ลูกเขยมังกร นิยาย บท 899

ใบหน้าของเฉินเฟิงแสดงออกถึงความเจ็บปวดรวดร้าว แต่ไป๋ซูกลับไม่คิดที่จะหยุดยั้งเลย

“ความจริงฉันก็ไม่มีอะไรมากหรอก เพียงแต่อยากจะเป็นเพื่อนกับพี่น้องสองสาวนั้น แต่เสียดายที่ว่า พวกเธอกลับรู้จักกับแกมาก่อนหน้าแล้ว นี่ทำให้ฉันรู้สึกไม่สบายใจอย่างมากเลย ดังนั้นถ้าเป็นไปได้.......”

ยังไม่ทันรอให้เขาพูดจบ เฉินเฟิงก็พูดว่า “แกก็เลยอยากให้ฉันไปจากพวกเธอ”

ไป๋ซูหัวเราะ “ช่างเป็นคนฉลาดเสียจริงเชียว ถ้าแกตกลงละก็ ฉันก็จะรีบช่วยแกออกไปทันทีเลย”

เฉินเฟิงมองหน้าเขาด้วยความเย็นชา กลับไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว นั่นก็คือการแสดงคำตอบออกมาแล้ว

รอยยิ้มของไป๋ซูก็เยือกเย็นทันที ตบหน้าเฉินเฟิงไปหนึ่งฉาก แล้วตะโกนด้วยความโกรธว่า “ไอ้เศษสวะ งั้นแกก็จมอยู่แต่ในกองขยะตรงนี้ต่อไปก็แล้วกัน”

ดูเหมือนเป็นเพราะว่าไม่ได้รับสิ่งที่อยากได้มากที่สุดจากตัวของเฉินเฟิงแล้ว ไป๋ซูก็ยิ่งไม่มีความอดทนที่จะอยู่ที่นี่อีกต่อไปแล้ว หันไปพูดกับอะซานสองสามคำ จากนั้นทั้งสองคนก็ปิดประตูแล้วเดินออกไปจากที่นี่

ภายในห้องใต้ดินที่มืดมิดนั้นก็เหลือแต่เฉินเฟิงอยู่เพียงคนเดียว

ภายในห้องนอนของหลงหลิน เฟิ่งซีและหลงหลินสองคนก็นอนอยู่บนเตียงด้วยกัน ท่าทางดูเหมือนกับว่าจะอ่อนล้ามาก

เฟิ่งซีเอาหน้าไปแนบใกล้กับซอกคอของหลงหลิน แล้วค่อยๆสูดดมกลิ่นอายจากร่างของหลงหลินกลิ่นคล้ายกับดอกกล้วยไม้จางๆโชยมา ทำให้ในใจเฟิ่งซีรู้สึกสงบนิ่งลงมาก

ต่อให้ในเวลาอันใกล้นี้มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายก็ตาม เธอก็ยังสามารถลืมมันไปแล้วนอนหลับอย่างเงียบสงบได้

หลงหลินดูเหมือนก็สัมผัสได้ว่าในใจของเฟิ่งซีรู้สึกไม่สบายใจ จึงยื่นมือไปกอดเธอไว้เบาๆ ก้มหัวลงไป ปลายคางก็ไปจรดกับผมที่นุ่มสลวยของเฟิ่งซีพอดี กลับทำให้รู้สึกว่าเธอไม่ได้กอดกับเฟิ่งซีอย่างใกล้ชิดเช่นนี้มาเป็นเวลานานแล้ว

หลงหลินพูดด้วยเสียงเบาๆว่า “เฟิ่งซี ดูเหมือนว่าพวกเราไม่ได้กอดกันอย่างนี้มานานแล้วนะ”

เฟิ่งซีตอบด้วยเสียงเบาๆว่า “อึม เป็นเวลานานมากแล้วจริงๆ ขอเพียงแต่มีพี่อยู่ข้างกายทุกครั้ง ฉันก็จะรู้สึกสบายใจเป็นพิเศษแล้ว”

หลงหลินพูดว่า “มีแกอยู่ข้างกายฉัน ฉันก็รู้สึกสบายใจมากขึ้นเหมือนกัน หลังจากที่อาจารย์จากไปแล้ว ก็เหลือแต่พวกเราสองคนพี่น้องอยู่พึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันมาตลอด”

เฟิ่งซีเงยหน้าขึ้นมา มองหน้าของหลงหลิน ทั้งสองคนเหมือนกำลังส่องดูกระจกอยู่ เพียงแต่เห็นใบหน้าที่เหมือนกัน แต่กลับมีสีหน้าที่ไม่เหมือนกัน

สีหน้าของหลงหลินนั้น มักจะแฝงด้วยความเยือกเย็นเล็กน้อย แต่ตอนนี้ในดวงตากลับเต็มไปด้วยความอ่อนโยน

สีหน้าของเฟิ่งซีก็ยังคงเหมือนเช่นปกติ มีความใสซื่อบริสุทธิ์แฝงอยู่ เธอยื่นมือข้างหนึ่งมากอดเอวของหลงหลินไว้ พูดด้วยเสียงเบาว่า “ฉันก็คิดถึงอาจารย์เหมือนกันนะ แต่ฉันรู้ว่าพี่จะคอยอยู่เป็นเพื่อนฉันตลอดเวลา ฉันก็รู้สึกไม่ค่อยเสียใจอะไรมากเท่าไหร่แล้ว”

หลงหลินพยักหน้า แล้วค่อยๆจุมพิตลงบนหน้าผากของเฟิ่งซี

พี่น้องสองสาวต่างก็ปลอบใจซึ่งกันและกัน ต่างก็รู้ว่าสำหรับเรื่องของเฉินเฟิงนั้นเป็นเรื่องที่พวกเธอเป็นห่วงมากที่สุดในตอนนี้

เฟิ่งซีถามขึ้นมาว่า “ไป๋ซูคนนั้นคิดอยากจะช่วยพวกเราพาเฉินเฟิงออกมาจริงหรือเปล่า?”

หลงหลินก็พูดอย่างไม่มั่นใจว่า “ไป๋ซูคนนั้น ดูไปแล้วเหมือนคนที่อ่อนโยนมาก แต่มักจะทำให้รู้สึกว่าภายในจิตใจของเขาแอบซ่อนอะไรเอาไว้ เลยทำให้มองไม่ออกว่าเขาเป็นคนยังไงกันแน่”

ฉันคิดว่าเขาไม่ใช่เป็นคนที่ใสซื่อบริสุทธิ์ และก็ไม่ใช่อย่างที่พวกเราเห็นอย่างนั้นแน่นอน”

เฟิ่งซีพูดเห็นด้วยว่า “ทุกครั้งเวลาที่เขาพูดกับฉัน นัยน์ตาดูเหมือนว่าใสสะอาด แต่ไม่รู้เป็นเพราะอะไร ฉันมักจะรู้สึกว่าเขาอยากจะทำอะไรสักอย่าง ถึงแม้จะพูดไม่ถูก แต่ก็ทำให้ฉันรู้สึกอึดอัดมาก”

ในใจหลงหลินก็ย่อมจะรู้ดีอยู่แล้ว แต่อย่างน้อยก็อยากรู้ว่าเฉินเฟิงตอนนี้เป็นตายร้ายดียังไงแล้ว

ไป๋ซูก็ดูออกสีหน้าของสองสาวพี่น้องที่แสดงถึงความกังวลใจ จึงรีบปลอบโยนว่า “ถึงแม้ว่าเฉินเฟิงตอนนี้ได้รับบาดเจ็บก็จริงอยู่ แต่โดยรวมแล้วก็ยังไม่มีอันตรายถึงชีวิต คุณทั้งสองก็ไม่ต้องเป็นห่วงมากนัก ฉันก็ได้พูดกับคุณปู่เฉียนแล้ว รอให้เขาปล่อยเฉินเฟิงออกมา ด้วยฝีมือการแพทย์ของคุณทั้งสอง รับรองว่าจะช่วยรักษาเขาให้หายได้”

เฟิ่งซีรู้สึกใจร้อนขึ้นมาเล็กน้อย มองไปยังไป๋ซูด้วยความหวัง แล้วพูดว่า “หรือว่าคุณไม่สามารถพาพวกเราไปเยี่ยมเขาบ้างเลยเหรอ? ฉันอยากจะรู้ว่าตอนนี้เขาเป็นยังไงบ้างแล้ว?”

แต่ว่าไป๋ซูกลับแสดงท่าทีลำบากใจ “ไม่ใช่ว่าฉันไม่ยอมพาพวกคุณไปหาเขาจริงๆ ต่อให้ฉันสามารถขอให้คุณปู่เฉียนปล่อยเขา แต่อย่างน้อยตอนนี้คุณปู่เฉียนก็ยังไม่ได้ตอบตกลงเลย ฉันจึงไม่สามารถที่จะไปก้าวก่ายมากจนเกินไป”

เฟิ่งซีคิดอยากจะพูดอะไรต่อไปอีก แต่ถูกหลงหลินห้ามเอาไว้ เฟิ่งซีคิดดูแล้ว ก็รู้ว่าข้อเรียกร้องนี้มันก็ยุ่งยากมากเกินไป

เธอรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยแล้วกลับไปนั่งที่เดิม ส่วนหลงหลินตอนนี้ก็ถามไป๋ซูว่า “คุณไป๋เข้ามาดึกดื่นขนาดนี้ น่าจะไม่เพียงแค่อยากจะพูดกับพวกเราเรื่องนี้เท่านั้นใช่ไหม?”

ไป๋ซูมองหลงหลินด้วยสายตาที่ชื่นชม แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ก็ยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่อยากจะพูดกับคุณทั้งสองจริงๆ”

หลงหลินพูดว่า “งั้นคุณไป๋ก็พูดมาได้เลย”

ไป๋ซูพูดว่า “ในเมื่อคุณหลงหลินพูดจาตรงไปตรงมาเช่นนี้ งั้นฉันก็ไม่พูดอ้อมค้อมแล้วนะ เพียงแต่ว่าที่ฉันช่วยพวกคุณทั้งสองอย่างนี้ ก็ยังมีจุดประสงค์อื่นเหมือนกัน”

หลงหลินก็ย่อมคิดไว้ก่อนแล้วว่าไป๋ซูจะต้องมีความคิดอะไรอื่นอีกแน่นอน แต่เธอก็ถามอย่างไม่กระโตกกระตากว่า “คุณไป๋อยากได้อะไรล่ะ เงินทองเหรอ? พวกเราสองคนพี่น้องนอกจากความรู้ทางการแพทย์ที่ติดตัวแล้ว ก็แทบจะไม่มีอะไรที่สามารถช่วยคุณไป๋ได้เลย?”

ไป๋ซูส่ายหน้าแล้วพูดว่า “พวกคุณคิดว่าฉันขัดสนเรื่องเงินเหรอ? ส่วนคุณทั้งสองมีฝีมือการแพทย์ติดตัวมานั้น ถึงแม้ฉันก็เคยได้ยินมาบ้างแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่ได้ต้องการอะไรแบบนั้น”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร