กู่เหอพยักหน้าแล้วรีบจากไป
ในใจตื่นตระหนกอย่างมาก
เขาคิดว่าเจ็ดตระกูลเก่าแก่ก็เก่าแก่มากพออยู่แล้ว ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยสงสัยว่าตระกูลพวกนั้นมีอยู่ในประวัติศาสตร์จริงมั้ย แต่ว่าทุกครั้งที่เปลี่ยนราชวงศ์ก็ล้วนมีการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ การที่เจ็ดตระกูลเก่าแก่ยังสืบทอดกันมาได้ก็นับว่าโชคดีมากแล้ว
แต่คิดไม่ถึงว่า ยังมีตระกูลแบบนั้นอยู่จริงๆ!
ตระกูลที่มีอายุกว่าพันปี อาจมากกว่าสองพันปีก็ได้ ตระกูลแบบนี้ จะน่ากลัวซักแค่ไหนกันนะ?
เขาไม่กล้าคิดต่อแล้ว รู้เรื่องพวกนี้ไปก็ไม่มีประโยชน์กับเขาเลยสักนิด
เขาแน่ใจว่า ไอ้อู๋คนนั้น ต้องมาจากพลังแบบนี้แหละ!
รอให้กู่เหอจากไปแล้ว กู่ชางหลงถึงพูดต่อว่า "เธอรู้ไหมว่าทำไมตอนนั้นฉันถึงได้หนีออกจากตระกูล?
เย่เซิ่งเทียนเหลือบมอง "อาจเป็นเพราะตระกูลโบราณที่ลึกลับ?"
"ใช่แล้ว"
กู่ชางหลงถอนหายใจแล้วพูดต่อว่า "ในตอนนั้นฉันเป็นถึงเทพบู๊ห้าดาวขั้นสูงสุด มีรากทิพย์ ในตอนที่กำลังจะทะลวงผ่านแดนเหนือโลกีย์ ก็รู้สึกเหมือนถูกจ้องมองอยู่ ตอนนั้นฉันนึกว่าคิดผิดไป ก็เลยไม่ได้สนใจซักนิด"
"จากนั้นทุกครั้งที่ฉันผ่านเขตแดน ความรู้สึกแบบนั้นก็จะกลับมาอีก ดังนั้นฉันก็เลยฉวยโอกาสตอนผ่านเขตแดนครั้งนั้น แกล้งตาย ไม่คิดว่าจะมีคนอยู่จริงๆ!ฉันไม่รู้ว่าเขาหน้าตาเป็นยังไง ได้ยินเพียงแค่เสียงถอนหายใจของเขา ระดับพลังมากกว่าฉันไปหลายขุม!"
เย่เซิ่งเทียนถามอย่างสงสัยว่า "ไม่ใช่สิ ถ้าเก่งกาจขนาดนั้น ไม่มีทางที่จะดูไม่ออกหรอกว่าคุณน่ะแกล้งตาย!"
กู่ชางหลงพูดอย่างภูมิใจว่า "ก็นี่มันเป็นเรื่องที่ฉันเชี่ยวชาญนี่ สภาพของฉันในตอนนั้น จะดูเหมือนว่าฉันแกล้งตาย หรือจะดูเหมือนฉันตายจริงๆก็ได้ทั้งนั้น วิญญาณก็แตกแยกจากกันแล้ว เขาต้องคิดว่าฉันตายจริงๆแน่นอน"
"เป็นไปได้ยังไง วิญญาณแตกแยก จะกลับมามีชีวิตได้ยังไงกัน?"
เย่เซิ่งเทียนมองกู่ชางหลงอย่างตกตะลึง ในใจคิดว่าชายชราผู้นี้ต้องโม้เกินจริงแน่ๆ
กู่ชางหลงพูดด้วยท่าทีลึกลับว่า "ที่จริงแล้วฉันฝึกฝนวิญญาณดวงที่สองออกมาแล้ว ตอนหนุ่มๆฉันได้ออกผจญภัยมากมาย สามารถฝึกฝนวิญญาณดวงที่สองได้ ดังนั้นตอนนั้นที่ฉันแตกสลาย ก็แค่วิญญาณดวงที่สองเท่านั้น"
"หลังจากนั้นฉันแอบทะลวงผ่านแดนเหนือโลกีย์ แล้วก็แอบสืบข้อมูลของตระกูลโบราณที่ลึกลับตามที่เคยได้ยินมา ผ่านไปหลายปี เรื่องที่ฉันแน่ใจมีเพียงแค่เรื่องของตระกูลเหย้และตระกูลตระกูลเฟิงแค่นั้น สองตระกูลนี้สืบทอดมายาวนานกว่าหนึ่งพันห้าร้อยปี"
"งั้นคุณจะพูดทำไม!"
เย่เซิ่งเทียนกลอกตา
"เฮ้ยๆ นี่คือโอกาสยังไงล่ะ โอกาสครั้งหนึ่งในชีวิต ทำไมเธอไม่ปล่อยวางเรื่องของไอ้อู๋นั่นไปซะก่อนล่ะ?"
ในสายตาของกู่ชางหลงมีแสงไฟสว่างขึ้น "เพราะฉันรู้ว่า หล่อนเป็นคนของตระกูลโบราณที่ลึกลับ ในเมื่อหล่อนคอยนำทางให้เธอตามหาแม่ งั้นก็ใช้โอกาสนี้เสียสิ"
ในตาของเย่เซิ่งเทียนเหมือนมีแสงสว่างขึ้น "ฉันและคุณร่วมมือกัน?"
กู่ชางหลงพยักหน้าชื่นชม "ฉลาดพอ อีกอย่าง ฉันจะบอกเธออีกครั้งนะ เบื้องหลังไอ้อู๋นั้นก็ยังมีหญิงคนหนึ่ง แต่ฉันก็ไม่กล้าเข้าใกล้ ข้างกายของหญิงคนนั้นมีผู้พิทักษ์ชะตาอยู่ พลังแข็งแกร่งมาก"
"หลานเอ๋ย เธออย่าคิดนะว่าที่โลกนี้ยกย่องให้เธอเป็นคนที่มีพลังแกร่งกล้าที่สุดในยุคนี้ แล้วเธอจะยอดเยี่ยมที่สุด นั่นมันเพราะว่าคนเหล่านั้นไม่ได้ชายตามองเธอ พวกเขาไม่ได้อยากจะเข้ามาแทรกแซงกับอำนาจในโลก ไม่งั้นคนเหล้านั้นก็จะเหยียบย่ำเธอจนตาย
"ตอนนั้น ไอ้เด็กเย่หลงยังไม่กล้ายอมรับ ทำได้แค่รับชื่อเทพสงคราม แต่เธอกลับใจกล้า กล้าเรียกตัวเองว่าคนที่มีพลังแกร่งกล้าที่สุดในโลกบู๊"
เย่เซิ่งเทียนพูดอย่างไม่ทุกข์ร้อนว่า "พูดเรื่องไร้ประโยชน์ให้น้อยลงหน่อย คุณมีแผนการอะไรก็ว่ามา อีกอย่างคุณต้องบอกพลังที่แท้จริงของเจ็ดตระกูลเก่าแก่ให้ฉันรู้ ไม่งั้นคุณก็ทำไปคนเดียวเลย ยังไงซะฉันก็ไม่ได้ต้องการสิ่งนี้ ตอนนี้ฉันมีลูกมีเมียก็พอใจกับที่เป็นอยู่แล้ว"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Mars เจ้าสงครามครองโลก
เนื้อเรื่องน่าจะต่อได้อีกนะรีบจบไปหน่อย มีหลายปมเลย ปกแรกเย่หลงตายรึยัง ปมที่2ซือซือทำไม่ถึงลืมเรื่องที่เกิดขึ้น ปมที3หวางซีเป็นสเก็ดวิญาณของใคร หายไปไหนทำไมเห้ยซูหลิงถึงหาเจอ ปมที่4หมิงหยูเลยลูกชายจะช่วยแทบตายไม่กล่าวถึงเลยคือคาฝจมากคนแต่งน่าจะแต่งต่อได้อีกพันตอน...
ฟ้าสยบทำไม่ไม่ช่วย...
ตั้งแต่โดนวางยา..จนถึงตอนเย่เซิงเทียนดูโง่ๆเลย...
เจ้าเทพอะไรดูโง่จัง..โดนจูงจมูกเหนื่อยใจกับคนแต่ง...