หญิงสาวคนนั้นโกรธมากลุกขึ้นยืน ดูเหมือนกำลังจะเดินจากไป
เฉินเฟิงรีบตะโกนว่า “รอเดี๋ยว!”
หญิงสาวเซ็กซี่คนนั้นกลับไม่คิดจะหยุดเลย ได้แต่เดินออกไปจากห้อง อีกทั้งยังปิดประตูอย่างแรงจนเกิดเสียงดังปั้งขึ้นมา
เฉินเฟิงส่ายหน้า ไม่รู้ว่าทำไมจิตใจตัวเองถึงไม่แน่วแน่ขนาดนี้
เมื่อรวบรวมสติให้นิ่งขึ้นแล้ว เขาก็มองสภาพร่างกายของตัวเอง กลับรู้สึกประหลาดใจมากกับบาดแผลบนร่างกายที่ได้หายดีแล้วกว่าครึ่งหนึ่ง นอกจากรอยบาดแผลภายนอกที่ยังคงน่าสะพรึงกลัวพวกนั้นแล้ว สภาพร่างกายและจิตใจกลับรู้สึกดีขึ้นมาก
นอนพักฟื้นอยู่นานรู้สึกเซ็งมาก ตั้งแต่ผู้หญิงคนนั้นจากไปแล้วก็ไม่มีคนอื่นเข้ามาอีกเลย
ในใจของเขาก็รู้สึกเป็นห่วงหลงหลินสองพี่น้อง อดทนต่อความเจ็บปวดของบาดแผลที่ยังแตะต้องไม่ได้ แล้วค่อยๆคลานลงมาจากเตียงด้วยความยากลำบาก
เปิดประตูที่หญิงสาวคนนั้นปิดด้วยความโกรธ แล้วเดินออกไปข้างนอก สำรวจดูบริเวณรอบๆแล้ว ดูเหมือนว่าที่นี่ก็มีแต่เฉินเฟิงอยู่เพียงคนเดียวเท่านั้น
เขารู้สึกหิวแล้ว แต่กลับหาที่จะกินข้าวไม่ได้เลย
หลังจากตะโกนเสียงดังออกไปแล้ว ก็ไม่ได้รับเสียงตอบรับกลับมาเลย เขาจึงสงสัยว่าตนเองมาอยู่ในสถานที่ที่ว่างเปล่าที่ไหนสักแห่ง ที่นี่นอกจากหญิงสาวคนนั้นแล้วก็ไม่มีใครอยู่อีกเลย
ไม่รู้จะทำยังไงดี เขาจึงเตรียมตัวที่จะเดินออกไปข้างนอก เมื่อเดินมาถึงข้างประตูเหล็กของหน้าลานบ้าน แล้วยื่นหน้ามองออกไปยังสุดทางถนน บริเวณนั้นก็ไม่มีผู้คนอาศัยอยู่แม้แต่คนเดียว
เฉินเฟิงรู้สึกกลัวขึ้นมาบ้างแล้ว หรือว่าที่นี่เป็นอีกโลกหนึ่งที่ไม่มีคนอยู่เลย
ทันใดนั้นบนท้องฟ้าก็มีเครื่องบินลำหนึ่งบินผ่านศีรษะไป พร้อมกับเสียงเครื่องบินที่ดังกระหึ่ม จึงทำให้เฉินเฟิงรู้สึกสบายใจมากขึ้น ในที่สุดเขาก็ยังคงมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้
ริมทางเนินเขามีร้านปลูกไม้เลื้อยตั้งอยู่หลังหนึ่ง กิ่งก้านที่คดงอของต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง ยื่นออกมาบังแดดไว้เป็นร่มเงาให้กับที่บริเวณนั้นพอดี
ใต้ต้นไม้ใหญ่ก็ยังมีโต๊ะเก้าอี้สำหรับให้คนนั่งพักเหนื่อยอีกด้วย เฉินเฟิงจึงเดินเข้าไปแล้วหาที่นั่งลง
เก้าอี้หินนั้นเย็นมาก พื้นผิวที่เป็นเงาแวววาวนั้นทำให้เกิดรู้สึกอยากจะไถลลื่นออกไป
มองดูทิวทัศน์ที่ห่างไกลออกไป กลับรู้สึกดูเหมือนเป็นที่ที่ค่อนข้างทุรกันดาร จึงรู้ว่าเขายังไม่ได้ออกไปจากทะเลทรายแห่งนี้เลย แต่อาจจะอยู่ใกล้ชายแดนเท่านั้น
หลังจากนั่งไปไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่แล้ว ในที่สุดก็มีรถเก๋งคันหนึ่งขับมาจากข้างนอก เฉินเฟิงก็ยังไม่ขยับตัว ตอนนี้เขาก็ไม่รู้สึกรีบเร่งเหมือนเมื่อครู่ที่อยากจะไปตามหาใครอีกแล้ว
ที่นี่เป็นเพียงสถานที่สำหรับพักผ่อนหย่อนใจ ดังนั้นถ้าไม่เห็นผู้คนก็นับว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่กลับไม่รู้ว่าไป๋ซิงคนนั้นเอาตัวเองมาเก็บไว้ที่นี่แล้ว ก็ไม่สนใจอะไรเขาอีกเลย มันหมายความว่าอย่างไรกันแน่
รถคันนั้นก็มาจอดอยู่ที่ลานบ้าน จากนั้นก็มีคนสองคนเดินลงมาจากรถ สำหรับผู้ชายคนนั้น เฉินเฟิงมองแค่แวบเดียว ก็จำได้ว่าเป็นชายร่างกำยำคนนั้นที่อยู่กับไป๋ซิง
ส่วนหญิงสาวอีกคนนั้นก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร ก็ไม่ใช่หญิงสาวเซ็กซี่ที่เฉินเฟิงเคยพบเจอคนนั้น
หลังจากพวกเขาลงจากรถแล้ว ชายร่างกำยำเมื่อเห็นเฉินเฟิงนั่งอยู่ตรงนั้น เขาจึงเดินตรงเข้าไปหา หญิงสาวคนนั้นยิ้มให้กับเฉินเฟิงจากนั้นก็เดินเข้าไปในบ้าน
“คุณมานั่งอยู่ที่นี่ทำไมล่ะ?” ชายร่างกำยำถาม
“ก็มานั่งเล่นเฉยๆ” เฉินเฟิงตอบ
ในเมื่อเฉินเฟิงไม่อยากพูดอะไร ชายร่างกำยำก็ไม่ใส่ใจ แล้วพูดต่อไปว่า “คุณชายไป๋ให้คุณพักอยู่ที่นี่ก่อน รอให้บาดแผลหายดีแล้ว เขาก็จะมาหาคุณเอง”
เฉินเฟิงกลับถามขึ้นว่า “คุณชายไป๋คนไหนล่ะ ฉันรู้จักทั้งสองคนเลย”
เฉินเฟิงคิดไม่ถึงว่าสองสาวฝาแฝดนั้นถึงกับปิดกั้นความสัมพันธ์กับคนที่อยู่คนละโลกกับพวกเธอได้ถึงเพียงนี้ แต่เขาก็ได้แต่ยิ้มจนเจื่อนๆ เขาคงไม่อาจจะแกล้งทำตัวเป็นคนปกติธรรมดาทั่วไปคนหนึ่งที่อยู่ข้างกายตลอดไปได้
“ฉันรู้แล้ว” เฉินเฟิงตอบด้วยความรู้สึกหดหู่
ชายร่างกำยำก็แนะนำเรื่องราวบางอย่างที่เกี่ยวกับที่นี่ หญิงสาวที่มากับเขาคนนั้นจะเป็นคนที่คอยดูแลเฉินเฟิงที่นี่ ถ้าต้องการอะไรก็บอกกับหญิงสาวคนนี้ได้เลย เธอจะทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้ ถ้าแก้ปัญหาอะไรไม่ได้ ก็มาบอกกับเขา
เฉินเฟิงก็ได้แต่ตอบตกลงอย่างขอไปที
หลังจากแนะนำทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ชายร่างกำยำก็กำลังจะจากไป ทันใดนั้นเฉินเฟิงก็นึกถึงสาวงามคนนั้นที่เขาได้เห็นตอนที่เพิ่งฟื้นตื่นขึ้นมาใหม่ๆ จึงแล้วถามชายกำยำว่า “สาวสวยคนนั้นที่อยู่ที่นี่เป็นใครเหรอ?”
แต่ว่าชายร่างกำยำกลับมองไปยังเฉินเฟิงด้วยความสงสัย แล้วถามว่า “ผู้หญิงอะไรเหรอ?”
“ก็ผู้หญิงผมยาวดกดำหน้าตาสวยงามมากคนนั้นไง ตอนที่ฉันตื่นขึ้นมา เธอก็อยู่ที่ห้องฉันพอดี” เฉินเฟิงพูดอธิบาย
แต่ว่าชายร่างกำยำก็ยังส่ายหัว เขาพูดว่า “ก่อนที่ฉันจะพาเสี่ยวเย่มาที่นี่ก็ไม่เคยมีคนอยู่ที่นี่เลย เดิมทีก็มีเพียงเสี่ยวเย่คนเดียวเท่านั้นที่คอยดูแลคุณที่นี่ ฉันพาเธอไปซื้อข้าวของที่จำเป็นต้องใช้กลับมา ส่วนที่นี่ก็ไม่มีใครอยู่อีกแล้ว”
เฉินเฟิงคิดดูแล้ว หรือว่าตอนที่เขาเพิ่งตื่นขึ้นมานั้น รู้สึกเกิดความผิดพลาดไป แต่นั่นมันเหมือนจริงมากเกินไปแล้ว สาวสวยขนาดนี้ เขาไม่ได้เห็นมานานแล้วนะ
ชายร่างกำยำยังคิดอยากจะถามให้แน่ชัดอีก เฉินเฟิงก็โบกมือให้เขา และไม่พูดคุยกับเขาอีกต่อไป
ชายร่างกำยำจึงไม่ได้ถามต่อไป แล้วพูดย้ำอีกครั้งว่าถ้าเฉินเฟิงมีเรื่องอะไรก็บอกเขาได้ จากนั้นจึงขับรถจากไปในที่สุด
เฉินเฟิงมองดูเขาจากไป จากนั้นก็เดินกลับเข้าไปในบ้าน ถึงแม้ที่นี่ดูไม่ใหญ่โตเท่าไหร่นัก แต่ก็ยังอยู่ได้ถึงสิบกว่าคนก็ไม่ใช่เป็นปัญหาใหญ่ ยิ่งไม่ต้องพูดเลยว่าตอนนี้มีเพียงเขาและเสี่ยวเย่อยู่กันแค่สองคนเท่านั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร
คือรำคาญพระเอกแนวนี้มากมีเงินรวยแต่ทำตัวติดดินให้คนดูถูกตัวเอง ดูถูกตัวเองก็ไม่เท่าไรเมียตัวเองต้องมาทนโดนดูถูกไปด้วยเพื่อ..ตระกระความคิดนี้มันยังไง ไม่ต้องอวดรวยก็ได้ แค่รู้จักปรับลุคตัวเอง ให้ไม่ดูติดดินเกินไปจนคนอื่นดูถูกแค่นี้ก็ยากเกินไปรึไง ไม่รำคาญพวกโง่วิ่งมาหาเรื่อง ก็ควรนึกถึกว่าพวกโง่จะหาเรื่องเมียตัวเองด้วยสิ...
งง ตั้งแต่ตอน800มาเนี่ยเหมือนคนละเรื่องเลย แค่พระเอกชื่อเด่วกัน จู่ๆพระเอกก้อไปจีบหลินหวั่นชิวซะงั้น ตัวละครเก่าหายหมด มีแต่ตัวละครใหม่ผุดขึ้นมา ต่อสู้กันแบบไมม่มีสาเหตุ...
อ่านมาถึงตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าอ่านไปปวดหัวไป เล่าประวัติพระเอกมาว่าเป็นเด็กที่ถูกตระกูลทอดทิ้ง แม่ตายออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่เล่ามาซะอย่างกับพระเอกเก่ง ฉลาด ทันคน มีความรู้ อ่านแล้วหงุดหงิดใจริงๆ...