดวกแก่พวกเขาห้องอาหารของโรงแรมวาติกันก็ทำการบ้านมาอย่างดี อาหารทุกประเทศบนโลกนี้ล้วนถูกยกมาไว้ที่นี่

อีกทั้งยังเป็นอาหารในรูปแบบบุฟเฟ่ต์ บรรดาจอมยุทธ์สามารถเลือกสรรได้ด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นตอนไหนเมื่อมาถึงที่นี่ก็จะมีอาหารพร้อมบริการอยู่ตลอดเวลา

เมื่อเฉินเฟิงมาถึงห้องอาหารก็เลยเวลาทานอาหารของคนส่วนใหญ่ไปแล้ว ถึงจะเป็นแบบนั้นแต่ก็ยังมีแขกอยู่จำนวนไม่น้อย เมื่อเฉินเฟิงก้าวเข้ามาในห้องอาหารสายตาเกือบทุกคู่ก็จับจ้องมาที่เขา

เฉินเฟิงคือใคร ช่วงนี้ชื่อเสียงของเขาเป็นที่รู้จักมากพอสมควร มากกว่าหัวหน้าราชองรักษ์แห่งวาติกันอย่างอาเธอร์เสียอีก

“ทางนี้ มาทางนี้!”

มีเสียงเรียกดังมาจากที่ไกลๆ เฉินเฟิงจึงหันไปดูก็พบว่าเป็นศีลสาม ตอนนี้ศีลสามกำลังทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อย มีอาหารอยู่เต็มปาก ในมือก็ยังถืออยู่ อาหารที่อยู่ตรงหน้าเขาล้วนเป็นอาหารประเภทเนื้อ จริงๆเลยพระสงฆ์นอกคอกคนนี้

เมื่อเห็นว่าไม่มีเสียงตะโกนจากรอบข้างของศีลสามแล้ว เฉินเฟิงจึงยิ้มขืนแล้วเดินมุ่งไปทางที่ศีลสามอยู่

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร