ลูกเขยมังกร นิยาย บท 889

เฉินเฟิงที่โดนว่าอย่างนั้นก็โมโหเช่นกัน เขาจึงตะเบ็งพูดด้วยน้ำเสียงสูงขึ้น : “แล้วคุณจะให้ผมทำยังไง จะให้ทำเป็นไม่สนใจคุณเลย แล้วปล่อยคุณนอนบนพื้นไว้คนเดียวทั้งคืนแบบนั้นผมทำไม่ได้หรอกนะ”

เมื่อโดนเฉินเฟิงพูดแบบนี้ใส่ เฟิ่งซีก็ไม่รู้ว่าจะโต้เถียงกลับอย่างไรดี ทั้งที่คนที่ถูกเอาเปรียบคือเธอแท้ๆ แต่เขาดันทำท่าทีน้อยใจแทนเสียอย่างนั้น และเมื่อเป็นแบบนี้เฟิ่งซีที่ยิ่งคิดก็ยิ่งโกรธเข้าไปอีก

“คุณมันก็แค่คนเลว” เธอด่าออกมา พร้อมกับหันหน้าหนีไม่สนใจเขาอีก

เฉินเฟิงเองก็เข้าใจว่าสิ่งที่เขาได้ทำลงไปนั้นดูเกินเลยไปหน่อย เขาจึงสงบอารมณ์ลงทันที: “ให้ผมได้ไถ่โทษกับคุณไม่ได้เลยหรอ? ผมผิดไปแล้ว คุณบอกผมมาว่าต้องทำยังไงคุณถึงจะยอมให้อภัย คุณคงไม่คิดจะทำแบบนี้กับผมไปตลอดหรอกนะ”

สองวันมานี้ถึงจะเหนื่อยล้าอย่างมาก แต่เฟิ่งซีที่หลังจากได้พักฟื้นแล้วท่าทีของเธอก็ดีขึ้นมากกว่าวันที่เป็นลมไปวันนั้น ใบหน้ากลับมามีน้ำมีนวลอีกครั้ง ริมฝีปากก็แดงระเรื่อชวนมอง พร้อมทั้งแก้มแสนกลมมนของเธอก็แทบจะทะลักน้ำออกมา

เมื่อได้ยินคำขอโทษจากเฉินเฟิง เฟิ่งซีก็เบะปากอย่างไม่มีความสุขมากนัก แต่ก็ยังหันหน้ากลับมามองเขา

“คุณสำนึกผิดแล้ว?”

เฉินเฟิงพยักหน้ายิกๆ : “อืม!ผมผิดไปแล้ว”

“ก็ได้ เพราะเห็นแก่ความจริงใจในตัวคุณ ฉันจะอภัยให้แล้วกัน ” เฟิ่งซีพูดอย่างใจกว้าง

และสิ่งนี้ทำเอาเฉินเฟิงตั้งตัวแทบไม่ทัน: “คุณว่ายังไงนะ?”

เฟิ่งซีพึมพำออกมาอีกครั้ง: “ทำไม ไม่อยากงั้นหรอ !”

เฉินเฟิงจึงรีบยกมือขึ้นมาสะบัดไปมา: “เปล่า ไม่ใช่”

ซึ่งในตอนนั้นเองที่เฟิ่งซีมองเห็นรอยแผลบนฝ่ามือที่เพิ่งตกสะเก็ดของเฉินเฟิง ทันใดนั้นสีหน้าของเธอก็แสดงอาการเป็นห่วงขึ้นมา ก่อนที่เธอจะรีบเข้าไปกุมมือนั้นของเขาแล้วใช้มือลูบเบาๆ พร้อมกล่าวถาม: “ยังเจ็บอยู่หรือเปล่า?”

มือข้างหนึ่งที่ถูกเฟิ่งซีกุมเอาไว้ทำให้รับรู้ถึงความเย็นที่แผ่ซ่านเข้ามา และความเรียบลื่นของมือนั้นก็ทำให้รู้สึกสบายอย่างมาก เฉินเฟิงจ้องมองไปยังใบหน้าที่วิตกของเฟิ่งซี ใจของเขาก็พลันถูกสะกดเอาไว้

เมื่อเห็นว่าเฉินเฟิงเหม่อมองมา เฟิ่งซีจึงตวาดมือขึ้นไปตบหน้าเขา : “คนเลว คุณก็รู้จักแต่จะรังแกคนอื่น”

เฉินเฟิงสะดุ้งพร้อมรีบตอบกลับ: “ผมไม่รังแกคุณหรอก ผมเคยสัญญากับพวกคุณเอาไว้แล้ว ยังไงผมก็ยังต้องปกป้องพวกคุณ ”

เฟิ่งซีใจอ่อนลงทันที พร้อมทั้งไม่คิดจะไปเอาเรื่องอะไรที่เขาจ้องมองเธอแบบนั้น

และในขณะที่เธอกำลังจะพูดบางอย่าง บริเวณด้านนอกลานก็มีเสียงฝีเท้าดังเข้ามา เฟิ่งซีจึงรีบขยับตัวเว้นระยะห่างกับเฉินเฟิงทันที

ส่วนเฉินเฟิงเองที่ไม่สามารถไปรั้นตัวเฟิ่งซีไว้ จึงได้แค่เปลี่ยนความสลดในใจเป็นความโกรธ เตรียมจะระบายอารมณ์กับคนที่กำลังจะเข้ามา

เพียงไม่นาน เชียนสวนยี่ก็เข้ามาพร้อมกับคนตระกูลเชียนอีกหลายคน เขาเข้ามาด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม ในเมื่อนายท่านเชียนฟื้นแล้วการที่เขาจะมีความสุขย่อมเป็นเรื่องปกติ

ส่วนด้านหลังของเขามีคนตามมาด้วยสี่คน ซึ่งแต่คนก็ถือกล่องสีเงินไว้คนละกล่อง ตอนนี้พวกเขาเหมือนกลุ่มคนที่จะไปทำการค้าขายเสียอย่างนั้น

หลงหลินที่อยู่ด้านในก็ดูเหมือนจะสังเกตได้ว่ามีคนเข้ามา เธอจึงเดินออกมา

เชียนสวนยี่ที่เดินมาถึงหน้าของพวกเขาไม่กี่คนก็พูดขึ้นด้วยรอยยิ้มทันที : “พวกคุณสองพี่น้องตระกูลฉางถือเป็นหมอที่มีทักษะอันเก่งกาจ ถึงได้ใช้เวลาเพียงแค่เจ็ดวันก็สามารถรักษาอาการของคุณพ่อได้แล้ว ความสามารถในการชุบชีวิตนี้ เกรงว่าจะมีความพิเศษมากกว่าสิ่งที่คนด้านนอกได้เล่าลือกัน ดังนั้นพวกเราตระกูลเชียนจึงไม่อาจที่จะติดค้างบุญคุณของพวกคุณได้”

เมื่อพูดจบ เขาก็ให้สี่คนที่อยู่ด้านหลังนำกล่องเหล่านั้นในมือของพวกเขามาวางไว้ตรงหน้าของพวกเฉินเฟิง

เพราะหากว่าตระกูลเชียนสามารถรักษาสถานะภาพในตอนนี้เอาไว้ได้ตลอด เช่นนั้นเมื่อเทียบกับของขวัญไม่กี่อย่างก่อนหน้านี้ที่เมื่อเอามารวมกันแล้ว ของชิ้นนี้ก็ยังถือว่ามีมูลค่ามากกว่าเป็นหลายเท่า แต่หากเกิดล้มละลายขึ้นมา นี่ก็จะกลายเป็นเพียงแค่แผ่นกระดาษเปล่าและไร้มูลค่าเท่านั้น

อย่างไรก็ตามการที่สามารถนำเอาหุ้นสิบเปอร์เซ็นออกมาแบบนี้ สามารถทำให้มองเห็นถึงความห้าวหาญในตัวของเชียนสวนยี่ได้เลย เพราะหากไม่ใช่คนที่มีความกล้าที่จะทำใจยกของแบบนี้ให้ผู้อื่นจริงๆ คนธรรมดาทั่วไปคงไม่มีใครตัดสินใจเรื่องนี้แบบนี้เด็ดขาด

รอจนกระทั่งเชียนสวนยี่พูดจบ หลงหลินถึงได้เอ่ยปากพูดอีกครั้ง: “ของเหล่านี้พวกเรารับไว้ไม่ได้จริงๆ ”

แม้แต่เฉินเฟิงเองก็ตกตะลึงไปตามๆ กัน เพราะสิ่งของเหล่านี้กับการช่วยชีวิตนายท่านเชียนเป็นการแลกเปลี่ยนที่คุ้มค่า และยังถือว่าเป็นการแลกเปลี่ยนที่ยุติธรรมมากเลยทีเดียว

และไม่ได้มีแค่เฉินเฟิงเท่านั้น เชียนสวนยี่เองก็คิดไม่ถึงเหมือนกัน เขาจึงถามกลับทันที: “ไม่ทราบว่าเพราะคุณหลงหลินรังเกียจของเหล่านี้งั้นหรอครับ ถ้าหากคุณคิดว่าน้อยไป ผมสามารถเพิ่มให้คุณได้อีก พวกคุณมีพระคุณกับพวกเราขนาดนี้ แต่พวกเรายังปล่อยให้พวกคุณต้องมาเจอกับเหตุการณ์น่าตกใจแบบนั้นในบ้านตระกูลเชียนอีก พวกเราเข้าใจดีว่าควรจะมอบของขวัญตอบแทนที่จะทำให้พวกคุณพึงพอใจที่สุด ”

แต่หลงหลินกลับยกมือขึ้นมาสะบัดพลันอธิบาย: “ฉันเคยบอกไปแล้วว่าที่พวกเราช่วยเหลือนายท่านเชียนไม่ใช่เพราะว่าสิ่งของเหล่านี้ ”

เฉินเฟิงที่ยืนอยู่ข้างๆ แทบอยากจะช่วยรับของเหล่านี้แทนสองพี่น้องตระกูลฉางแล้ว เพราะเมื่อลองนึกดูถึงเรื่องความเสี่ยงที่เกือบจะต้องเสียชีวิตมันก็มากพอที่พวกเธอจะรับของเหล่านี้ไว้แล้ว

แต่อย่างว่าเขาไม่ใช่พวกเธอสองคน

“สิ่งของเหล่านี้สำหรับพวกเราสองพี่น้องแล้วก็เป็นเพียงของที่ไร้ประโยชน์เท่านั้น ในทางกลับกันมันอาจจะทำให้พวกเราฟุ้งซ่านจนละความสนใจในการศึกษาสายการแพทย์ ดังนั้นคงต้องรบกวนให้เจ้าตระกูลเชียนเก็บของเหล่านี้กลับไปเถอะค่ะ ”

เมื่อเป็นอย่างนี้เชียนสวนยี่จึงไม่รู้ว่าควรจะรับมืออย่างไรดี เพราะเขาไม่เคยได้เจอคนที่ไม่สนใจในความมั่งคั่งแบบนี้มาก่อนเลยจริงๆ

แต่การจะให้นำของเหล่ากลับไปโดยตรงแบบนี้ก็จะดูน่าเกลียดเกินไป เขาจึงได้เพียงแต่พยายามกล่าวโน้มน้าวเท่านั้น : “ถ้าหากว่าคุณหลงหลินไม่ได้ใช้งาน ก็สามารถให้พวกเราช่วยดูแลชั่วคราวไปก่อนก็ได้ ถือว่าเอาฝากไว้ที่ตระกูลเชียนของเราไปก่อน”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร